เสี่ยวเฉียงยังคงด่าไม่หยุด เตะและทุบตีเธออีกด้วย
คุณชายตระกูลเศรษฐี อารมณ์รุนแรงมาก
ขาของกู้หยุนม่งถูกเตะจนเจ็บ
ถูกชกที่ท้องน้อยอีกด้วย
กำปั้นของเด็กอ้วนแรงมาก
กู้หยุนม่งน้ำตาไหลด้วยความเจ็บปวด และย่อตัวลงด้วยท่าทางต้อยต่ำ
เธอจับมือเสี่ยวเฉียง และขอร้องว่า “เสี่ยวเฉียง อย่าก่อกวนอีกเลย ป้าจะหาอีกครั้ง ป้าจำได้ว่า...... ”
“อีสารเลว แกหาเหี้ยอะไร? แกจะให้ฉันหนาวตายหรือหิวตาย? กลับไปแล้ว ฉันจะบอกให้พ่อไล่แกออก ไล่แกออก.... ”
เสี่ยวเฉียงใช้มือทั้งสองข้างคว้าผมของกู้หยุนม่ง และดึงอย่างแรง
บางคนทนดูภาพนี้ไม่ได้
กู้หยุนม่งถูกลูกเจ้านายรังแก เธอรู้สึกเสียหน้ามาก เธอหลั่งน้ำตาด้วยความเจ็บปวด
ซ่งซานสี่เดินไปจับหลังคอเสี่ยวเฉียง
แล้วยกขึ้นสูงจากพื้นเกือบ 150 เซนติเมตร
“เด็กอะไรเนี่ย? นิสัยไม่ดี”
เสี่ยวเฉียงตกใจ สะบัดมือและเตะขา แล้วกรีดร้อง
“ปล่อยฉันนะ! ไอ้ขยะ! ขยะ......”
กู้หยุนม่งถึงได้หลุดพ้น ผมของเธอยุ่งเหยิง
แต่เมื่อเธอเห็นสภาพของเสี่ยวเฉียงแล้ว เธอตกใจและตะโกนใส่ซ่งซานสี่ “แกเป็นบ้าเหรอ? รีบปล่อยเสี่ยวเฉียงลง! ถ้าแกทำร้ายเขา แกจะไม่สามารถแบกรับผลที่จะตามมาได้!”
ซ่งซานสี่ไม่สนใจเธอ เงยหน้าขึ้นแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “รีบขอโทษป้าม่งม่ง มิเช่นนั้น ผมจะโยนเสี่ยวเฉียงขึ้นไปชั้นสอง แล้วจะคอยดูว่าเสี่ยวเฉียงจะตายยากเหมือนแมลงสาบไหม?”
เขากำลังยิ้ม แต่คำพูดแรงมาก
เสี่ยวเฉียงตกใจจนหน้าอ้วนกลายเป็นขาวซีด และรีบกล่าวว่า “ป้าม่งม่ง ขอโทษ ขอโทษ!”
ถ้าจะบอกว่ากู้หยุนม่งไม่สะใจ มันเป็นเรื่องโกหก
คุณชายคนนี้ขาดการอบรมสั่งสอน
แต่เพื่องานแล้ว เธอทำได้เพียงกล่าวว่า “ไม่เป็นไร เสี่ยวเฉียง ไม่เป็นไร.......”
แล้วเธอก็ด่าซ่งซานสี่ทันที “เสี่ยวเฉียงขอโทษแล้ว แกยังไม่รีบปล่อยเขาลงมาอีก?”
ซ่งซานสี่ไม่สนใจเธอ และกล่าวอีกว่า “เมื่อกลับไปแล้ว จะบอกพ่อให้ไล่ป้าม่งม่งออกไหม?”
“ผม...ไม่บอก ไม่บอก......” เสี่ยวเฉียงเกือบจะตอบว่าบอก แต่สุดท้ายสมองของเขาแล่นอย่างรวดเร็ว และทำตัวเป็นเด็กดี
ซ่งซานสี่พยักหน้า “ถ้าปล่อยลงมาแล้ว อย่าเอะอะโวยวาย ตกลงไหม?”
“ตกลง ตกลง……”
ซ่งซานสี่เหวี่ยงเขาหมุนไปหนึ่งรอบ เสี่ยวเฉียงตกใจจนแทบฉี่ราด จากนั้นถึงได้วางเสี่ยวเฉียงลงบนพื้น
เสี่ยวเฉียงรู้สึกกลัวมาก ตัวสั่นและร้องไห้น้ำตาไหล
ไม่กล้าแม้แต่จะมองซ่งซานสี่ด้วยซ้ำ
ซ่งซานสี่ตบหัวเขา “ไม่เลว ตอนนี้เป็นเด็กดีแล้วใช่ไหม? ป้าม่งม่งเป็นเพื่อนนักเรียนเก่าของฉัน ต่อไปห้ามรังแกเธอ ได้ยินไหม?”
“ได้ยินแล้วครับ……”
“ผมรู้ว่าเสี่ยวเฉียงเป็นลูกใคร บ้านอยู่ที่ไหน และเรียนอยู่ที่นี่ ถ้าเสี่ยวเฉียงกล้ารังแกกู้หยุนม่งอีก ผมก็จะฆ่าเสี่ยวเฉียง ได้ยินหรือยัง?” ซ่งซานสี่ยิ้ม แต่น้ำเสียงของเขาน่ากลัวมาก
“ไม่ ๆ ๆ ไม่กล้า ไม่กล้าแล้ว...... ” เสี่ยวเฉียงยอมจำนนอย่างรวดเร็ว และร้องไห้ไม่หยุด
กู้หยุนม่งรีบวางกระเป๋าไว้บนกระโปรงรถ เดินไปข้างหน้าแล้วผลักซ่งซานสี่ “แกรีบไปเลย!”
เธอกอดและปลอบเสี่ยวเฉียง
“เสี่ยวเฉียงอย่าร้องไห้ อย่าร้องไห้.......”
เสี่ยวเฉียงร้องไห้ด้วยความเสียใจอยู่ในอ้อมกอดของกู้หยุนม่ง
กู้หยุนม่งเงยหน้าขึ้นและด่าว่า “ซ่งซานสี่ แกเป็นคนแบบไหน? รังแกแม้กระทั่งเด็ก แกยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า?”
“ผมอาจจะไม่ใช่คน แต่คุณเลอะเลือนจริง ๆ ผมไม่เชื่อหรอกว่าจะหากุญแจไม่เจอ เพราะเมื่อสักครู่ผมเห็นว่าคุณเก็บมันไว้ในกระเป๋าของคุณ”
ซ่งซานสี่เดินไปหยิบกระเป๋าของเธอ แล้วเริ่มค้นหา
กู้หยุนม่งกรีดร้อง “แกวางกระเป๋าของฉันลง! ห้ามเอามือสกปรกของแก แตะต้องกระเป๋าของฉัน!”
ซ่งซานสี่เงยหน้าขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา แล้วหยิบกุญแจรถบีเอ็มดับเบิลยูออกมาจากกระเป๋า
“คุณตาบอดเหรอ? กุญแจก็อยู่ในกระเป๋าไม่ใช่เหรอ? เป็นผู้หญิงที่ขี้หลงขี้ลืมจริง ๆ เฮ้อ......”
หลังจากพูดจบ เขาส่ายศีรษะ โยนกระเป๋าและกุญแจไว้บนกระโปรงรถ หันหลังแล้วเดินจากไป
กู้หยุนม่งตกตะลึง
เมื่อสักครู่ตนเองค้นหาไปทั่วกระเป๋าแล้ว ก็หาไม่พบ แต่ซ่งซานสี่.......
“ป้าม่งม่ง เจอกุญแจแล้ว ผมหนาวและหิวมาก......”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าพ่อกบฏโลก
อัพเดทหน่อยครับ...
อัพเดทหน่อยเถอะ...
อัพเดทตอนหน่อยครับแอด...