“อะไรนะ?”
“พาผู้ชายไปด้วยคนหนึ่ง?”
ตามจากการรายงานของคนคนนั้น ห้องโถงใหญ่ที่เดิมเอะอะมะเทิ่งกันอยู่ก็เปลี่ยนเป็นเงียบสงบในทันที
ทุก ๆ คนล้วนแต่ใช้สายตามองไปยังเจียงเทียนโหย่วที่อยู่ตรงกลางโดยตรง ตอนนี้เขาเป็นคนที่พึ่งพาได้ของที่นี่
ตัวเจียงเทียนโหย่วเองก็เปลี่ยนสีหน้าไปเล็กน้อย เขาไม่ได้แปลกใจเลยกับการที่เจียงไป๋เสว่จะมาที่นี่
ถูกหักหลังที่สุสานภูเขาเป่า จะต้องอัดอั้นความเดือดดาลไว้เต็มท้องแน่ ต้องกลับมาถามให้ชัดเจนอย่างแน่นอน พอถึงตอนนั้นเขาก็จะสามารถลงมือกับเจียงไป๋เสว่ได้แล้ว
เพียงแต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือเธอจะพาผู้ชายคนหนึ่งกลับมาด้วย
เจียงเทียนโหย่วยังไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าเจียงไป๋เสว่จะไปรู้จักกับผู้ชายคนไหนในเยี่ยนจิงมา
“ผู้ชายคนนั้นรูปพรรณสัณฐานเป็นอย่างไร?”
เจียงเทียนโหย่วไม่ได้ตื่นตระหนก หลังจากที่ไตร่ตรองอยู่นานก็เอ่ยถามขึ้น
คนคนนั้นทวนความจำอยู่พักหนึ่ง แต่กลับไม่ได้พูดถึงหน้าตาอย่างละเอียด เพียงพูดขึ้นมาประโยคหนึ่งว่า “ไม่เคยเจอเขาในตระกูลหลวงในเยี่ยนตูครับ”
ได้ยินประโยคนี้แล้วเจียงเทียนโหย่วกับคนในตระกูลเจียงทุกคนก็วางใจ
จะมีเพียงเจียงเค่อเอ๋อร์เท่านั้นที่ยังตกตะลึงอยู่กับที่
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ในใจของเธอมีลางสังหรณ์บางอย่างว่าวันนี้ตระกูลเจียงจะก่อเรื่องวุ่นวายจนพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ
“นึกไม่ถึงว่าผู้หญิงต่ำช้าคนนั้นจะกล้าพาผู้ชายธรรมดา ๆ ข้างนอกมาจัดการกับตระกูลของตัวเอง เยี่ยมจริง ๆ ในเมื่อเป็นเช่นนี้พวกเราก็ไม่อาจปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นธรรมได้ใช่ไหม?”
บนใบหน้าของเจียงเทียนโหย่วมีรอยยิ้มโหดเหี้ยมอยู่ ยิ้มอย่างร้ายกาจ “ถ้าหากว่าเธอไม่รู้จักอ่านสถานการณ์ วันนี้ก็ส่งเธอไปอยู่ด้วยกันกับแม่ของเธอที่ตายไปตั้งนานแล้วซะ!”
“ไม่รู้จักดีชั่วจริง ๆ เร่ร่อนอยู่ข้างนอกมานานขนาดนั้น พอกลับมาตระกูลเจียงยังไม่สำนึกแม้แต่น้อย ไม่ลงโทษเธอสักหน่อยก็คงไม่รู้ว่าในตระกูลเจียงใครเป็นใหญ่!”
“พี่เทียนโหย่ว ไม่ต้องไปใจอ่อน แต่ไหนแต่ไรมาเธอก็ไม่ใช่คนของตระกูลเจียงของพวกเรา!”
......
คนอื่น ๆ ในตระกูลเจียงก็ทยอยกันออกปากพูดคล้อยตาม บนใบหน้ายิ้มเยือกเย็นติด ๆ กัน
เจียงเทียนโหย่วหาคนมาจัดการทันที ทั้งตระกูลเจียงอยู่ในสถานการณ์ระวังภัยในทันที
ตอนนี้เป็นวันทำงานพอดี ในตระกูลเจียงนอกจากบรรดาคุณหนูคุณชายที่เอ้อระเหยลอยชายไปมาแล้ว เหล่าบุคคลที่เป็นเสาเอกกลับไม่อยู่
เพียงชั่วพริบตา ภายในงานเลี้ยงทั้งหมดก็มีเพียงเจียงเค่อเอ๋อร์คนเดียวแล้ว
พอเรียกสติกลับมาได้ เธอก็วิ่งตามออกไปทันที
บึ้ม!
เพิ่งจะออกมา เงาร่างหนึ่งก็พุ่งเข้ามาด้วยความรวดเร็ว
นั่นคือผู้คุ้มกันของตระกูลเจียง ถูกคนโยนทิ้งราวกับซากศพสุนัข ทำเอาเจียงเค่อเอ๋อร์รีบหลบด้วยความกลัว
ในช่วงที่กำลังตื่นตระหนกอยู่นั้น ก็มองเห็นชายหนึ่งหญิงหนึ่งยืนอยู่ที่ประตูใหญ่ซื่อเหอย่วนของตระกูลเจียง คนที่ลงมือไม่ใช่ผู้ชายคนนั้น แต่กลับเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง
นั่นก็คือเจียงไป๋เสว่
ใบหน้าของเธอราวกับเหมันต์ฤดู ดวงตาสาดประกายเข้มครึ้ม มองทุกคนที่อยู่รอบ ๆ
เจียงเทียนโหย่วกลับไม่มีความหวาดกลัวเลยสักนิด ตรงกันข้ามกลับมีรอยยิ้มเยือกเย็นที่น่าสะพรึงกลัว
“เอ๋ นี่ไม่ใช่น้องไป๋เสว่หรอกหรือ เป็นอะไรน่ะ โกรธขนาดนี้เชียว?”
เขาหัวเราะหึหึเดินเข้ามาอยู่ตรงหน้าของเจียงไป๋เสว่ มองเธออย่างเยือกเย็น
เจียงไป๋เสว่คว้าเอาเนกไทบนชุดสูทของเจียงเทียนโหย่วตรง ๆ มองเขาอย่างเดือดดาล เอ่ยด้วยความเดือดดาลเป็นอย่างยิ่งว่า “หลอกฉันทำไม?”
ในตอนนี้เจียงเทียนโหย่วยังแกล้งโง่ “หลอกเธออะไร ฉันไปหลอกอะไรเธอ?”
“แม่ของฉัน”
เจียงไป๋เสว่พูดอย่างน่ากลัวว่า “พวกคุณไม่ไปเซ่นไหว้บูชาเธอก็ช่างเถอะ ทำไมจะต้องสั่งให้คนมารื้อสุสานของเธอด้วย!”
พรืด!
หลังจากที่เจียงไป๋เสว่พูดจบ คนรอบ ๆ ก็ส่งเสียงหัวเราะเสียดสีขึ้นมาทันที
ทุกคนล้วนแต่กำลังกลั้นหัวเราะอย่างยากลำบาก ราวกับได้ยินเรื่องที่ตลกมาก ๆ แต่กลับไม่ควรจะหัวเราะออกมาอย่างไรอย่างนั้น
แม้แต่เจียงเทียนโหย่วที่ถูกดึงเนกไทเอาไว้ก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม