เคร้ง!เคร้ง!เคร้ง!
รองเท้าทหารคู่หนาเหยียบลงไปบนพื้นดิน ส่งเสียงทุ้มต่ำ
บนตัวสวมใส่ชุดการรบ บนบ่าติดดาวสามดวง บนหัวสวมหมวกผ้าแพร----นี่คือการแต่งกายของเยี่ยนซื่อเฉิงในวันนี้
เขาแบกถุงยาวสีดำใบหนึ่งมาด้วย ดูจากรูปร่างของมันแล้ว ดูออกไม่ยากว่าน่าจะเป็นหอกคม
นี่คืออาวุธของเขา
เจียงไป๋เสว่นำทุกคนในกองทัพปราณมังกรออกมาตั้งท่ารออย่างเข้มงวด ผลลัพธ์ในวันนี้จะต้องจบด้วยการห้ำหั่นกันเป็นแน่
เขาจะใช้หอกคมหนึ่งเล่ม ท้าทายทั้งกองทัพปราณมังกร
ดูเหมือนเพ้อเจ้อ แต่เจียงไป๋เสว่กลับรู้สึกถึงความกดดันที่ไม่เคยมากขนาดนี้มาก่อน
เยี่ยนซื่อเฉิงไม่ได้โง่ ในเมื่อเขากล้ามา ก็ต้องมีความมั่นใจของเขาอยู่แล้ว
แกร๊กแกร๊กแกร๊ก!
ทุกคนในกองทัพปราณควักปืนในมือออกมา เล็งไปที่เยี่ยนซื่อเฉิง
เยี่ยนซื่อเฉิงกลับทำเหมือนไม่เห็นและก้าวไปข้างหน้าต่อ
ภาพเหตุการณ์ย่อส่วนลงเรื่อยๆ จนสุดท้ายมองเห็นได้ผ่านกล้องส่องทางไกลเพียงสองตัว
ผู้หญิงผมบลอนด์ตาฟ้าในชุดโบราณตะวันตกสไตล์โกธิคมองภาพเหตุการณ์ด้านล่างอย่างสนอกสนใจ เธอยิ้มกว้างพลางเอ่ย "คิดไม่ถึงว่าจะสู้กันเร็วขนาดนี้"
"ค้างคาวใจดีเกินไป ให้เวลาพวกเขาพิจารณาตั้งหนึ่งสัปดาห์ ถ้าเป็นฉัน ฉันลงมือตั้งแต่สัปดาห์ก่อนแล้ว"
ผู้หญิงคนนี้ ก็คือตัวการที่วางแผนคดีระเบิดลักพาตัวที่สนามกีฬาเมืองเจียงเฉิง
ผู้บริหารสูงสุดห้าดาวแห่งหว่างเหลียง ไวโอเล็ต
ข้างกายเธอมีชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ยืนอยู่ แต่รัศมีรอบตัวก็ที่น่ากลัวแล้ว
หลินรั่วหวีแห่งตระกูลหลิน!
เห็นได้ชัดว่าเขาเห็นเหตุการณ์ด้านล่างนานแล้ว และไม่ได้แสดงท่าทีสนใจมากเท่าไหร่
"ไม่ไวขนาดนั้นหรอก ไปดูถูกกองทัพปราณมังกร เธอได้จ่ายราคาบทเรียนแน่"
ไวโอเล็ตเบ้ปาก น้ำเสียงเย็นเยียบลงทันใด "เราจ่ายราคาบทเรียนไปแล้ว"
สามปีก่อนจับเหยื่ออย่างหลี่เห้ามาได้ แต่ขณะเดียวกันก็สูญเสียยอดฝีมือไปกว่าพันคนเหมือนกัน
ทุกคนถูกถังเฉาฝังอยู่ที่ต้าเซี่ย
การสูญเสียยอดฝีมือไปนับพัน จนป่านนี้หว่างเหลียงยังฟื้นฟูกำลังไม่ได้เลย
ไวโอเล็ตหยิบกล้องส่องทางไกลขึ้นมาอีกครั้ง ดูอยู่สักพักก็เห็นเจียงไป๋เสว่ทำสัญลักษณ์มือพอดี และคนด้านหลังวางปืนลง
ทันใดนั้นเธอก็ยิ้มออกมา "คุณพูดถูกจริงๆ ถือว่ากองทัพปราณมังกรของพวกเขารู้รักษาตัว----ถ้าพวกเขาต้องการจะสู้กันจริง ยอดฝีมือหว่างเหลียงที่ซ่อนตัวอยู่รอบๆก็ไม่ได้กระจอก พวกเขาเหมือนปลาที่ติดร่างแห!"
หลินรั่วหวีขมวดคิ้วเล็กน้อย สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรอื่น
เงียบกันไปพักหนึ่ง ไวโอเล็ตมองเขาด้วยสายตาสงสัย "ด้านหลงไป่ชวนไม่มีปัญหาอะไรใช่มั้ย?"
ถ้าหลงไป่ชวนมาที่นี่ สถานการณ์ก็จะแตกต่างออกไป
สำหรับต้าเซี่ย หลงไป่ชวนคือการดำรงอยู่ระดับตำนาน
ถ้าเขามาที่นี่ สองยอดฝีมืออย่างเจียงไป๋เสว่และหลงไป่ชวนร่วมมือกัน งั้นพวกเขาก็มีแต่จะถูกฆ่า
ดังนั้น เป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องถ่วงดุลด้านหลงไป่ชวนไว้ก่อน แบบนี้ถึงจะสามารถต่อสู้กันได้
ความแข็งแกร่งของหลงไป่ชวนต่อให้เป็นในหว่างเหลียง ก็เป็นคนระดับต้นๆ ผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ไม่อาจเอาชนะได้ ได้แต่ถ่วงไว้เท่านั้น
เช่นนั้น จึงได้แต่เชิญหลินรั่วหวีแห่งตระกูลหลิน
หลินรั่วหวีมองเธอและเอ่ยเรียบๆ "ถ่วงไว้เรียบร้อยแล้ว ผมจะหยุดเขาไว้เอง"
"งั้นก็ดีแล้ว"
ไวโอเล็ตโล่งอก อยู่ๆสีหน้าก็โหดเหี้ยมขึ้น "หลังจากกองทัพปราณมังกรถูกเราปราบแล้ว ลูกหลานของแปดผู้ยิ่งใหญ่จะได้เข้ามาในเขตแดน ฉันจะดูซิว่าหลังจากนี้ใครจะขวางพวกเราได้อีก"
การล่มสลายของแปดผู้ยิ่งใหญ่เกิดขึ้นเมื่อหนึ่งปีก่อน
ในเวลานั้น แปดผู้ยิ่งใหญ่เดินทางข้ามมหาสมุทรมาด้วยกัน เพื่อดำเนินการตามแผนการ 'สังหารมังกร'
แต่ยังไม่ทันจะเข้ามาได้ เพิ่งจะถึงเขาโยวเหิงก็โดนถังเฉาโจมตีตอกหน้าอย่างรุนแรง
ผู้แข็งแกร่งระดับแปดผู้ยิ่งใหญ่ร่วมมือกันยังไม่อาจฆ่าถังเฉาได้ ตัวพวกเขาเองกลับสิ้นชีพอยู่ที่นี่
การล่มสลายของแปดผู้ยิ่งใหญ่สร้างความสะเทือนใจให้กับกรรมาธิการเต๋าของพวกเขาอย่างมาก ลูกหลานรุ่นหลังของพวกเขาหวนกลับมาใหม่ เพื่อฆ่าถังเฉาแก้แค้นให้กับท่านอาจารย์ของตัวเอง!
ฟังมาถึงตรงนี้ หลินรั่วสายตานิ่งงันไปนิดหน่อย ท่าทางระแวงมาก
แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น
“ผมจะไปแล้ว”
พูดจบ หลินรั่วหวีก็ออกไปด้วยท่าทางนิ่งเฉย
ไวโอเล็ตไม่ได้รู้สึกผิดปกติอะไร ยังคงสังเกตสถานการณ์จากกล้องส่องทางไกลต่อ
ด้านล่าง ทุกคนในกองทัพปราณมังกรวางปืนลง แต่ยังคงมองเยี่ยนซื่อเฉิงด้วยสายตาระแวง
เยี่ยนซื่อเฉิงกลับทำเหมือนมองไม่เห็น เขาเดินมาอยู่ตรงหน้าเจียงไป๋เสว่ด้วยรอยยิ้ม และเอ่ยขึ้น “เราเข้าไปกันเถอะ”
เจียงไป๋เสว่มองเขาอย่างเย็นชา ไม่ตอบอะไร หันหลังเดินออกไปทันที
เยี่ยนซื่อเฉิงตามหลังเจียงไป๋เสว่มาถึงห้องโถงที่ใช้ในการประชุมหารือ
สมาชิกกองทัพปราณมังกรมากมายนั่งเข้าที่ ที่ตรงกลางสุดเดิมทีเป็นของถังเฉาและท่านเจ้ามังกร แต่เนื่องจากทั้งสองคนไม่มา จึงต้องให้เจียงไป๋เสว่นั่งแทน
เยี่ยนซื่อเฉิงมองเจียงไป๋เสว่ด้วยรอยยิ้มและถาม “เราอย่ามัวพูดไร้สาระกันเลยดีกว่า บอกผลลัพธ์ฉันมาเลย ได้ฟังผลลัพธ์แล้วฉันค่อยตัดสินใจว่าจะอยู่หรือไป”
ไป ก็หมายความว่าทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกัน เขาไปเชิญท่านพ่อเยี่ยนกั๋วลี่มาคารวะกองทัพปราณมังกร
อยู่ ก็หมายความว่าทั้งสองฝ่ายเจรจาล่ม ห้ำหั่นกันอยู่ที่นี่ไปเลย
เจียงไป๋เสว่มองสายตาเปื้อนยิ้มของเยี่ยนซื่อเฉิง ตื่นเต้นจนเหงื่อชุ่มเต็มมือ
แต่ต่อหน้ายังไว้ท่าทีอย่างใจเย็น เธอมองเยี่ยนซื่อเฉิงพลางกล่าว “ให้นายกลับมาอยู่ในกองทัพปราณมังกรอีกครั้งใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้”
“หืม?”
เยี่ยนซื่อเฉิงคลี่ยิ้มกว้าง อย่างน้อยสิ่งที่ได้ยินในตอนนี้ทำให้เขาพึงพอใจมาก
“เงื่อนไขล่ะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้ามังกรพรีเมี่ยม