คำถามย้อนกลับอย่างต่อเนื่องทำให้เจียงไป๋เสว่นิ่งอึ้งไปทันที
พลังที่อยู่บนร่างหายไปไม่น้อย
ถังเฉายืนอยู่ด้านหลังเธอ ทอดถอนใจในใจครั้งหนึ่ง สมกับเป็นฟอสซิลเป็น ๆ กับตาเฒ่าปีศาจที่อยู่มาเกินครึ่งชีวิต
เจียงไป๋เสว่ต้องปะทะกับเขาต้องเสียเปรียบไม่น้อยจริง ๆ
คนทั้งตระกูลเจียงล้วนแต่หมดหนทางจะรับมือกับเจียงไป๋เสว่ แต่ประโยคเดียวของเจียงหนานซานกลับขวางเธอเอาไว้ได้
ใช่สิ เธอมาด้วยความเจ็บแค้น จะดับความพิโรธได้อย่างไร?
พูดอยู่กับปากว่าหนี้เลือดต้องชดใช้ด้วยเลือด แต่เธอจะสามารถสะสางกับทุกคนได้จริง ๆ หรือ?
สะสางแล้วจะขจัดความโกรธและความเกลียดในใจของเธอได้จริงหรือเปล่า?
ไม่ได้
ตรงกันข้าม หลังจากที่ชำระสะสางแล้ว อย่างน้อยเธอก็ต้องหดหู่และจมอยู่ในความทุกข์ไปอีกนาน
ถังเฉาเข้าใจความรู้สึกนั้นดี
สามปีก่อน หลี่เห้าพี่ใหญ่ที่ดีที่สุดของเขาเป็นตายไม่แน่ชัด เขาสังหารคนเป็นพันคนเต็ม ๆ สร้างชื่อเสียงขึ้นมาในสงครามเดียว
แต่หลังจากนั้นล่ะ?
เพราะว่าสังหารคนมากเกินไป สภาพจิตใจจึงไม่ปกติ เมื่อหลับตาลงก็จะเห็นภาพคาวเลือดที่กระเซ็นมาบนใบหน้าของเขา
เขานอนไม่หลับแม้แต่ชั่วขณะเดียว สุดท้ายก็ไม่ได้หลับตาไปสามวันสามคืนเต็ม เป็นคนก็ไม่ใช่ เป็นผีก็ไม่เชิง
นี่ก็คือผลลัพธ์ของการแก้แค้น
คนที่เจ็บปวดทรมานที่สุดไม่ใช่คนที่สังหารคน และก็ไม่ใช่คนที่ถูกสังหาร แต่เป็น… คนที่แก้แค้น
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ สายตาของถังเฉาก็เปลี่ยนเป็นลึกล้ำ ติดตามสถานการณ์อย่างสงบ
“ถ้าหากทำแบบนี้แล้วจึงจะสามารถกำจัดความโกรธในใจของเธอได้ละก็ ถ้าอย่างนั้นก็เชิญฆ่าฉันเถอะ"
เจียงหนานซานเอ่ยกับเจียงไป๋เสว่
อีกทั้ง เขายังพูดประโยคนี้ด้วยรอยยิ้ม
“…”
พอคำนี้ลั่นออกมา ทุกคนก็ล้วนแต่ตกตะลึงไป
เจียงไป๋เสว่เบิกตาโตอย่างไม่อยากจะเชื่อ ขมุบขมิบปากอยู่พักหนึ่ง แต่กลับไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้แต่ประโยคเดียว
สีหน้าของทุกคนในตระกูลเจียงก็เปลี่ยนไป โดยเฉพาะเจียงหลงเจ๋อกับเจียงเทียนโหย่วก็ร้องออกมาเสียงดังด้วยสีหน้าร้อนใจ
“อดีตผู้นำ…”
“คุณปู่!”
ความหมายของเจียงหนานซานที่มีต่อตระกูลเจียงก็เทียบได้กับที่หลงไป่ชวนมีต่อตระกูลหลง ฉินโช่ววงมีต่อตระกูลฉิน ถ้าหากตายไป ชะตาของตระกูลคงมาถึงจุดสิ้นสุด
จะให้เกิดเรื่องได้อย่างไร?
หลังจากผ่านความสงบในช่วงสั้น ๆ บนใบหน้าของเจียงไป๋เสว่ก็ค่อย ๆ ปรากฏความโกรธเป็นอย่างมาก ล้วงกริชออกมา ชี้ไปที่ดวงตาของเจียงหนานซาน เอ่ยอย่างโหดเหี้ยมว่า “คุณคิดว่าฉันไม่กล้าหรือ?”
ปลายมีดที่แหลมคมจ่อไปที่คอของเจียงหนานซานแล้ว ขอเพียงเจียงไป๋เสว่ขยับเบา ๆ ก็สามารถเอาชีวิตของคนชราคนนี้ไปได้
และสามารถ… จัดการกับความแค้นที่เธอแบกเอาไว้ในมีดเดียว
แต่ว่าเจียงไป๋เสว่กลับลงมือไม่ลงอยู่นาน
แม้ว่าเธอจะออกแรงกุมมีดมากแล้ว แต่ตัวมีดทั้งเล่มก็หยุดสั่นไม่ได้
ทั้งขั้นตอนนี้ เจียงไป๋เสว่ล้วนกำลังจ้องตาของเจียงหนานซานเขม็ง
ขอเพียงในดวงตาของเจียงหนานซานปรากฏความหวาดกลัวต่อความตายแม้แต่สักนิด เธอจะต้องแทงลงไปอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อยแน่ ๆ
แต่ว่าดวงตาของเจียงหนานซานนั่งสงบมาก เหมือนกับบึงน้ำที่ไร้คลื่นแห่งหนึ่ง… ขอเพียงเป็นคนที่มองทะลุความเป็นความตายอย่างถึงที่สุดถึงจะมีสายตาเช่นนี้ได้
เขาไม่ใส่ใจความเป็นความตายของตนเอง มีอะไรที่ทำให้เขาต้องใส่ใจหรือ?... เกรงว่าจะมีเพียงตัวเขาเองที่รู้
แกร๊ก!
เสียงของกริชที่อยู่ในมือของเจียงไป๋เสว่ตกลงสู่พื้น ร่างกายของเธอถอยไปด้านหลังหลายก้าวอย่างควบคุมไม่ได้ สูดลมหายใจเฮือกใหญ่ราวกับปลาที่ขาดน้ำ
ทุกคนในตระกูลเจียงเบิกตากว้างอ้าปากค้างมองเธอ ไม่กระจ่างว่าตอนนี้เป็นสถานการณ์ไหน
เจียงหนานซานถอนหายใจเฮือกหนึ่ง มองเจียงไป๋เสว่ด้วยใบหน้าซับซ้อน เอ่ยว่า “เธอปล่อยวางไม่ได้ ต่อให้ตระกูลเจียงของพวกเราล่มสลายไป เธอก็ยังปล่อยวางไม่ได้"
“ฉันปล่อยวางไม่ได้ นั่นก็เพราะว่าต่อให้ฉันฆ่าพวกคุณทุกคนไปแล้ว แม่ของฉันก็ไม่อยู่เหมือนเดิม!”
เจียงไป๋เสว่ตะคอกด้วยความโมโห ราวกับจะระบายความเดือดดาลอยู่ในใจทั้งหมดออกมา
“นั่นจะทำให้เธอสบายใจขึ้นมาได้หน่อยหนึ่ง"
มองดูเจียงไป๋เสว่ที่กำลังตะคอกด้วยความโมโห บนใบหน้าของเจียงหนานซานประดับด้วยรอยยิ้มเรียบเรื่อยตั้งแต่ต้นจนจบ
ทุกคนล้วนแต่มองเจียงหนานซานด้วยใบหน้าเคารพเลื่อมใส
สมกับเป็นอดีตผู้นำตระกูลของพวกเขา มีเหตุการณ์แบบไหนที่ไม่เคยเจอมาบ้าง?
จะมาถูกวัยรุ่นสองคนข่มขู่ได้อย่างไรกัน?
ถอยเพื่อรุกเช่นนี้ มีเพียงอดีตผู้นำเท่านั้นแหละที่สามารถทำได้
มองดูเจียงไป๋เสว่ในตอนนี้อีกครั้ง ไม่มีรังสีสังหารเหมือนก่อนหน้านี้มาตั้งนานแล้ว เหมือนกับเด็กหญิงคนหนึ่งที่จิตวิญญาญถูกทำลายจนพังไป
“เหอะ ๆ ความสามารถมีแค่นี้ก็ยังกล้ามาก่อเรื่องที่ตระกูลเจียงอีก อดีตผู้นำออกโรง ใครกล้าบังอาจ?”
“ยังไม่ต้องพูดเรื่องที่เธอไม่มีความสามารถที่จะมาทำลายพวกเราทั้งหมดเลย ต่อให้มีแล้วมันยังไง คนตายไปแล้วก็ฟื้นกลับมาไม่ได้ สิ่งที่เธอทำเหล่านี้มันไร้ประโยชน์สิ้นดี!”
“มาก่อเรื่องที่ตระกูลเจียงของฉัน จะปล่อยเธอจากไปแบบนี้ไม่ได้ อยู่ยอมรับผิดให้เสร็จก่อนแล้วค่อยไป!”
ตอนนี้ก็มีคนหัวเราะเสียงเย็นขึ้นมาแล้ว มองเจียงไป๋เสว่ด้วยสายตาหนาวยะเยือก
แปะ ๆ!
ถึงขั้นที่มีคนตบมือสองครั้ง
ทันใดนั้นก็มีคนรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายที่น่าหวาดกลัวแต่ละสายที่ออกมาอย่างกะทันหันในทันที
เจียงเทียนโหย่วกับเจียงหลงเจ๋อพวกเขาหันกลับไปพร้อมกัน เห็นเพียงข้างกายของชายชราที่ดื้อดึงนั้นมีเงาที่มีกลิ่นอายแข็งแกร่งสิบกว่าเงาปรากฏอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม