เจ้าพ่อกบฏโลก นิยาย บท 38

เพราะซ่งซานสี่เคยบอกว่าให้เธอลาออก แล้วเขาจะเป็นคนไปขอค่าแรงให้เธอเอง

ตอนนี้ ซูโหย่วหรงคิดว่าเรื่องนี้อาจจะเป็นฝีมือของเขา

แต่เมื่อเธอถามหวางฉง

หวางฉงไม่รู้เรื่องราวภายในและกล่าวเพียงว่า: บางที เถ้าแก่หยางหวางเพียงแค่ต้องการให้เธอปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ในโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าได้โดยเร็วที่สุด เขาจึงได้ออกคำสั่งพิเศษ?

ซูโหย่วหรงพยักหน้า และคิดว่าเรื่องนี้คงจะไม่ใช่ฝีมือของซ่งซานสี่

เธอรู้สึกว่าเถ้าแก่หยางเป็นคนดี

เธอตัดสินใจที่จะตั้งใจทำงาน เพราะมันแค่ใส่เสื้อผ้าและถ่ายรูปเท่านั้น?

น่าจะเป็นงานที่ง่าย ๆ

เธอต้องทำเพื่อเถียนเถียน เผื่อซ่งซานสี่ไม่สามารถพึ่งพาอาศัยได้จริง ๆ!

หลังจากซ่งซานสี่มาถึงบริษัทเงินทุนไป๋หุ้ยแล้ว เขาก็ขึ้นไปชั้นบนทันที

โจวเหวินปิงคิดว่าตนเองปลอมตัวได้แนบเนียน ทำให้ซ่งซานสี่ไม่รู้ว่าถูกสะกดรอยตาม

เขารออยู่ด้านนอกสักพัก

เมื่อเขาแน่ใจว่าซ่งซานสี่กำลังเล่นหุ้นอยู่ด้านใน เขาถึงได้กลับ

ระหว่างทาง เขาส่งข้อความให้ซูโหย่วหรง บอกเธอว่าซ่งซานสี่กำลังเล่นหุ้นอยู่ในบริษัทเงินทุนไป๋หุ้ย

เมื่อซูโหย่วหรงได้รับข้อความ เธอรู้สึกลังเลอีกครั้ง

หรือว่าตอนนี้สามีของเธอทำมาหากินอย่างจริงจังแล้ว?

เธอบอกโจวเหวินปิงว่าตนเองลาออกแล้ว และได้รับเงินค่าจ้างทั้งหมดแล้ว เธอกำลังจะไปทำงานเป็นนางแบบพรีเซนเตอร์ที่โรงงานเสื้อผ้าหลี่เล่อ

สมองของโจวเหวินปิงว่างเปล่า และไม่รู้ว่าจะตอบกลับอย่างไรเป็นเวลานาน

สุดท้าย เขาแสดงความยินดีกับซูโหย่วหรง และบอกว่าโรงงานนั้นก็เป็นของหยางต้าหลี่เช่นกัน บอกให้เธอระวังตัวด้วย เพราะหยางต้าหลี่ไม่ใช่คนดี

ซูโหย่วหรงตื่นตัวเล็กน้อย แต่ไม่ได้ถามอะไรมาก กระทั่งเธอรู้สึกว่าโจวเหวินปิงคิดมากหรือเปล่า?

ตอนที่พูดถึงเรื่องงาน หยางต้าหลี่แสดงความเป็นห่วงครอบครัวของเธอมาก คิดเพื่อเธอและลูกสาวเสมอ

ตอนที่เธอทำงานอยู่ในโรงงาน เธอทำงานคนเดียว เพราะความหยิ่งในศักดิ์ศรีของตนเอง ทำให้เธอไม่ค่อยมีเพื่อน

ดังนั้น เธอจึงไม่เคยได้ยินเรื่องไม่ดีของหยางต้าหลี่เลย

……

ซ่งซานสี่มาถึงห้องเทรดหุ้น VIP

เขาไม่เปิดคอมพิวเตอร์ นั่งสูบบุหรี่อยู่ตรงโน้น

ส่วนจ้าวเหลียงโย่วกำลังมองกระดานหุ้นด้วยความจริงจัง

กู้หยุนม่งเพิ่งต้มกาแฟเสร็จ แต่เธอรู้สึกว่ารสชาติสู้ซ่งซานสี่ไม่ได้

เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “หือ? มีคนบอกว่าช่วงนี้จะไม่มาไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงไม่รักษาคำพูดล่ะ?”

ซ่งซานสี่ยิ้มบาง ๆ แต่ไม่สนใจเธอ

จ้าวเหลียงโย่วหันไปมองเขาแวบหนึ่ง “ขอโทษด้วย ซ่งซานสี่ หุ้นจิ๋วเสวียนเทคโนโลยีของคุณตกเล็กน้อยอีกแล้ว คุณมาเพื่อหยุดการขาดทุนเหรอ?”

กู้หยุนม่งกล่าวว่า “หยุดการขาดทุนเป็นสิ่งที่ดี เพราะอย่างไรเสียบริษัทของพวกเราก็มีกำไร และฉันก็ได้รับค่าคอมมิชชั่นอีกด้วย คนบางคนสมควรขาดทุน”

ซ่งซานสี่กล่าวว่า “หยุดการขาดทุนเหรอ? ผมไม่หยุดการขาดทุนหรอก ตกยิ่งดี เพราะยิ่งตกยิ่งดีต่อสุขภาพ”

จ้าวเหลียงโย่วและกู้หยุนม่งมองหน้ากัน โดยไม่พูดอะไร

หลังจากนั้นสักพัก จ้าวเหลียงโย่วอุทานด้วยความตื่นเต้นว่า “ไม่เลว ม่งม่ง ความคิดของผู้ยิ่งใหญ่ล้วนคล้ายคลึงกัน คุณดูสิ หุ้นที่พวกเราสองคนสนใจ วันนี้ขึ้นถึงจุดสูงสุดแล้ว ฮ่า! คราวนี้ผมได้กำไรมาหนึ่งล้านกว่า!”

“อ๊ะ จริงเหรอ? ยินดีด้วยพี่จ้าว!” กู้หยุนม่งเหลือบมองซ่งซานสี่ด้วยความลำพองใจ “ไม่เหมือนคนบางคนที่ไม่ฟังคำเตือน ดังนั้นพวกเราก็ไม่จำเป็นต้องพูดกับเขาอีกต่อไปแล้ว”

จ้าวเหลียงโย่วมองซ่งซานสี่ด้วยความเหยียดหยาม ส่ายศีรษะและกล่าว “ถ้าหุ้นของจิ๋วเสวียนเทคโนโลยีตกจนอนาถ ฮ่า ๆ ผมก็จะได้เงินอีก!”

ซ่งซานสี่ไม่สนใจพวกเขา ลุกขึ้นแล้วเดินไปมองที่หน้าต่าง

โจวเหวินปิงไปแล้ว

ซ่งซานสี่กล่าวว่า “คุณจ้าว เพื่อนนักเรียนเก่า พวกคุณสองคนชื่นชมยินดีต่อเถอะ ผมจะไปโรงพยาบาล”

“ไปเถอะ ไปเถอะ ไปตรวจเช็ดสมองของคุณดี ๆ” กู้หยุนม่งโบกมือ เธอไม่เกรงใจลูกค้าวีไอพีรายใหญ่คนนี้เลย

“ไม่ ผมจะไปตรวจองคชาต”

ซ่งซานสี่กล่าวประโยคนี้เบา ๆ แล้วเดินออกไปทันที

ใบหน้าของกู้หยุนม่งแดงระรื่น และกล่าวด้วยความโมโหว่า “อันธพาล!”

จ้าวเหลียงโย่วส่ายศีรษะ และกล่าวว่า “ลักษณะท่าทางก็ดูดี แต่นิสัยแย่จริง ๆ!”

……

ซ่งซานสี่ ลงทะเบียนเพื่อนพบหมอที่โรงพยาบาลจงไห่ที่สอง

ซ่งซานสี่ยกนิ้วโป้งให้เขา แล้วเดินจากไป......

ห้านาทีต่อมา

ซ่งซานสี่เดินเข้าไปในแผนกที่ลงทะเบียนเอาไว้—แผนกโรคผิวหนัง

แต่โชคไม่ดี ตู้ไห่ผิงกำลังเสนอขายผลิตภัณฑ์ยาในโรงพยาบาล และตู้ไห่ผิงก็เห็นเขาเดินเข้ามา

แต่ซ่งซานสี่ไม่เห็นเขา

ตู้ไห่ผิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และอดไม่ได้ที่จะกล่าวด้วยความเย็นชา “นึกไม่ถึงว่าเขาจะแผนกนี้ด้วย ไอ้เศษสวะต้องไปสำส่อนอยู่ข้างนอก และติดโรคบางอย่างใช่ไหม? เป็นคนเลวจริง ๆ!”

“ไม่ได้! ต้องบอกโหย่วชิง แล้วให้เธอบอกโหย่วหรงว่าอย่าใช้ชีวิตกับผู้ชายคนนี้ จะได้ไม่ต้องติดโรคจากเขา ไม่พูดถึงความทุกข์ทรมาน ถ้าคนอื่นรู้ ก็จะเสียชื่อเสียง”

ถือว่าตู้ไห่ผิงยังมีมโนธรรมอยู่บ้าง

เขายังต้องการค้นหาความจริง ดังนั้นเขาจึงแอบสังเกตการณ์อย่างลับ ๆ

ส่วนซ่งซานสี่ไม่รู้ว่า “คู่เขย” คนนี้ กำลังจับตามองเขาอยู่

ณ.ห้องตรวจเฉพาะด้าน เฉิงหยิงเสวี่ย ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ที่มีชื่อเสียง

เธออายุไม่มาก อายุเพียงสามสิบสี่ปี และเป็นผู้เชี่ยวชาญชั้นนำในวงการแพทย์ผิวหนัง

แว่นตาขอบทอง ทำให้ใบหน้างดงามนั้น เปล่งประกายความฉลาดและความสุขุมเยือกเย็น

ยังคงสามารถมองเห็นรูปร่างที่อยู่ภายใต้เสื้อกาวน์สีขาวได้

เธอมองสำรวจชายหนุ่มและกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “อาการของคุณเป็นอย่างไรบ้าง?”

มีความเหยียดหยามอยู่ในใจ

หนุ่มหน้าตาหล่อเหลาและแต่งตัวดี แต่กลับมาหาหมอด้วยโรคแบบนี้ คงไม่ใช่คนดีอะไรหรอก?

โลกใบนี้วุ่นวายเหลือเกิน!

ผู้ชายชอบสำส่อน และไว้ใจไม่ได้!

มีนักศึกษาแพทย์หญิงอยู่ด้านข้าง แอบบ่นอยู่ในใจ และคิดว่าซ่งซานสี่ไม่ใช่คนดี

ซ่งซานสี่นั่งตรงข้ามเฉิงหยิงเสวี่ย เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และอธิบายอาการป่วยของตนเองด้วยความจำใจ

“อะไรนะ?” เฉิงหยิงเสวี่ยตกตะลึงจนอ้าปากค้าง

สีหน้าของนักศึกษาแพทย์หญิง เต็มไปด้วยความอึ้ง......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าพ่อกบฏโลก