เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด นิยาย บทที่ 60 ความจริงที่ไม่อยากเชื่อ

"จริงเหรอ? เธอเป็นอะไรหรือเปล่า?" เมื่อเหยาเหม่ยได้ยินว่าเธอประสบอุบัติเหตุก็รีบถามอย่างเป็นห่วง เมื่อเห็นไป๋มู่ชิงส่ายหน้าไปมา แล้วยื่นหน้ามองไปที่ท้องเธอ "แล้วตัวน้อยล่ะ?"

ไป๋มู่ชิงยิ้มอย่างลึกลับ "ไม่เป็นอะไร"

"ดีแล้ว" เหยาเหม่ยถอนหายใจยาวแบบโล่งอก

"มาแล้วเหรอมู่ชิง?" จ้าวเฟยหยางกับหยวนกวยทักขึ้น

"ขอโทษทีนะที่ฉันมาสาย" ไป๋มู่ชิงยื่นมือไปจับมือของหยวนกวยไว้พร้อมกวาดสายตามองชุดของเธอ "กวย วันนี้เธอสวยมากเลยนะ"

หยวนกวยหมุนรอบๆตัวให้เธอดูอย่างมีความสุข "แน่นอน ถ้าไม่แต่งให้สวยวันนี้จะให้ฉันแต่งสวยวันไหนล่ะ?"

"ผมไม่เคยบอกคุณเหรอ?ว่าคุณดูสวยทุกวันอยู่แล้ว" จ้าวเฟยหยางโอบไหล่เธอเอาไว้พร้อมสีหน้าหลงรัก

"ดูมีความสุขมากเกินไปละ พวกเราเบื่อที่จะอิจฉาแล้ว เข้าไปหาไรกินข้างในเถอะ" ไป๋มู่ชิงพูดไปพร้อมคล้องแขนเหยาเหม่ยจะเดินเข้าไปในงาน

แต่จ้าวเฟยหยางสังเกตเห็นรอยแผลบนหน้าผากเธอเลยดึงแขนเธอกลับมา พร้อมจ้องไปถามเธอไปว่า "นี่มู่ชิง หน้าผากเธอเป็นอะไรหรือเปล่า? ทำไมบวมขนาดนี้ล่ะ?"

ไป๋มู่ชิงรีบจัดหน้าม้าของตัวเองพร้อมพูดว่า "ไม่ได้เป็นอะไรหรอก แค่เมื่อกี้ไม่ระวังหัวโขกกับรถน่ะ"

"ทำไมไม่ระวังขนาดนี้?"

"อุบัติเหตุน่ะ" ไป๋มู่ชิงตบมือเขาเบาๆแล้วเร่งเขาว่า "รีบไปดูแลแขกเถอะ ไม่ต้องสนใจฉันหรอก"

"ใช่สิมู่ชิง" สีหน้าของหยวนกวยจริงจังขึ้นพร้อมเอ่ยขึ้น "จะบอกเธอว่าวันนี้หลินอันหนานอาจจะมาร่วมงานหมั้นของฉันกับเฟยหยางนะ"

"หลินอันหนาน? เขามาทำไม?" จ้าวเฟยหยางถามขึ้นอย่างสงสัย

หยวนกวยตอบอย่างรำคาญ "ตระกูลหลินกับพ่อฉันทำธุรกิจร่วมกันน่ะ พี่น้องตระกูลหลินก็เป็นเพื่อนกับพี่ชายฉันอีก พ่อฉันเลยเชิญมา แต่ไม่แน่ใจว่าจะเป็นคุณชายหลินใหญ่หรือรองที่จะมา"

ได้ยินชื่อของหลินอันหนานตอนนี้ทำให้ไม่สบอารมณ์จริงๆ แต่ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลหลินกับตระกูลหยวนหยวนกวยก็ทำอะไรไม่ได้ เธอเลยต้องแกล้งทำว่าไม่สนใจแล้วพูดยิ้มๆ "ไม่เป็นไรหรอก เลิกกันไปแล้วแต่ก็ยังเป็นเพื่อนกันได้"

เมื่อได้ยินเธอพูดแบบนี้ หยวนกวยก็โล่งใจ "งั้นก็ดี เข้าไปกินของอร่อยๆข้างในเถอะ"

แต่ไป๋มู่ชิงกับเหยาเหม่ยเพิ่งเข้าไปในงานได้ไม่นานก็เห็นหลินอันหนาน

ไป๋มู่ชิงไม่ทันที่จะหลบหน้าก็เห็นเขาเดินตรงมาทางเธอ ที่นี่เป็นงานของคนอื่นเธอไม่อยากทำตัวเด่นมากเลยทักทายกับหลินอันหนานด้วยสีหน้าปกติ

"ไม่เจอกันนานเลยนะ" หลินอันหนานยิ้มทักเธอ "กี่วันนี้กำลังอยากหาเธอพอดี"

"คุณชายหลินหาฉันมีอะไรเหรอคะ?" ไป๋มู่ชิงยิ้มอย่างฝืนใจ

คิดว่าเขาไม่โผล่มาให้เห็นนานขนาดนี้คงหมดหวังกับเธอแล้ว คงยอมแพ้ที่จะตามตอแยเธออีก

"ไม่มีอะไรมาก แค่พอดีมีเพื่อนฉันเพิ่งเข้าไปทำงานที่สำนักงานที่อยู่อาศัย เลยอยากให้ของขวัญเธอ" หลินอันหนานพูดอย่างมีเลศนัย

"หมายความว่ายังไง? นายคิดจะทำอะไรอีก?

"เธอจะร้อนตัวทำไม?"

"ฉันไม่ได้ร้อนตัว"

"งั้นก็ดี ตอนงานเย็นผมจะเอาของขวัญนี้มาด้วย" หลินอันหนานชูแก้วขึ้นมาทางเธอ "มาดื่มกันเถอะ"

ถึงไป๋มู่ชิงจะไม่อยากสนใจเขาแต่ด้วยมารยาทก็ยกน้ำผลไม้ในมือขึ้นไปชนแก้วเขา แล้วยกดื่มอึกนึง

หลินอันหนานมีเพื่อนที่ต้องคอยทักทายเลยไม่ได้ทำอะไรเธอมากแล้วเดินไปหาเพื่อนที่ห้องรับรอง ไป๋มู่ชิงถึงได้อยู่เงียบๆคนเดียวสักที

กับของขวัญที่หลินอันหนานพูดถึง เธอไม่สนใจแล้วก็ไม่ใส่ใจด้วย

จ้างเฟยหยางกับหยวนกวยก็พาเด็กๆมาร่วมงานด้วย แต่กลัวว่าเด็กจะเกเรเลยมีพนักงานคอยดูแลอยู่ในสวน

งานทั้งเช้านี้ เวลาของไป๋มู่ชิงก็หมดไปกับเด็กๆ

งานเย็นของจ้าวเฟยหยางกับหยวนกวยถูกจัดขึ้นในบาร์หรูแห่งหนึ่ง ถึงจะบอกว่าเป็นงานเย็นแต่จริงๆแล้วก็คือปาร์ตี้ของหนุ่มสาวนั่นแหละ

ความจริงไป๋มู่ชิงไม่ค่อยอยากไปเพราะร่ายกายที่ไม่ค่อยสะดวก แต่จ้าวเฟยหยางกับหยวนกวยไม่รู้ว่าเธอท้องเลยลากเธอไปด้วย

แต่เธอไม่รู้จะปฏิเสธทั้งสองยังไง เธอคิดไปคิดมาคืนนี้หนานกงเฉินคงกลับดึก อยู่บ้านคนเดียวก็เหงาเธอเลยตอบตกลงไปบาร์ด้วย

พอเธอเข้าไปถึงในบาร์ก็อัดแน่นไปด้วยผู้คน พร้อมกับควันฟุ้งกระจายไปทั่ว

หลังจากที่ไป๋มู่ชิงโดนหยวนกวยลากไปสนุกด้วยพักหนึ่ง เธอก็หาโอกาสบอกจ้าวเฟยหยางว่าจะกลับก่อน ทีแรกจ้าวเฟยหยางก็ยังไม่อยากให้เธอกลับหรอกแต่เหยาเหม่ยก็มาช่วยพูดเสริมอีกแรง "เฟยหยาง นายก็รู้หนิว่ากฎตระกูลหนานกงเข้มงวดขนาดไหน ปล่อยเธอกลับไปเถอะ"

"แต่เธอยังไม่ได้ดื่มเหล้ากับฉันเลยนะ" จ้าวเฟยหยางเริ่มเมาแล้วจึงพูดออกมาอย่างเอาแต่ใจ เหยาเหม่ยยิ้มไปด้วยพร้อมยกแขนเขาออกจากไหล่ของไป๋มู่ชิง "นายจะดื่มอีกเหรอ เดี๋ยวฉันดื่มเป็นเพื่อนเอง!"

"ได้ คำไหนคำนั้น"

"ได้เลย" เหยาเหม่ยพยุงตัวจ้าวเฟยหยางเข้าไปในห้องวีไอพี แต่ก็ไม่ลืมที่จะย้ำกับมู่ชิงกลับบ้านระวังๆด้วย

ไป๋มู่ชิงโล่งอกไป ได้กลับบ้านสักที

แต่เธอยังไม่ทันได้ก้าวออกไปก็พบกับหลินอันหนาน เขาเดินมาบังทางของเธอไว้ "ทำไมล่ะ? กลับเร็วขนาดนี้?" เขายกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกา "เพิ่งจะสามทุ่มเอง"

ไป๋มู่ชิงหมดคำพูดกับเขาเพียงแต่มองบนไปแล้วเอ่ยว่า "คุณชายหลินคะ นี่มันเกี่ยวอะไรกับคุณเหรอคะ? คุณไม่รำคาญเหรอ?"

"ถึงผมจะน่ารำคาญแต่ก็ทำเพื่อคุณนะ" อยู่ๆหลินอันหนานก็จับข้อมือเธอไว้ "ตามฉันมา"

โดยที่ไม่ให้ไป๋มู่ชิงมีโอกาสปฏิเสธเขาก็ลากเธอไปที่ห้องวีไอพีอีกห้อง จากนั้นก็ก็ชี้ไปทางห้องลับนั่นพร้อมยิ้มเย้ยใส่ "เธอดูเองสิ"

ไป๋มู่ชิงกวาดสายตาไปที่เขา ถึงจะไม่อยากเกี่ยวข้องอะไรกับเขามากแต่ด้วยความสงสัยเธอก็เปิดประตูออกเล็กน้อย

ในห้องที่แสงไฟริบหรี่เธอมองเข้าไปแล้วเห็นหนานกงเฉินนั่งอยู่ตรงกลาง ข้างๆเขายังมีหญิงสาวเซ็กซี่สวยหรูนั่งประกบข้าง หนานกงเฉินกำลังคุยกับผู้ชายอีกคนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มพร้อมพูดเล่นกับสาวในอ้อมกอดอย่างถนัดเคยชิน

สีหน้าของไป๋มู่ชิงเปลี่ยนไป เธอรู้สึกได้ว่าหนานกงเฉินมีผู้หญิงอื่นแน่ๆ ไม่งั้นท่าทางเรื่องบนเตียงเขาจะดีขนาดนั้นได้ยังไงแถมเธอยังเห็นเขาใกล้ชิดดูสนิทสนมกับผู้หญิงคนอื่นเป็นครั้งแรกกับตาตัวเอง

เธอแน่นหน้าอกเล็กน้อยจึงปิดประตูนั้นแล้วหันหลังให้

ความเยือกเย็น เอาแต่ใจ เห็นแก่ตัวในตัวหนานกงเฉินเธอเคยเห็นหมด แต่ไม่เคยเห็นท่าทางที่สนิทสนมกับผู้หญิงขนาดนี้จนเธอทนดูไม่ได้

เธอยืนนิ่งไปกับที่ครู่หนึ่งแล้วจึงดึงสติกลับมา

เธอก้าวขาเดินไปโดยที่ไม่สนใจหลินอันหนานเลย ก้าวโดยที่ไม่รู้ว่าเดินไปถูกทางหรือเปล่าด้วยซ้ำ

"รอก่อน" หลินอันหนานดึงเธอไว้แล้วลากเธอไปนั่งลงที่โซฟาห้องข้างๆ แล้วเทน้ำให้เธอแก้วหนึ่งจากนั้นก็นั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามเธอ

หลินอันหนานสูดหายใจเข้าเบาๆพร้อมมองไปที่เธอ "มู่ชิง ผู้ชายก็เป็นเหมือนกันหมดแหละ ต่างก็มีผู้หญิงข้างกายกันทั้งนั้น เธอรู้หรือเปล่าว่าผู้หญิงเมื่อกี้เป็นใคร? เธอเป็นถึงคุณหนูของตระกูลเหอเลยนะ จากที่ผมสืบมาหนานกงเฉินเริ่มมีความเกี่ยวข้องกับเธอมาปีกว่าแล้ว"

คุณหนูตระกูลเหองั้นเหรอ ก็ว่าทำไมถึงดูสง่าสวยหรูขนาดนี้ ก็จริง ผู้หญิงในบาร์ทั่วๆไปหนานกงเฉินจะสนใจได้ยังไง? แค่มองก็ไม่อยากมองแม้แต่หางตาด้วยซ้ำ

เธอสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัยใส่เขา "คุณชายหลิน นี่คุณกำลังหาเหตุผลมาอ้างกับที่คุณเคยหักหลังฉันเหรอ?"

"ผมแค่อยากให้คุณรู้ สิ่งที่ผู้ชายทำกับผู้หญิงแบบนั้นไม่เท่ากับว่ารักผู้หญิงคนนั้น"

"พอแล้ว!" ไป๋มู่ชิงลุกขึ้นจากโซฟามาแล้วจ้องเขา "คุณก็พูดถูก ผู้ชายเป็นเหมือนกันหมด ถ้าที่บ้านยังร่ำรวยเขาก็ยังใช้ชีวิตยังไงก็ได้ โดยเฉพาะผู้ชายอย่างหนานกงเฉิน อย่าว่าแต่คุณหนูเหอเลย แม้แต่คุณหนูของผู้ว่ายังอยากได้เขาเลย แล้วทำไมฉันต้องใส่ใจด้วยว่าเขาจะมีผู้หญิงอื่นหรือเปล่า? ตราบใดที่เขายังจำทางกลับบ้านได้ยังไงฉันก็ยังเป็นคุณหญิงน้อยของตระกูลหนานกงอยู่ดี"

สีหน้าของหลินอันหนานหมองลง เขาคิดว่ายังไงเขาก็ดีกว่าหนานกงเฉิน!

ไป๋มู่ชิงยังพูดต่ออย่างหงุดหงิด "หลินอันหนาน นายพอใจหรือยัง? ฉันเคยบอกแล้วไงถึงฉันจะเลิกกับหนานกงเฉินฉันก็ไม่มีวันกลับไปเกี่ยวข้องกับนายอีก นายหยุดเถอะ"

พูดเสร็จเธอก็ลุกขึ้นจากโซฟาแต่หลินอันหนานลากเธอลงมาอย่างใส่อารมณ์ "ทำไมมันมีชู้เธอคิดว่าเป็นเรื่องปกติ แต่กลับผมทำไมเธอไม่ให้โอกาสผมอีก?"

ก็จริง ทำไมกัน? เพราะอะไรกันแน่?

ไป๋มู่ชิงก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน เพราะชู้ของเขาเป็นพี่สาวเธองั้นเหรอ? เพราะว่าเขาร่วมมือกับไป๋ยิ่งอันยัดเยียดเธอให้หนานกงเฉินเหรอ? ทั้งๆที่แต่ก่อนเธอเคยรักเขาจริงๆ

แต่กลับกัน เธอรู้จักกับหนานกงเฉินได้แค่ครึ่งปีกว่า แถมยังไม่ค่อยเข้าใจในตัวเขามากนัก จะพูดว่ารักก็คงเร็วไป แต่ทำไมตอนที่เธอเห็นหนานกงเฉินอยู่กับคุณหนูเหอเธอไม่รู้สึกขยะแขยงแต่กลับรู้สึกเสียใจล่ะ?

เธอทำตัวแบบนี้ได้ยังไงกัน? ศักดิ์ศรีของเธอล่ะ? หรือว่านี่เป็นผลมาจากที่เธอโดนหนานกงเฉินกดขี่?

"ขอโทษนะ ฉันไม่มีวันลืมภาพที่นายกับไป๋ยิ่งอันนั่งเปลือยกายอยู่บนอ่างล้างมือหรอก" เธอพูดพร้อมกับส่ายหน้าไปด้วย คงเป็นเพราะเหตุผลนี้สินะ ต้องใช่แน่ๆ!

"งั้นเธอลืมลงเหรอว่ายายเธอตายยังไง?" หลินอันหนานยิ้มอย่างมีเลศนัย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด