“โหย่วหรง อยู่บ้านพี่สาวหรือว่ากลับบ้านแล้ว?”
น้ำเสียงของซ่งซานสี่ยังคงอ่อนโยนและเย้ายวน
พี่สาวของซูโหย่วหรงกลับรู้สึกตรงกันข้าม
ตู้ไห่ผิงรู้สึกเกลียดชัง
ยิ่งแสร้งทำตัวเหมือนสุภาพบุรุษก็ยิ่งเป็นเหมือนเศษสวะ!
“วันนี้ฉันอยู่บ้านพี่สาว คืนนี้ไม่กลับบ้าน จะอยู่เป็นเพื่อนลูก จะนอนกับลูก” ซูโหย่วหรงกล่าว
“โอเค ถ้าคุณตัดสินใจแล้วก็โอเค ผมจะไม่ไปรับคุณ เช้าวันนี้และค่ำวันนี้ผมไม่ได้ทำตามสัญญาว่าจะทำอาหารให้คุณและลูก ขอโทษจริงๆ เมื่อเช้าผมไปช่วยชีวิตคนมา ค่ำนี้ผมเองก็ไปช่วยเหลือคน ตอนนี้ผมเพิ่งเสร็จธุระ”
“อ่อ ไม่เป็นอะไร! การช่วยชีวิตผู้คนเป็นเรื่องที่สูงส่ง ฉันเชื่อคุณ เหนื่อยหรือเปล่า รีบกลับไปพักผ่อนเถอะ ฉันเองก็จะไปนอนกับลูกแล้ว” ใบหน้าของซูโหย่วหรงเผยให้เห็นถึงความขื่นขม เมื่อเอ่ยจบก็อยากวางสายโทรศัพท์
กับคนสารเลวแบบนี้ พูดกับเขามากกว่านี้อีกสักหนึ่งประโยค เธอก็จะยิ่งรู้สึกอึดอัด
“โอเค รีบพักผ่อนนะ ขอให้คุณมีความสุขในวันหยุดสุดสัปดาห์ พรุ่งนี้ ครอบครัวของพวกเรามีเรื่องที่น่ายินดี ตอนเที่ยง ผมจะไปบ้านพี่สาวทำอาหารมื้อใหญ่ให้ทุกคนได้ทานนะ”
“อื้อ...โอเค”
“อืม โอเคครับ ฝันดี คุณแม่เถียนเถียน”
ซ่งซานสี่วางสายโทรศัพท์
สีหน้าของซูโหย่วหรงนั้นดูไม่ดีเลย
ตู้ไห่ผิงปล่อยหมัดลงบนโต๊ะกาแฟ
“ไอ้โง่นี่มันโง่จริงหรือแกล้งโง่วะ? เอาแต่เที่ยวเล่นข้างนอก ช่วยหาเหตุผลข้ออ้างที่ดูดีกว่านี้หน่อยจะได้ไหม? ตอนเช้าช่วยชีวิตคน ตอนเย็นก็ช่วยชีวิตคน? ใครจะเชื่อ?”
“ครอบครัวของพวกเรายังสามารถมีเรื่องน่ายินดีได้งั้นเหรอ? เขาไม่สร้างปัญหานั่นก็ดีเท่าไรแล้ว เมื่อก่อนเป็นเศษสวะที่ชอบใช้กำลังและความรุนแรง ตอนนี้กลับเป็นสัตว์ที่หน้าซื่อแต่ใจคด”
“โหย่วหรง คนสารเลวแบบนี้ แต่งงานแล้ว พวกเราก็สามารถแยกจากเขาได้”
ซูโหย่วชิงเองก็ยิ้มอย่างขมขื่น “ผู้ชายแบบนี้ ตอนนี้แม้แต่การโกหกก็ไม่สามารถทำได้แล้ว โหย่วหรง ช่างเถอะ รีบพักผ่อนเถอะ! ไม่เชื่อคำพูดเขาก็ทำถูกแล้ว พรุ่งนี้ช่วงเช้าฉันจะไปหาโจวเหว่ยเป็นเพื่อนเธอ ช่วงบ่ายพวกเราก็จะไปสวนสนุกเป็นเพื่อนเถียนเถียน”
ซูโหย่วหรงพยักหน้าด้วยความเงียบ เธอไม่พูดอะไรและกลับห้องไป
ภายในหัวใจของเธอครุ่นคิด ฟังจากน้ำเสียงของซ่งซานสี่ที่พูดออกมา ทำไม...
หลี่รุ่ยหยางยังไม่จัดการกับเขางั้นเหรอ?
มีบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง...
ซ่งซานสี่กลับมาถึงบ้าน เขานั้นไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ
ตอนนั้นเองพลันนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ทานอาหารเย็น
เขาต้มบะหมี่ส่งกลิ่นหอมอบอวลและทานด้วยท่าทีพึงพอใจ
หลังจากทานอาหารเสร็จ เขามองดูภายในบ้านและจัดการทำความสะอาดอีกครั้งหนึ่ง
จากนั้นภายในสมองพลันเกิดความคิดหนึ่ง อยากจะได้บ้านที่หลังใหญ่กว่านี้ ทางที่ดีที่สุดต้องเป็นคฤหาสน์
จากนั้นจะได้ย้ายบ้าน
การใช้ชีวิตของภรรยาและลูกจะต้องดีขึ้นถึงจะถูกต้อง
วันถัดมา ซ่งซานสี่ตื่นตรงเวลา
ไปวิ่งที่ถนนปินเจียง
เมื่อเขาไปถึงที่นั่น เขาชะงักงันด้วยความคาดไม่ถึง หลี่รุ่ยหยางมาถึงเร็วกว่าเขา
เธอไม่ได้วอร์มอัพและอยู่ในเครื่องแบบตำรวจ
ดูเหมือนสายลมอันบริสุทธิ์ จิตวิญญาณสูงส่ง สวยหยาดเยิ้มและน่าเกรงขาม
ซ่งซานสี่ลงจากรถ เขายิ้มเล็กน้อยและกล่าว “เฮ้เพื่อน เกิดอะไรขึ้น? มาตั้งแต่เช้าตรู่ วิ่งเสร็จต้องไปทำงานเหรอ?”
หลี่รุ่ยหยางแสดงสีหน้าเย็นชาและกล่าว “ซ่งซานสี่ เช้าวันนี้ ถ้านายไม่อธิบายเรื่องนี้ให้ฉันฟังอย่างชัดเจน ฉันจะมอบบทเรียนให้แก่นายสักหน่อยจากนั้นค่อยว่ากัน”
“เรื่องอะไร?” ซ่งซานสี่รู้สึกงุนงง
“นายไปคบหาสมาคมกับหญิงหม้ายใช่หรือเปล่า? แถมยังเคยถูกจำคุกอีกด้วย”
ซ่งซานสี่ผงะไปชั่วขณะ จากนั้นยิ้มและกล่าว “เพื่อน ใช้คำว่าคบหาสมาคมนั้นฟังดูไม่ดีเท่าไรมั้ง?”
หลี่รุ่ยหยางมองสำรวจเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า “นายไม่ต้องสนใจเรื่องนั้น สิ่งที่ฉันต้องการคือความจริง เพราะว่าเมื่อวานตอนค่ำภรรยาของนายเป็นคนบอกฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้ เห็นได้ชัดว่านายทำร้ายเธออีกแล้ว ถึงแม้ว่าเธอจะดูสงบนิ่ง แต่ฉันก็พอฟังออก ภายในหัวใจของเธอทุกข์ใจมากและยังรู้สึกอัดอั้นตันใจ เธอโทรมาหาฉันและขอความช่วยเหลือ”
ซ่งซานสี่ “….”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าพ่อกบฏโลก
อัพเดทหน่อยครับ...
อัพเดทหน่อยเถอะ...
อัพเดทตอนหน่อยครับแอด...