เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด นิยาย บท 170

ทั้งสองที่กำลังพัวพันอยู่บนเตียงก็หยุดนิ่งไป สมองไป๋มู่ชิงเบลอไปสองวินาที เมื่อรู้สึกถึงหนานกงเฉินกำลังจะลุกออกจากเตียง เธอก็รีบคล้องคอเขาไว้ด้วยสองมือ

หนานกงเฉินจูบลงที่ริมฝีปากเธอแล้วพูดว่า "เดี๋ยวผมไปดูก่อน"

"เธอต้องแกล้งแน่ๆ" ไป๋มู่ชิงโมโห คิดไม่ถึงเลยว่านังหน้าไม่อายจะทำเสียเรื่องอีก ทำไมเธอถึงตามรังควานขนาดนี้?

หรือได้ยินที่เมื่อกี้นี้เธอโทคุยกับเหยาเหม่ยหรอ? แล้วจงใจมาขัดจังหวะ? พอคิดได้แบบนี้ เธอก็กอดร่างกายของหนานกงเฉินแน่นขึ้น "เชื่อฉัน เธอแกล้ง เธอจงใจ……!"

"จะแกล้งหรือเปล่าผมไปดูก็รู้แล้ว" หนานกงเฉินจูบลงที่ริมฝีปากเธอ จากนั้นก็นำมือทั้งสองข้างของเธอออกจากคอ

เขาลุกออกจากเตียงแล้วเก็บเสื้อผ้าขึ้นมาสวมใส่

ไป๋มู่ชิงโกรธจนเด้งขึ้นนั่งบนเตียงแล้วจ้องเขาตะโกนออกไป "หนานกงเฉินถ้าคุณกล้าไป ฉันกับคุณไม่จบแน่!"

"ถ้าเธอแกล้งผมจะรีบกลับมา แต่ถ้าเป็นเรื่องจริง……สี่สิบองศาจะตายได้นะ?" หนานกงเฉินพูดไปด้วยแล้วเดินออกไปทางประตูด้วย

เขาเดินออกไปจริงๆ

ไป๋มู่ชิงนั่งนิ่งอยู่บนเตียง โกรธจนตาทั้งสองข้างแดงร่างกายก็สั่นไปหมด……

เมื่อหนานกงเฉินเข้าไปถึงห้องนอนของจูจู ก็เห็นจูจูนอนหันข้างอย่างลำบากอยู่บนเตียง เสี่ยวหยวนก็ยืนอยู่ข้างข้างจับแขนเธอไว้ "คุณหนูจู คุณตัวร้อนขนาดนี้ต้องไปโรงพยาบาลนะคะ"

"ไม่ต้อง ฉันแค่นอนก็หายแล้ว" จูจูปัดมือเธอออกแล้วพูดอย่างตำหนิ "บอกเธอแล้วไม่ใช่เหรอว่าพรุ่งนี้คุณชายเฉินต้องทำงาน อย่าไปรบกวนเขา"

"ขอโทษค่ะ ฉันแค่เป็นห่วงคุณ……"

หนานกงเฉินก้าวเดินไปข้างเตียงแล้วถามขึ้นอย่างเป็นห่วง "จูคุณเป็นยังไงบ้าง?" ขณะพูดก็วางมือลงบนหน้าผากเธอ "ทำไมร้อนขนาดนี้?"

"ไม่รู้ค่ะ หลังจากที่คุณหนูจูรับประทานอาหารเย็นเสร็จก็เริ่มตัวร้อนแล้ว"

"กินยาลดไข้หรือยัง?"

"กินตอนสามทุ่มแล้วค่ะ แต่อุณหภูมิไม่ลดเลย" เสี่ยวหยวนพูดด้วยสีหน้าสงสาร "คุณชายขอโทษค่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณหนูจูตัวร้อนขนาดนี้ ฉันก็คงไม่ไปรบกวนคุณ"

"ตอนนี้อย่าพูดอะไรมากเลย จูจูลุกขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้า เดี๋ยวผมส่งคุณไปโรงพยาบาล" หนานกงเฉินไม่สนใจคำพูดของคนอื่นแล้วพยุงตัวจูจูขึ้นจากเตียง

จูจูโต้เถียงอย่างอ่อนแรง "ฉันไม่อยากไปโรงพยาบาล เฉิน……ฉันไม่เป็นอะไร"

"คุณตัวร้อนขนาดนี้แล้วยังบอกว่าไม่เป็นอะไรอีก"

"ฉัน……" สายตาจูจูมีความกังวลกลัวแล้วพูดเสียงสั่นไปทางไป๋มู่ชิง "มู่ชิงเธออย่าเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ตั้งใจจะรบกวนเวลาของพวกคุณ ฉัน……"

"เธอจงใจ!" ไป๋มู่ชิงเดินก้าวเข้าไปแล้วเบียดตัวหนานกงเฉินไปข้างๆ จากนั้นก็จิกผมจูจูขึ้นแล้วตบหน้าเธอไป

เมื่อจูจูถูกตบก็กรีดร้องขึ้นแล้วร่างกายก็ทรุดลงไปกับเตียงแล้วหน้าผากก็โขกกับโต๊ะข้างๆ

"คุณหนูจู……" เสี่ยวหยวนรีบเข้าไปพยุงตัวคุณหนูจูที่กรีดร้องอยู่ขึ้น

หนานกงเฉินดึงตัวไป๋มู่ชิงที่กำลังจะไปหาเรื่องคุณหนูจูอีก แล้วพูดอย่าโมโห "มู่ชิง ตอนนี้จูจูไข้ขึ้นสูงมาก!"

"ฉันให้แกตอแหล! ให้แกเสแสร้ง……!" ไป๋มู่ชิงไม่เชื่อว่าเธอไข้ขึ้นสูงจริง ถึงแม้ตัวจะร้อนมากเธอก็คงตั้งใจทำให้ตัวร้อน เมื่อกี้ตอนที่เห็นเธอยังดีอยู่เลย แต่ทำไมอยู่ๆไข้ขึ้นสูงล่ะ? จะเร็วขนาดนั้นได้ยังไง?

ไป๋มู่ชิงคงจะโกรธจนบ้าไปแล้วถึงมีแรงแม้แต่หนานกงเฉินก็ดึงเธอไม่อยู่ เธอสะบัดตัวหลุดจากหนานกงเฉินแล้วพุ่งไปทางจูจู จูจูกรีดร้องไปด้วยแล้วหลบลีกไปด้วย เมื่อกี้ที่หัวเธอโขกก็ทำให้มีเลือดไหลออกมา

เสี่ยวหยวนรีบวิ่งไปลากไป๋มู่ชิงไว้แล้วพูดเสียงดัง "คุณหญิงน้อยคะ คุณอย่าตบอีกเลย เลือดคุณหนูจูไหลแล้ว……!"

แต่ไป๋มู่ชิงไม่ได้หยุดมือ เมื่อเห็นจูจูถูกหนานกงเฉินปกป้องในอ้อมกอดก็โกรธมากกว่าเดิมแล้วกระชากแขนจูจูไว้ "หน้าไม่อาย! แกออกมาเดี๋ยวนี้……ออกมา!"

"พอแล้ว!" สุดท้ายหนานกงเฉินก็ทนไม่ไหว ยกมือขึ้นตบหน้าเธอไป

ถึงแม้เขาจะตบไม่แรงมาก แต่ก็ทำให้ไป๋มู่ชิงเงียบทันที เธอใช้มือจับแก้มตัวเองไว้แล้วจ้องไปที่เขา

ในความทรงจำของเธอ ไม่ว่าหนานกงเฉินจะทารุณเธอ รังแกเธอ ไม่ว่าจะโกรธมากแค่ไหนก็ไม่เคยตบเธอแบบนี้ แต่วันนี้……เขากลับตบเธอเพราะรักแรกของเขา

เธอจ้องมองใบหน้าที่เยือกเย็นของหนานกงเฉินแล้วใบหน้าที่ซีดขาว เลือดกำลังไหลลงมาจากหน้าผากที่ดูน่าสงสารอย่างจูจูด้วยน้ำตา ความรู้สึกในใจจะใช้คำว่าเสียใจกับโกรธมาอธิบายไม่ได้แล้ว

แผลบนหน้าผากจูจูไม่ได้ใหญ่มากนัก แต่คราบเลือดกลับทำให้หน้าเธอดูน่ากลัว จนเสี่ยวหยวนตกใจกรี๊ดสั่น หนานกงเฉินก็ไม่ได้หยุดนิ่งนานนัก อุ้มจูจูที่ดูเหมือนจะเดินไม่ไหวเดินลงไปชั้นล่าง

เขาเดินเร็วมาก ไป๋มู่ชิงก็วิ่งออกไปตะโกน "หนานกงเฉินนายฟังไว้เลย! เด็กฉันไม่เอาแล้ว! นายฉันก็ไม่เอาแล้ว! นายไปอยู่กับรักแรกของนายเถอะ……!"

เธอไม่รู้ว่าหนานกงเฉินได้ยินหรือเปล่า จากนั้นทางประตูก็มีเสียงสตาร์ทรถดังขึ้นอย่างรวดเร็ว

ในบ้านก็เงียบสงบทันที เงียบจนแม้แต่เสียงเข็มหล่นลงพื้นยังได้ยิน ไป๋มู่ชิงยืนอยู่บนบันไดสักพักค่อยหันหลังเดินกลับห้องไป

บนหัวเตียงมีกระดาษทดสอบที่ยังไม่ได้ใช้วางเต็มไปหมด เธอพยายามมาทั้งเดือนค่อยหาโอกาสที่เหมาะสมแบบนี้ได้ แต่กลับถูกมือที่สามทำลายแล้วตอนนี้หนานกงเฉินก็ไปอยู่ข้างกายเธอด้วย

เธอหยิบกระดาษทดสอบมาแล้วฉีกจนเละแล้วโยนเข้าถังขยะ เธอจะไม่ให้อภัยเขาอีก จะไม่มีลูกให้เขาอีก!

หนึ่งชั่วโมงต่อมา ไป๋มู่ชิงยืนอยู่หน้าประตูบ้านของเหยาเหม่ย

พอเหยาเหม่ยเปิดประตูมาเห็นเธอ แล้วก็ถามอย่างสงสัยขึ้น "หมายความว่ายังไง? หนานกงเฉินปฏิเสธเธอหรอ?"

แต่ดูจากสีหน้าเธอ เหยาเหม่ยก็เดาได้ว่าเธอคงเพิ่งทะเลาะกับหนานกงเฉิน แล้วครั้งนี้ก็ทะเลาะรุนแรงด้วย

"ทำไปได้ครึ่งหนึ่งหนานกงเฉินก็โดนยัยนั่นล่อตัวไปแล้ว" ไป๋มู่ชิงนั่งอยู่บนโซฟา ยกแก้วน้ำในมือขึ้นดื่ม

ระหว่างทาง เธอก็สงบสติได้ไม่น้อยแล้ว ตอนนี้น้ำเสียงก็ดูเรียบลื่นผิดปกติ

เมื่อเหยาเหม่ยได้ยินเธอพูดอย่างนี้ก็ลุกขึ้นอย่างโมโห "ครั้งนี้เธอใช้แผนอะไรอีกล่ะ?"

"ไข้ขึ้นสูงสี่สิบองศา"

"จากนั้นหนานกงเฉินก็ทิ้งเธออยู่บนเตียงแล้วไปที่ห้องยัยนั่น?"

"อุ้มเธอไปโรงพยาบาล" แล้วไป๋มู่ชิงกวาดมองเธอ "เสี่ยวเหม่ย ฉันไม่ได้มาหาเธอเพราะอยากจะด่าหรือว่าฟังคำปลอบใจของเธอหรอกนะ"

"แล้วเธอมาทำไม?"

"ฉันแค่อยากนอน"

"งั้นเธอก็รีบเข้าไปนอนที่ห้องนอนแขกเถอะ" เหยาเหม่ยยื่นมือไปรับแก้วเธอกลับมาแล้วพูด "เธอก็อย่าเสียใจไป เดี๋ยวฉันช่วยคิดหาวิธีให้"

"ไม่ต้องแล้ว" ไป๋มู่ชิงสูดหายใจเข้า "ฉันตัดสินใจแล้ว ฉันไม่เอาหนานกงเฉินแล้ว ไม่เอาอีกแล้ว"

"มู่ชิง เธอทำแบบนี้ก็เหมือนว่าเธอกำลังก้มหัวให้มือที่สาม เธอจะปล่อยผู้ชายที่รักให้ยัยนั่นแบบนี้ เธอยอมหรอ?"

"ฉันยอมแล้ว หลังจากเรื่องคืนนี้ฉันยอมแล้ว" ไป๋มู่ชิงลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินไปทางห้องนอน เหยาเหม่ยตามไปตำหนิเธอ "เธออ่อนแอเกินไปหรือเปล่า จะทำแบบนี้ไม่ได้นะ"

ไป๋มู่ชิงพูดอย่างเบื่อหน่าย "เสี่ยวเหม่ย ไม่ใช่ว่าฉันแย่งไม่ได้ หนานกงเฉินก็สัญญากับฉันเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับเธอตั้งหลายครั้ง แต่ฉันก้าวผ่านความรู้สึกในใจไม่ได้เอง ฉันยอมรับไม่ได้ตอนที่เขาอยู่กับฉันแล้วในใจก็รักผู้หญิงคนอื่นด้วย ฉันไม่อยากเป็นแบบนี้……"

หนานกงเฉินบอกว่าระหว่างเขากับจูจูเป็นแค่เพื่อนกัน เพื่อนบ้าอะไรล่ะ รักเธอจนแยกไม่ออกต่างหาก รักจน……

ไป๋มู่ชิงถอนหายใจออกแล้วมุดเข้าไปในผ้าห่ม

เหยาเหม่ยนั่งลงข้างเตียงเธอแล้วผลักตัวเธอ "งั้นเธอก็ไม่สนใจว่าลูกสาวเธอจะไม่มีพ่อแล้วหรอ? ถ้าฉันเป็นเธอ ตอนนี้ฉันก็จะตามไปโรงพยาบาลแล้วตัวติดกับหนานกงเฉินไว้ ไม่ให้หน้าไม่อายนั่นมีโอกาสยั่ว ให้ยัยนั่น……"

"อย่าพูดถึงลูกสาวได้ไหม?" ไป๋มู่ชิงออกมาจากผ้าห่มแล้วนั่งพูดไปทางเธอ "มีลูกสาวที่ไหน? แม้แต่เฉียวซือเหิงก็บอกว่าไม่มี เฉียวซือเหิงบอกว่าไม่มีลูกสาว แล้วฉันทำเพื่อเธอพยายามรักษาครอบครัวนี้ไว้เพื่ออะไร? เธอจะกลับมาหรอ? ไม่มีทาง……!"

ไป๋มู่ชิงพูดไปด้วยแล้วร้องไห้ไปด้วย

เหยาเหม่ยตกใจกับการกระทำของเธอแล้วร่างกายก็ขยับถอยไป ผ่านไปสักครู่ค่อยพูดขึ้น "เธอพูดมาตลอดว่าจะหาลูกสาว แล้วตอนนี้มาหงุดหงิดกับฉันทำไม? ฉันบอกกับเธอตั้งนานแล้วว่าอย่าเสียเวลากับสิ่งที่มีโอกาสเพียงน้อยนิด แต่เธอไม่ฟังเอง……"

เมื่อเห็นเธอร้องไห้อย่าเสียใจมากขึ้น เหยาเหม่ยก็ไม่อยากต่อว่าอีก "พอแล้ว คิดได้ตอนนี้ก็ไม่สาย เธออย่าร้องไห้เลย รีบนอนเถอะพรุ่งนี้ค่อยมาคิดว่าจะทำยังไงต่อ"

ไป๋มู่ชิงก็ยังคงกอดผ้าห่มร้องไห้อย่างนั้น เมื่อกี้เธอโมโหเกินไปถึงพูดไปอย่างงั้น เธอก็ยังคิดไม่ได้หรอก ยังไม่ยอมปล่อยมือแล้วจะไม่ยอมแพ้ด้วย

ถึงแม้ฝ่ามือของหนานกงเฉินจะตบเธอจนใจหายไปก็ตาม……

หลังจากที่มาถึงโรงพยาบาล จูจูก็ถูกเจาะแขนให้ยาลดไข้ แผลบนหน้าผากก็ยังทำให้คนอื่นเป็นห่วงอยู่

ขณะที่คุณหมอช่วยเธอทำแผล จูจูก็ถามด้วยน้ำตา "คุณหมอคะ จะมีแผลเป็นมั้ยคะ?"

"คุณหมอพูดยิ้มปลอบใจ "ไว้ใจเถอะ ไม่มีหรอก แค่แผลผิวเผินเท่านั้น"

"จริงหรอคะ?" จูจูถามขึ้น

"จริงสิครับ" คุณหมอมองไปที่หนานกงเฉินใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วพูดหยอกล้อขึ้น "แฟนคุณดีกับคุณขนาดนี้ ถึงจะมีรอยแผลเป็นก็ไม่รังเกียจคุณหรอก ไว้ใจได้"

จูจูมองไปทางหนานกงเฉิน ใบหน้าก็เขินอายในใจก็รู้สึกมีความสุขมาก

หลังจากที่คุณหมอออกไปจากห้องพักฟื้น จูจูพิงอยู่บนหัวเตียงมองไปที่หนานกงเฉินกำลังโทรออกอย่างกระวนกระวายอยู่แล้วพูดปลอบใจ "เฉิน คุณกำลังเป็นห่วงมู่ชิงหรอ? ถ้าใช่ก็รีบกลับไปหาเธอเถอะ"

หนานกงเฉินโทรหาไป๋มู่ชิงซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ไม่มีคนรับ เขาเก็บโทรศัพท์ลงแล้วเดินไปนั่งลงแล้วยกมือขึ้นไปที่หน้าผากเธอ "ทำไมยังร้อนขนาดนี้?"

"ฉันไม่เป็นไร ถ้ายาหมดไข้ก็ลดแล้ว คุณรีบกลับไปดูมู่ชิงเถอะ"

หนานกงเฉินมองไปที่เธอแล้วพูดเสียงอ่อนโยน "ถึงแม้มู่ชิงจะลงมือแรงไปหน่อยแต่เธอก็กำลังโกรธ ขอให้คุณให้อภัยเธอด้วย"

"วางใจเถอะ ฉันเป็นคนที่ไปรบกวนพวกคุณเองจะ โทษเธอได้ยังไง?" จูจูพูด

หนานกงเฉินพยักหน้า "งั้นเธอพักผ่อนดีๆนะ ผมให้เสี่ยวหยวนมาดูแล"

"ได้" จูจูพยักหน้า "คุณก็ต้องพักผ่อนนะ"

หนานกงเฉินลุกขึ้นเดินออกจากห้องพักฟื้นแล้ว โทรไปที่ห้องยาม เมื่อรู้ว่าไป๋มู่ชิงวิ่งออกไป ในใจก็สั่นเกร็งทันที แล้วก้าวเดินออกจากประตูโรงพยาบาลไป

เขาขับรถไปตามทางแล้วมองหาเงาของไป๋มู่ชิงด้วย พร้อมกับโทรไปหาซูซี่กับเหยาเหม่ย เหยาเหม่ยพูดอย่างหงุดหงิดกับเขา "หนานกงเฉิน! มู่ชิงบอกให้ฉันบอกคุณ ถ้ามีรักแรกไม่มีเธอ ถ้ามีเธอต้องไม่มีรักแรก คุณเลือกมาสักอย่างเถอะ!"

พูดคำนี้จบ เหยาเหม่ยก็รีบวางสายทันที

หลังจากที่วางสายแล้ว ก็หันไปมองไป๋มู่ชิงที่อยู่ในผ้าห่ม "รอไปเถอะ ถ้าเขายังดื้อดึงให้รักแรกอยู่ในบ้านอีก ถ้ายังงั้นเธอก็ไม่ต้องเกรงใจเขา ฉันจะช่วยเธอเอง!"

ไป๋มู่ชิงไม่พูดอะไร ไม่รู้ว่านอนแล้วหรือยังไม่นอน

เมื่อรู้ว่าไป๋มู่ชิงอยู่บ้านเหยาเหม่ย หนานกงเฉินก็โล่งใจไป สิ่งที่เขาชอบในตัวก็คือเธอเข้มแข็งมาก ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรก็ไม่ได้ทำตัวจะเป็นจะตาย

วันต่อมาก่อนทำงาน หนานกงเฉินก็ไปเยี่ยมจูจูที่โรงพยาบาลก่อน จากนั้นค่อยไปทำงาน

สิ่งแรกที่เขามาถึงที่ทำงานก็รีบถามผู้ช่วยเหยียนเลยว่าไป๋มู่ชิงมาบริษัทหรือเปล่า ผู้ช่วยเหยียนพูดด้วยสีหน้าเข้มงวด "คุณชายเฉินคะ คุณหญิงน้อยให้คนมาส่งจดหมายลาออกค่ะ"

หนานกงเฉินนิ่งไปพักนึงก่อนเงยหน้ามองไปที่เธอ

แม้แต่จดหมายลาออกก็ยื่นมาแล้ว ดูเหมือนว่าครั้งนี้เธอจะโกรธจริงๆ

เขาเงียบไปพักหนึ่งก่อนเอ่ย "ผมรู้แล้ว"

"คุณชายเฉิน คุณไม่คิดที่จะหยุดเธอหรอคะ?" ผู้ช่วยเหยียนถามขึ้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด