บทที่ 70 ของขวัญจากบริษัทหลงเถิง
หลังอาหารเย็นหลินจ้าวหยูนก็กลับไปที่หอพักในมหาลัย
“พี่เขยว่างๆ เข้ามาเที่ยวที่มหาวิทยาลัยหมิงจูนะ เดี๋ยวหนูจะแนะนำรูมเมทให้พี่รู้จัก”
ก่อนไปหลินจ้าวหยูนพูดทิ้งท้ายอีกครั้งและถังเฉาก็ตอบตกลงเธอ
หลิยชิงเสว่สีหน้าแปลกประหลาด “ทำไมแค่สองวันคุณก็ดูสนิทกับจ้าวหยูนแล้ว?”
“บางที ผมอาจจะเป็นที่ชอบของคนอื่นก็ได้นะ”
ถังเฉาแตะที่จมูกแล้วหัวเราะเบาๆ “เสี่ยวลี้เห็นผมครั้งแรกก็เรียกผมว่าพ่อแล้วไม่ใช่เหรอ”
“เหอะ” หลิยชิงเสว่กลอกตาแล้วเดินไปล้างจาน
“ผมช่วยคุณนะ”
ถังเฉาก็เดินเข้าไปช่วยหลิยชิงเสว่ล้างจานในห้องครัว
แม้หลิยชิงเสว่จะแสดงสีหน้าต่อต้านอยู่พักหนึ่ง แต่เมื่อเห็นความตั้งใจถังเฉาเธอก็ต้องยอมใจเขา
ในห้องครัวมีเพียงเสียงน้ำที่ไหลลงอ่างล้างจาน ซึ่งเป็นบรรยากาศก็ดูอึดอัดมาก
“วันนี้การร่วมมือกับตระกูลหลินได้รับการอนุมัติแล้ว อีกวันสองวันเราก็จะเริ่มดำเนินการแล้วล่ะ”
ทันใดนั้นเสียงพูดของหลิยชิงเสว่ก็ทำลายความเงียบไป “อีกอย่าง ฉันหานักแสดงหญิงได้แล้ว เธอชื่อถังชิงเหอ เป็นลูกศิษย์ของคนบ้าดนตรี”
“คุณรู้จักคนบ้าดนตรีด้วยเหรอ?”
ถังเฉาถามหลิยชิงเสว่อย่างประหลาดใจ
หลิยชิงเสว่พยักหน้าตอบ “คนบ้าดนตรีฉินเจียนเวย ฉันต้องรู้จักสิ”
จากนั้นถังเฉาไม่ได้พูดอะไรอีก เขามองออกไปในความมืดที่ค่อยๆ ปกคลุมเข้ามา
คนบ้าดนตรีฉินเจียนเวย เป็นคนที่โด่งดังที่สุดในหัวเซี่ยชีชือ
เธอไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิง แต่วงการบันเทิงทั้งหมดก็ยกย่องให้เธอเป็นตำนาน
ด้วยผ้าสีขาวที่คลุมใบหน้า เสียงดนตรีอันไพเราะเสนาะหู ทำให้ทุกคนที่ได้รับฟังแล้วต้องตกตึงกับเสียงที่มาจากสวรรค์นี้
แต่การที่ได้ฟังคนบ้าดนตรีบรรเลงเพลงนั้นต้องขึ้นอยู่กับ ‘พรหมลิขิต’ ด้วย
เมื่อมีพรหมลิขิต คุณไม่จำเป็นต้องเสียเงินสักแดงเพื่อที่จะได้รับฟังเสียงดนตรีจากคนบ้าดนตรี ในทางกลับกัน ถ้าไม่มีพรหมลิขิต ต่อให้เสียเงินสักเท่าไหร่ก็ไม่มีโอกาสได้รับฟังเสียงดนตรีจากเธอ......ครั้งหนึ่งเคยมีคนจ้างเธอลงจากเขาด้วยเงินสิบล้านเหรียญสหรัฐเพื่อให้เธอบรรเลงเพลงให้เขาฟัง แต่สุดท้ายกลับถูกเธอปฏิเสธ ซึ่งทำให้เศรษฐีคนนั้นโกรธมากและใช้วิธีบีบบังคับให้คนบ้าดนตรีบรรเลงเพลงให้เขาฟัง แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ต้องจบอย่างอนาถ
เหตุการณ์นี้ยังทำให้คนบ้าดนตรีลึกลับมากขึ้น ไม่มีใครเคยเห็นใบหน้าของคนบ้าดนตรี เพราะไม่มีใครสามารถถอดผ้าคลุมหน้าของเธอออกได้
นอกจากชายคนหนึ่ง
แต่สิ่งที่ทำให้ถังเฉาไม่คาดคิดก็คือถังชิงเห็นคนนี้เป็นลูกศิษย์ของคนบ้าดนตรี
เมื่อเห็นถังเฉาเงียบไป หลิยชิงเสว่ก็ถามขึ้นอีกครั้ง “เรื่องงานคุณไปถึงไหนแล้ว? จะเข้าไปทำงานในบริษัทลี่จิงไหม?”
ถังเฉารีบปฏิเสธอย่างรวดเร็ว “เรื่องงานผมจะหาทางเอง”
หลิยชิงเสว่พยักหน้าตอบและไม่ได้พูดอะไรต่อ
เธอคิดว่าในเมื่อตอนนี้ครอบครัวก็กลับมาสมบูรณ์แล้ว ถังเฉาผู้เป็นพ่อควรหางานที่มั่นคงและเป็นงานที่สามารถพัฒนาต่อได้ถึงจะถูกต้อง
ซึ่งถังเฉาเองก็พิจารณาถึงปัญหานี้เหมือนกัน เขาควรจะหางานทำแล้วใช่ไหม? เขาคงนอนอยู่บ้านทุกวันไม่ได้หรอก
กริ๊ง กริ๊ง......
ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
เป็นสายโทรเข้าจากเจิงเทียนเสียง
ถังเฉารู้สึกเอะใจ ดึกป่านนี้แล้วเขาโทรมาทำไม?
“ว่าไง?”
“คุณถังครับ ผมมีเรื่องเกี่ยวกับงานที่คุณสั่งไว้จะรายงานครับ”
เสียงของเจิงเทียนเสียงพูดอย่างประจบประแจง “คืองี้ครับ วันพรุ่งนี้หลงเถิงกรุ๊ปก็จะย้ายเข้าไปในอาคารกั๋วจี้แล้วครับ พวกเขาเพิ่งมาถึงและอยากสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้าของอาคาร ดังนั้นอีกหนึ่งอาทิตย์ข้างหน้าพวกเขาจะเป็นเจ้าภาพในงานเลี้ยงและจะเชิญชวนเจ้าของธุรกิจทั้งหมดในอาคารกั๋วจี้ร่วมงานด้วยครับ”
“จริงดิ......”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม