“ไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ?”
สายตาของถังเฉามองมา พูดด้วยใบหน้าเป็นห่วง
เขาประทับใจเด็กสาวหนึ่งเดียวในตระกูลเจียงที่กล้าพูดความจริงคนนี้มาก
“ฮะ? อ๋อ... ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ!”
ในพริบตาที่สายตาของถังเฉามองมานั้น พอสายตาประสานกัน ใบหน้าของเจียงเค่อเอ๋อร์ก็แดงก่ำทันที กลอกตาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอึดอัดขัดเขิน ขานรับด้วยอาการมือไม้สะเปะสะปะ
เจียงเค่อเอ๋อร์อายุยังน้อย ประมาณยี่สิบปี สวมเสื้อชุดแบบจีนสีขาว มองแล้วสบายตาเป็นอย่างมาก
ถังเฉาพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ให้เธอเข้าไปอยู่ในกลุ่มคน
สำหรับผู้อ่อนอาวุโสของตระกูลเจียงที่อยู่ข้าง ๆ เจียงเค่อเอ๋อร์นั้น ก็ยิ่งทำราวกับเห็นผี พอตั้งสติได้ก็เขยิบห่างจากเจียงเค่อเอ๋อร์ไปหนึ่งก้าว
ถังเฉาเก็บเข็มเงินไป จากนั้นก็ยิ้มเฉยชาให้กับเจียงเทียนโหย่ว
“ตอนนี้ก็รู้แล้วว่าผมเป็นใคร พวกเราควรจะพูดเรื่องสำคัญแล้วใช่ไหม?
เพิ่งจะสิ้นเสียง รอยยิ้มบนใบหน้าของถังเฉาก็ค่อย ๆ หุบลงทีละส่วน เดินก้าวยาว ๆ ไปทางเจียงเทียนโหย่ว
ทันใดนั้นรังสีสังหารที่น่าสะพรึงกลัวก็จู่โจมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ
อย่าว่าแต่เจียงเทียนโหย่วที่ถูกถังเฉาจ้องอยู่เลย แม้แต่คนอื่น ๆ ทั้งหลายในตระกูลเจียงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็ล้วนแต่เห็นท่าไม่ดีแล้ว
ร่างกายของถังเฉาดูเหมือนพลังภายนอกจะไม่ได้มีมากมาย แต่พลังที่แข็งแกร่งทำให้พวกเขารู้สึกจิตใจปั่นป่วน
“ระ... เรื่องสำคัญอะไร?”
เจียงเทียนโหย่วพูดทั้งร่างกายสั่น ๆ ถอยหลังไปทีละก้าว ๆ
“คุณถามผมหรือ?”
ถังเฉาหัวเราะออกมา หัวเราะได้เยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง “ดูเหมือนผมจะต้องเตือนสติคุณสักหน่อยนะ”
บึ้ม!
เพิ่งจะสิ้นเสียง ถังเฉาก็ลงมืออย่างรวดเร็วและรุนแรง แขนเป็นเหมือนมังกรที่ออกจากถ้ำ คว้าเข้าไปที่ลำคอของเจียงเทียนโหย่ว
ออกแรงยกเขาขึ้นมาอย่างทื่อ ๆ
“อ๊ากกก!”
ฉากนี้สั่นสะเทือนอยู่ภายในใจของบรรดาผู้อ่อนอาวุโสของตระกูลเจียงเหล่านั้น พอพวกเขาตั้งสติได้ก็ร้องขึ้นมาอย่างตื่นตระหนก ภายในใจของทุกคนล้วนแต่หวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง
ทว่าถังเฉาไม่ได้รับอิทธิพลที่ส่งมาจากภายนอกเลยแม้แต่น้อย ดวงตาทั้งคู่ของเขามีเพียงเจียงเทียนโหย่วคนเดียวเท่านั้น
“ตอนนี้นึกออกหรือยังล่ะ?”
รอยยิ้มของถังเฉาเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง มือที่คว้าคอของเขาเอาไว้ออกแรงน้อย ๆ ที่ลำคอก็ส่งเสียงสั่นสะเทือนของกระดูกดังกร๊อบ
นาทีนี้เจียงเทียนโหย่วได้กลิ่นความตายที่น่าหวาดผวา ขาทั้งคู่ของเขาเตะสะเปะสะปะอย่างรุนแรง
ถังเฉาโยนเขาลงไปบนพื้นตรง ๆ เจียงเทียนโหย่วหวาดกลัวจนถึงขีดสุด ไม่มีท่าทางวิจารณ์ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว พอคิดจะหนี เท้าใหญ่ ๆ ข้างหนึ่งก็เหยียบลงมาบนหน้าอกของเขา
ถังเฉากดสายตามองเขาจากมุมสูง สายตาเย็นยะเยือกอย่างถึงที่สุด “ทำไมถึงให้คนไปขุดสุสานที่ภูเขาเป่า?”
เจียงไป๋เสว่เองก็เดินเข้ามามองเขาอย่างเยือกเย็น
เท้าของถังเฉากดจนเขาหายใจไม่ออก เสียงของเจียงเทียนโหย่วเต็มไปด้วยความเจ็บปวดทรมาน
“พวกเราตระกูลเจียงไม่ชอบเธอ เป็นเจียงสือเหนียนที่เสนอจะเอาผู้หญิงคนนี้กลับมาเอง!”
“เรื่องที่พวกเราทำเพียงแค่อยากจะไล่เธอออกไปก็เท่านั้น อีกอย่าง พวกเราก็ไม่ยอมรับว่ามีตรงไหนที่ทำผิดไป”
“ระหว่างคนกับคนมันมีความต่างของฐานะมาโดยตลอด นี่เป็นความทะนงของพวกเราที่เป็นตระกูลหลวง!”
แม้ว่าจะโดนถังเฉาเหยียบอกอยู่ เจียงเทียนโหย่วก็ยังคงพูดคำพูดเช่นนี้
ประโยคสุดท้ายทำให้สายตาของถังเฉากับเจียงไป๋เสว่เข้มครึ้มในทันที ก้นบึ้งของหัวใจถูกเติมเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม
โดยเฉพาะเจียงไป๋เสว่ สำหรับเธอแล้วการจะกลับมาตระกูลเจียงหรือไม่ เธอล้วนแต่ไม่สนใจ แต่เพราะเหตุนี้ได้เกี่ยวข้องไปถึงสุสานมารดาของเธอ เธอไม่มีทางที่จะทนรับได้
ถังเฉาเพิ่มแรงขึ้นไปอีกตรง ๆ เหยียบจนเจียงเทียนโหย่วหายใจไม่ออก เขารู้สึกว่ากระดูกหน้าอกของตนเองใกล้จะแตกหักแล้ว
“อย่างนั้นหรือ ถ้าหากว่าพวกคุณอย่างไรก็จะตัดสินคนจากชาติกำเนิด ถ้าอย่างนั้นผมก็จะบอกมาตรฐานการเปรียบเทียบของผมหน่อยแล้วกัน”
ถังเฉายิ้มอย่างโหดเหี้ยม เอ่ยว่า “หมัดอยู่ที่ผม มีเพียงหมัดเท่านั้น ในสายตาของผม คุณมันก็เป็นแค่หมูที่ต่ำต้อย เชื่อหรือไม่ตอนนี้ผมจะเหยียบคุณให้ตายในทีเดียว แล้วก็จะไม่เป็นเรื่องด้วย?”
ว่าแล้วถังเฉาก็เพิ่มแรงต่อไปอีก กระดูกหน้าอกของเจียงเทียนโหย่วถูกเหยียบจนส่งเสียงดังกร๊อบ
“อ๊ากกก...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม