อ่านสรุป บทที่ 272 ตอนจบ15 จาก เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด โดย เยว่กวางจู่อวี
บทที่ บทที่ 272 ตอนจบ15 คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายInternet เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เยว่กวางจู่อวี อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
มองเฉียวเฟิงเดินออกไป คุณยายเหยียนเดินไปนั่งข้างๆเหยียนเยว่พูดว่า“เด็กคนนี้ดูแล้วพึ่งพาได้นะ พวกเธอรู้จักกันได้ยังไงเหรอ?ใครจีบใครล่ะ?”
เหยียนเยว่กวาดสายตามองแม่ที่กำลังนินทาว่า“ยังไงก็ไม่ได้โรแมนติกอะไรขนาดนั้น อย่าพูดเลยดีกว่า”
“ไม่โรแมนติกแต่ทำไมความสัมพันธ์ยังพัฒนาอยู่ล่ะ?ไม่ได้เป็นเพราะเสียวเหยียนเหยียนใช่ไหม?”คุณยายเหยียนยังคงอยากรู้อยากเห็นต่อไป
“ไอ๋หยา แม่......อย่าถามแล้วได้ไหม”เหยียนเยว่หน้าแดงเพราะความเขินอายและพูดว่า“เดี๋ยวค่อยบอกท่านทีหลังแล้วกัน”
“ชิ มีความลับอะไรกันแน่”คุณยายเหยียนลุกขึ้นยืนด้วความยิ่งยโสและเดินจากไป
--
หนานกงเฉินมองไป๋มู่ชิงที่กำลังเปลี่ยนชุดอยู่หน้ากระจกไปๆมาๆ เปลี่ยนชุดราตรีไปตั้งหลายชุดก็ยังไม่พอใจ เลยอดไม่ได้ที่จะพูดออกมาว่า“ไม่ใช่ว่าเธอจะแต่งงานสักหน่อย เธอจะจริงจังอะไรขนาดนั้น?”
“งานแต่งงานของเลขาเหยียนกับเฉียวเฟิง น่าจะมีคนหนุ่มหล่อเยอะแยะสินะ?”ไป๋มู่ชิงหันไปยิ้มให้เขา
หนานกงเฉินเอนหลังไปพิงโซฟา กอดอกและมองเธอ“ใช่เหรอ?ถ้าอย่างนั้นเธอคิดว่าฉันเป็นสามีที่ไม่หล่อหรือวาอายุน้อยไม่พอเหรอ?”
“อืม.....มีประโยคหนึ่งที่พูดไว้ดีนะ ถ้ายังกินอาหารที่อร่อยเยอะเกินไปบางทีก็อาจจะเบื่อเอาได้”
“ใช่เหรอ?”ในที่สุดหนานกงเฉินก็ลุกขึ้นยืนจากโซฟา เดินไปข้างหน้าเธอ เอามือไปจับคางของเธอตามความเคยชิน“ฉันไม่เคยเบื่อเธอเลยนะ หรือว่านี่เธอเบื่อฉันแล้ว?”
“ฮ่าฮ่า......ฉันล้อเล่น”ไป๋มู่ชิงยกมือกุมใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา ขณะที่เอามือคลึงๆหน้าเขาเธอก็ยิ้มและพูดประจบว่า“หล่อขนาดนี้ ฉันจะเบื่อได้ยังไงกัน อีกในห้าสิบปียังไงก็ไม่เบื่อหรอกค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นเธอใส่ชุดสวยขนาดนั้นกันทำไมล่ะ?”หนานกงเฉินยังคงจับคางของเธอไว้
“แต่งตัวสวยไปนั้นก็เพราะให้เกียรติเจ้าของงาน เรื่องมารายทางสังคมคุณน่าจะรู้ดีกว่าฉันนะคะ”
หนานกงเฉินก้มตัวลงไปจูบที่ริมฝีปากของเธอ“ให้อภัยเธอก็ได้ ไปกันเถอะ”
ครอบครัวทั้งสามคนก็ขับรถออกไปจากคฤหาสน์ขับตรงไปที่งานแต่งงาน
หนานกงเฉินกับไป๋มู่ชิงไปถึงเร็วกว่าคนอื่นอีก ตอนที่พวกเขาถึงที่งานแต่งงานแล้วนั้น นอกจากคนในครอบครัวและพนักงาน ก็ยังไม่มีแขกคนไหนมาถึงเลย
“วันนี้แม่สวยมากๆเลยค่ะ!”เสียวหว่านชิงยิ้มตาหยีมองเหยียนเยว่ที่อยู่ในชุดแต่งงาน
ในขณะนั้นเหยียนเยว่สวมชุดแต่งงานสีขาวที่สวยงาม สวยแบบไม่มีที่ติ บนใบหน้าก็แต่งหน้าอย่างสวยสง่า ถึงแม้ว่าหุ่นจะดูอวบเล็กน้อยแต่กลับไม่ได้ดูอ้วนเลย แต่ยังไงก็ดูเซ็กซี่มากๆ แม้แต่ขนาดไป๋มู่ชิงมองยังรู้สึกว่าสวยเลยและยังน่าอิจฉามากเลยด้วย
“จริงเหรอ?”เหยียนเยว่หัวเราะ
“ใช่ค่ะ เหมือนกับเจ้าหญิงเลย”
“ยังไงวันนี้แม่ก็เป็นเจ้าหญิงอยู่แล้ว”ไป๋มู่ชิงยิ้มพูดออกมา
“ขอบคุณนะ ถ้าเสียวหว่านชิงโตขึ้นก็จะสวยแบบนี้แหละ”
“จริงเหรอคะ?จะสวยเหมือนแม่ใช่ไหมคะ?”
“แน่นอนสิจ๊ะ”เหยียนเยว่จูงมือเสียวหว่านชิง มองไปที่หนานกงเฉิน หลังจากนั้นยืนเขย่งเท้ามองไปที่ด้านหลังของเขา ตั้งใจถามออกไปว่า“คุณชายเฉิน นี่คุณลืมลืมเอาอะไรมาให้ฉันหรือเปล่า?”
“อะไรกัน?”หนานกงเฉินแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง
“งั้นเงินดอลลาร์หนึ่งตู้รถไปของฉันล่ะ”เหยียนเยว่พูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง“ตอนแรกที่เธอรับปากว่าจะให้เงินดอลลาร์เป็นค่าสินสอดฉัน ไม่น่าจะลืมเร็วขนาดนั้นใช่ไหม?”
“อ้อ ฉันไม่ลืมหรอก”หนานกงเฉินพูดออกมาอย่างสุภาพว่า“กำลังวางแผนจะทำทางรถไฟไปที่บ้านเธอพอดี รอถ้าทำเสร็จแล้วจะส่งไปให้เธอนะ”
ไป๋มู่ชิงพูดอะไรไม่ออกและกวาดสายตาไปที่เขา“คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะเจ้าเล่ห์กับผู้หญิงขนาดนี้”
“แต่มันก็เป็นเพียงแค่ความสุขชั่วขณะเองแหละ”เหยียนเยว่พูด
ทุกคนก็หัวเราะ เฉียวเฟิงที่อยู่ข้างๆก็พูดว่า“ทุกคนเข้าไปนั่งพักผ่อนก่อนเถอะ อีกตั้งพักหนึ่งงานถึงจะเริ่ม”
“ป่ะ เข้าไปนั่งกัน”เหยียนเยว่จูงมือเสียวหว่านชิงเดินเข้าไปในห้องรับรอง
ไป๋มู่ชิงกวาดสายตาไปรอบๆแล้วถามว่า“เสี่ยวเหยียนเหยียนล่ะ?ไม่ได้อุ้มออกมาเหรอ?”
“อุ้มมาสิ พ่อแม่ฉันอู้มไว้อยู่”เหยียนเยว่ใช้คางชี้ไปที่คนแก่ทั้งสองคนที่กำลังอุ้มเสี่ยวเหยียนเหยียนต้อนรับญาติและเพื่อนๆอยู่
“หนูอยากไปเล่นกับเสี่ยวเหยียนเหยียน”เสียวหว่าชิงพูด
ไป๋มู่ชิงก็มองไปที่ทุกคนและคุกเข่าที่ตรงหน้าเธอพูดอย่างอ่อนโยนว่า“หว่านชิง ฉันรู้ว่าหนูอยากไปเล่นกับเสี่ยวเหยียนเหยียน แต่ว่าวันนี้คงยังจะไม่เหมาะ พวกเราค่อยเล่นกันวันหลังดีไหม?”
“ถูกต้อง ค่อยพาเสี่ยวเหยียนเหยียนไปเล่นกันที่บ้านนะ”หนานกงเฉินพูด
“จริงนะคะ?”เสียวหว่านชิงดีใจ
เห็นหานกงเฉิงพยักหน้า เธอก็กระโดดดีใจขึ้นมาทันที“ยอดไปเลย!”
เหยียนเย่วมองหนานกงเฉิน พูดออกไปเบาๆว่า“ฉันยังไม่ได้ตอบรับเลยนะ......”
“แค่วันเดียวเอง อย่าขี้เหนียวเลยน่ะ”หนานกงเฉินก็ขยิบตาใส่เธอ
“นิสัยที่ชอบใช้อำนาจนี้ยังไงก็ไม่เคยเปลี่ยนเลยสักนิด”เหยียนเยว่กระซิบข้างหูไป๋มู่ชิง พูดจบก็หันไปพูดกับทั้งสามว่า“พวกคุณนั่งก่อนเถอะ
“ได้เลย เธอไปเถอะ”ไป๋มู่ชิงพูด
หลังจากที่เหยียนเยว่ไปแล้ว แขกก็เริ่มทยอยมากันแล้ว ล้วนเป็นคนสังคมชั้นสูงกันทั้งนั้น หนานกงเฉินคุ้นเคยอยู่แล้ว
ใครก็ไม่กล้าถามเรื่องราวบาดหมางเมื่อก่อนของเขากับเฉียวซือเหิง เพียงแค่มาชนแก้วประจบประแจงเท่านั้น
นี่ยังเป็นครั้งแรกที่หว่านชิงมาร่วมงานแต่งงานของคนอื่น เลยดีใจเป็นพิเศษ ไป๋มู่ชิงจูงมือพาเธอไปหาอาหารว่างทาน รอจนกว่าหว่านชิงทานอย่างพอใจ ตอนที่สองแม่ลูกเดินไปถึงหน้าประตูห้องพักของเจ้าสาวนั้น ก็เจอกับคุณนายเฉียวที่พึ่งจะเดินออกมาจากข้างใน
ตั้งแต่หลังจากที่เจอกับเธอที่ศาล ไป่มู่ชิงไม่ได้เจอเธออีกเลย และคิดไม่ถึงว่าวันนี้เธอจะมาเข้าร่วมงานแต่งงานของเฉียวเฟิง ดังนั้นในขณะนั้นเธอก็อึ้งไปเลย
คุณนายเฉียวมองเธอด้วยสีหน้าที่เคียดแค้นออกมาอย่างชัดเจน
ไม่รู้ว่าทำไมตอนที่เสียวหว่านชิงเห็นคุณนายเฉียวก็พูดออกไปอย่างสุภาพ“คุณย่า”
คุณนายเฉียวมองเสียวหว่านชิง ไม่สนใจเธอเลยแม้แต่น้อยแต่กลับพูดเยาะเย้ยไป๋มู่ชิงว่า“ฉันว่าพวกคนหนุ่มสาวนี่มันสุดยอดจริงๆ เจ็บปวดไปด้วยกันแก้แค้นไปด้วยกัน ตอนนี้ยังเสแสร้งมาร่วมงานแต่งงานของเฉียวเฟิงอีก คุณนายน้อยหนานกงรู้สึกว่ามันสนุกมากเหรอ?”
“คุณนายเฉียวไม่เจอกันนานเลยนะคะ”ไป๋มู่ชิงทักทายเธออย่างสุภาพ เดิมทีก็อยากจะหลีกเลี่ยงอดีตแบบนี้ แต่ว่าคุณนายเฉียวกลับพูดต่อด้วยความเคียดแค้นอีกว่า“ตอนนั้นเธอทิ้งเฉียวเฟิงไปยังไงนะ ไหนจะที่เธอตอบแทนซือเหิงอีก เธอลืมไปหมดแล้วเหรอ?”
“ฉันไม่ได้ลืมค่ะ......”
“หรือเพียงแค่คิดถึงซือเหิงแล้วยังทรมานอยู่ในคุก ตระกูลหนานกงของพวกเธอก็คงรู้สึกดีมาก ฟินมากเลยสินะ?”
“คุณนายเฉียว......”ยังไงคุณนายเฉียวก็เป็นผู้อาวุโส ยิ่งกว่านั้นวันนี้ยังเป็นวันดีของเฉียวเฟิงกับเหยียนเยว่ ไป๋มู่ชิงไม่สามารถโต้เถียงไปโดยตรง ในเวลานั้นเธอไม่รู้ว่าควรตอบกลับไปว่าอย่างไร
แต่ตอนที่เธออ้าปากจะพูดก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดว่าอะไร รู้สึกว่าแน่นเอวขึ้นมาเล็กน้อย ลมหายใจของหนานกงเฉินก็ปกคลุมมาแต่ไกล
“ไม่อย่างนั้นคุณนายเฉียวรู้สึกว่าตระกูลหนานกงของผมควรจะทำอย่างไรเหรอครับ?คิดว่าเฉียวซือเหิงยังจะทนทุกข์ทรมานอยู่ในคุกอีก?ดูแล้วบทเรียนเล็กน้อยนี้ไม่ได้ทำให้เขารู้ถึงความผิดของตัวเองเลย ไม่รู้ว่าเฉียวซือเหิงเป็นเหมือนกับคุณนายเฉียวหรือเปล่าที่ไม่กลับไปพิจารณาตัวเองเลยแม้แต่นิดเดียว?”หนานกงเฉินพูดด้วยน้ำสียงที่ไม่รีบร้อนและไม่อ่อนโยน จนกระทำให้ยิ้มออกมา
สีหน้าของคุณนายเฉียวก็เปลี่ยนไป ถึงแม้จะพูดอะไรออกมาแม้แต่ประโยคเดียว
หนานกงเฉินเลยพูดมาอีกว่า“เฉียวซือเหิงกับเฉียวเฟิงทำเคยอะไรกับฉันและไป๋มู่ชิง ในใจของคุณนายเฉียวคงจะรู้ดีนะ วันนี้เป็นวันดีของเหยียนเยว่ ผมคงไม่ต่อล้อต่อเถียงกับคุณนายเฉียวแล้ว เชิญคุณนายเฉียวตามสบายเลยครับ”
หนานกงเฉินดึงไป๋มู่ชิงไปอยู่ข้างเขา
คุณนายเฉียวมองทั้งสองคนและเดินออกไปอย่างโกรธแค้น
หลังจากที่คุณนายเฉียวเดินออกไปแล้ว หนานกงเฉินยกมือขึ้นไปตบไหล่ปลอบใจไป๋มู่ชิง“ไม่เป็นไรนะ ไม่ต้องไปสนใจเธอ”
ไป๋มู่ชิงพยักหน้าพูดว่า“เธอไปคุยกับแขกเถอะ ฉันจะไปดูเหยียนเยว่”
หนานกงเฉิน หลังจากที่มองเธอเดินเข้าไปในห้องพักของเจ้าสาวก็เดินไปที่ห้องโถงใหญ่
เหยียนเยว่กำลังเติมหน้าอยู่ เห็นไป๋มู่ชิงกับหว่านชิงเดินมา จับมือหว่านชิงและพูดว่า“หว่านชิง เห็นเสี่ยวเหยียนเหียนไหม?”
เสียวหว่านชิงส่ายหัว“ไม่เห็นนะคะ แม่พาหนูไปทานของว่าง มีอาหารว่างที่ทั้งสวยทั้งอร่อยเยอะแยะเลยค่ะ ดูสิคะ หนูทานมาอิ่มมากเลย”ตอนที่เธอพูดก็เอามือไปลูบท้องน้อยๆของเธอ
“หว่านชิงชอบก็ดีแล้ว”เหยียนเยว่ยิ้มพูด พูดจบก็เงยหน้าขึ้นไปมองไป๋มู่ชิง“ใช่สิ เมื่อครู่เธอเจอคุณนายเฉียวที่หน้าประตูเหรอ?เหมือนฉันได้ยินเสียงของพวกเธออยู่”
ไป๋มู่ชิงพยักหน้าเบาๆ มองไปที่เธอและพูดว่า“คิดไม่ถึงว่าคุณนายเฉียวจะยอมมาร่วมงานแต่งงานของเฉียวเฟิง มันค่อนข้างน่าตกใจอยู่นะ”
“น่าตกใจเหรอ?แต่งานวันนี้เธอเป็นคนจัดการทั้งหมดเลยนะ”
“ใช่เหรอ?”
“ฉันคิดว่าน่าจะเป็นเฉียวซือเหิงให้เธอจัดการ”เหยียนเยว่พูด“แต่ฉันฟังเฉียวเฟิงว่าท่าทางของคุณนายเฉียวดีกับเขามากกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย อย่างน้อยก็มองเห็นเขาเป็นคนในคระกูลเฉียวแล้ว”
“แล้วคุณนายเฉียวดีกีบเธอไหม? ”
“ก็ดีอยู่นะ”เหยียนเยว่ยิ้มพูด“ฉันรู้สึกว่าเธอก็เป็นคนดีอยู่นะ อย่างน้อยก็ไม่โอหังและไม่หยาบคาบเหมือนกับคุณนายคนอื่นๆ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว ตอนแรกที่ฟังซูซี่พูดถึงคุณผู้หญิงเฉียวนั้น ก็พูดว่าเธอเป็นคนดีอยู่นะ”ไป๋มู่ชิงก็คิดดู“ยิ่งกว่านั้นเธอไม่น่าจะอยู่กันกับเธอสินะ?”
“น่าจะไม่หรอก ยังไงก็ถือว่าเคยเคยโกรธแค้นกันอยู่ เฉียวเฟิงก็ไม่ได้สบายใจกับเธอขนาดนั้น”เหยียนเยว่พูด
เมื่อก่อนคุณนายเฉียวก็ไม่กล้ายั่วโมโหเฉียวเฟิง ตอนนี้เฉียวเฟิงดูแลเฉียวกรุ๊ปอยู่ คุณนายเฉียวยิ่งไม่กล้าจะไปขัดใจเขาตามใจชอบ เพราะยังไงเฉียวซือเหิงก็ยังต้องอยู่ในคุกอีกสองปีกว่า รอหลังจากเขาออกมาก็คงไม่รู้ว่าบริษัทเปลี่ยนไปแบบไหนก็คงจะไม่รู้
--
ถึงเวลาเข้าพิธีแล้ว เหยียนเยว่เดินไปที่บนพรมแดงจับมือพ่อเหยียน เดินไปที่เวทีแต่งงาน
ชุดสีขาวสวยงามลากผ่านไปบนพรมสีแดงที่เต็มไปด้วยดอกกุหลาบสีแชมเปญ และยังเล่นเพลงงานแต่งงาน ในงานแต่งงานปลกคุมไปด้วยบรรยากาศแห่งความโรแมนติก
นอกจากผู้คนแล้วไป๋มู่ชิงทั้งดีใจและอิจฉาจนต้องปรบมือ“โรแมนติกมากเลย มีความสุขจังเลย......เจ้าสาวสวยมาก ไหนจะ......เจ้าบ่าวก็หล่อมาก......”
หนานกงเฉินหันกลับไปจ้องเธอ“เจ้าบ่าวหล่อเหรอ?”
“หล่อสิ หล่อมากจริงๆนะ”ไป๋มู่ชิงไม่ได้รู้สึกถึงความหึงหวงของเขา มือทั้งสองจับไปที่แขนของเขาด้วยสีหน้าที่มีความหวัง“เฉิน ฉันก็อยากสวมชุดแต่งงาน ฉันอยากแต่งงามแบบโรแมนติกแบบนี้สักครั้ง”
“เธออยากจะแต่งกับใคร?”
“แน่นอนว่าต้องเป็นคุณสิ”เธอยังคงมองไปทั้งสองคนบนเวทีแต่งงานที่กำลังทำพิธีอยู่
หนานกงเฉินกลับหัวเราะออกมา ยิ้มและดึงแขนเธอเข้ามา“ได้สิ งั้นวันหลังฉันจะให้เธอแต่งงานโรแมนติกแบบนี้นะ”
“จริงนะ?”ไป๋มู่ชิงดีใจ
ครั้งที่แล้วก็เป็นเพราะจูจู เขาเลยพังงานแต่งไป คิดไปแล้วตอนนี้ก็ยังรู้สึกผิดกับเธออยู่เลย
ไป๋มู่ชิงคิดแล้วคิดอีกและพูดว่า“ถ้าอย่างนั้นก็ช่างมันเถอะ พวกเราเป็นสามีภรรยากันมาตั้งนานแล้วจะแต่งซ้ำอีกทำไมกับเดี๋ยวก็โดนเยาะเย้ยหรอก”
“ใครมันจะกล้าเยาะเย้ยพวกเรา?”หนานกงเฉินก้มหัวมาจูบที่ข้างหูของเธอ“เดี๋ยวฉันจะจัดการมันเอง”
ไป๋มู่ชิงหัวเราะออกมาเบาๆ
ถึงเวลาโยนช่อดอกไม้นั้น ไป๋มู่ชิงก็ปล่อยมือหนานกงเฉินลงไปจากบนเวที หนานกงเฉินดึงเธอกลับมาพูดว่า“เธอจะไปทำไม?ให้โอกาสผู้หญิงคนที่ยังไม่แต่งงานเถอะ”
“ฉันก็ไม่ได้แต่งงานนะ คุณเคยรับปากจะแต่งงานกับฉันเหรอ?”ไป๋มู่ชิงหัวเราะคิกคักและวิ่งไปในกลุ่มผู้คนพวกนั้น
“คุณพ่อคะ คุณแม่วิ่งไปที่คนเยอะขนาดนั้นกันทำไมคะ?”หว่านชิงถามด้วยความไม่เข้าใจ
หนานกงเฉินอุ้มเธอขึ้นมา ให้เธอได้เห็นได้อย่าทั่วถึง“อืม......คุณแม่พูดว่าเธออยากจะแต่งงานกับพ่ออย่างโรแมนติกแบบนี้ ดังนั้นเลยจะไปแย่งช่อดอกไม้ในมือของแม่บุญธรรม”
“งั้นวันหลังคุณพ่อก็จะชวนคนมางานแต่งงานของพวกท่านเหรอ?”
“แน่นอนสิลูก”
“ขอบคุณค่ะพ่อ!”หว่านชิงหัวเราะออกมาอย่างดีใจ
ตามมาด้วยเสียงกรี๊ดกร๊าดของแขก ช่อดอกไม้ในมือของเหยียนเยว่ลอยอยู่กลางอากาศอย่างสวยงาม ตรงเข้าไปในกลุ่มผู้คนแต่สุดท้านแล้วก็ตกไปอยู่ในมือของไป่มู่ชิง
ไป๋มู่ชิงคิดไม่ถึงเลยว่าตัวเองจะโชคดีขนาดนี้ เธอทั้งตกใจและดีใจที่เธอได้รับดอกไม้ เธอร้องกรีดและกระโดดโลดเต้นอย่างตื่นเต้นขณะที่ได้ช่อรับดอกไม้“ฉันรับได้แล้ว ฉันรับช่อดอกไม้ได้แล้ว......!”
เธอตะโกนเสร็จก็เขย่งเท่ารีบเดินโบกมือเข้าไปหาหนานกงเฉิน“หนานกงเฉินคุณเห็นแล้วหรือยัง?เดี๋ยวฉันก็จะได้แต่งงานกับคุณแล้ว......!”
หนานกงเฉินรีบโบกมือแล้วยิ้มให้เธอ
เหยียนเยว่ที่อยู่บนเวทีก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาและพูดว่า“มู่ชิงเธอเกลียดการแต่งงานขนาดนี้เลยเหรอ”
เฉียวเฟิงโอบไหล่ของเธอด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มเหมือนกัน“หนานกงเฉินยังคิดค้างงานแต่งงานให้เธอ”
“ดูแล้วก็ควรจัดให้เธอนะ”
ไป๋มู่ชิงมัวแต่ยุ่งคิดไปตั้งนาน ตัวเองก็ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี
สุดท้ายแล้วก็ได้แต่จำใจพูดออกมาอย่างน้อยใจ“งั้นช่างมันเถอะ รอลูกคลอดออกมาค่อยว่ากัน”
“มองหน้าที่น้อยใจของเธอ”หนานกงเฉินมองว่าเธอน่าขันมาก
--
ผ่านงานแต่งงานมาหนึ่งวัน เฉียวเฟิงกับเหยียนเยว่ก็เหนื่อยล้ากันมาก
แต่ว่าตอนที่ทั้งสองคนกลับไปที่ห้องนั้น ความเหนื่อยล้าบนหน้ากับร่างกายก็หายไปทันที แต่กลับรู้สึกไม่เป็นตัวเอง
หลังจากคืนที่พวกเขาดื่มกัน แม้แต่มือก็ไม่เคยจับกันดีๆเลย ทันทีที่เข้าไปในห้องใหม่ที่อบอุ่นมาก ถึงแม้ว่าในใจจะรู้สึกว่าทำตัวไม่ถูกก็ตาม
คุณยายเหยียนอุ้มเสี่ยวเหยียนเหยียนพูดกับทั้งสองคนว่า“คืนนี้ให้เสี่ยวอยู่กับฉันแล้วกัน พวกเธอสองคนมีความสุขกับคืนวันแต่งงานเถอะ”
“แม่ ตอนกลางคืนเหยียนเหยียนต้องกินนมอยู่นะคะ”
“ไม่เป็นไรหรอก รอกลางดึกถ้าเธอร้องไห้อยากกินมาเดี๋ยวแม่จะอุ้มมาหาเอง”
“มันจะยุ่งยากเกินไปหรือเปล่าคะ”
“ไม่ยุ่งยากหรอก ไม่ได้รบกวนอะไรเลย”คุณยายเหยียนพูดอย่างรวบรัดว่า“งั้นเอาอย่างนี้ วันนี้พวกเธอเหนื่อยกันมาทั้งวันแล้ว รีบอาบน้ำแล้วนอนพักผ่อนเถอะ”
คุณยายเหยียนพูดจบก็กลับไปที่ห้องของตัวเอง
ในห้องใหม่นั้นก็เหลือแต่เฉียวเฟิงกับเหยียนเยว่สองคนเงียบขึ้นมาเลยในชั่วพริบตาเดียวยิ่งทำให้ทั้งสองอึดอัด
ครูหนึ่ง เฉียวเฟิงพูดกับเหยียนเยว่ว่า“เยว่เยว่ เธอไปอาบน้ำก่อนเถอะ”พูดจบ เขาพาเธอไปที่หน้ากระจก“มา ฉันช่วยเธอเอาเครื่องประดับบนหัวออกเอง”
นี่เป็นครั้งแรกที่เฉียวเฟิงช่วยผู้หญิงเอาเครื่องประดับออก ท่าทางค่อนข้างเงอะงะแต่กลับรู้สึกอบอุ่น หลังจากที่เอาเครื่องประดับออกหมดแล้ว เขายังช่วยเธอรูดซิบชุดราตรีอีกและพูดว่า“ได้แล้ว”
หลังจากที่เหยียนเยว่อาบน้ำเสร็จแล้วเรียบร้อย เพื่ออยากจะบรรเทาอาการตื่นเต้น เธอเลยหยิบกล้องมาดูรูปในวันงานวันนี้ ดูมาจนถึงรู้สุดท้ายนัน เฉีนวเฟิงก็ออกมาจากห้องน้ำ เขาเปลือยท่อนบน เผยให้รู้สึกถึงความเซ็กซี่ของเขาออกมา
เหยียนเยว่รีบยกกล้องขึ้นและพูดว่า“มีหลายรูปในนี้ถ่ายได้ดีมากเลยนะ คุณอยากดูไหม?”
เฉียวเฟิงเดินมาหยิบกล้องในมือของเธอเดินจากไป แต่เขากลับไม่ได้สนใจรูปข้างในนั้นเลย แต่เอากล้องไปวางไว้ที่บนหัวเตียงและพูดอย่างอ่อนโยนว่า“ดึกมากแล้ว ค่อยดูพรุ่งนี้แล้วกัน”
“อืม งั้นก็รีบนอนเถะค่ะ”เหยียนเยว่หันหนีเขาไปอยู่อีกด้านหนึ่งของเตียง
เฉียวเฟิงยกมือขึ้นมาขับแขนของเธอ ใชแรงเล็กน้อย เธอกลับขึ้นมานอนบนเตียงอีกครั้ง
เฉียวเฟิงใช้มือข้างหนึ่งจับคางของเธอ ก้มหัวไปจูบที่ริมฝีปากของเธอ ตอนที่จะจูบครั้งที่สองนั้น เหยียนเยว่หันหน้าไปด้านข้าง เธอทนไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา“รู้สึกแปลกจังเลย......”
เฉียวเฟิงยิ้มเล็กน้อย“เสียดายตอนนี้เธอดื่มเหล้าไม่ได้ ไม่อย่างนั้นพวกเราก็จะได้ฉลองกัน”
“ใช่ เสียดายจริงๆเลย......”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็ค่อยๆชินเอง”เฉียวเฟิงพูด
“ดูแล้วเหมือนคุณมีประสบการณ์?”
“ไม่......”เฉียวเฟิงส่ายศีรษะ หลังจากนั้นก็จูบริมฝีปากเธออีกครั้ง
ครั้งนี้ไม่ใช่จูบแบบฟิดเผิน แต่เป็นจูบที่ดูดดื่ม ในหัวของเหยียนเยว่ก็ค่อยๆว่างเปล่า เธอจ้องไปที่หน้าอันหล่อเหล่ที่คุ้นเคย รู้สึกดีและรู้สึกอายจนหน้าแดง......
เฉียวเฟิงหมุนตัวไปทับเธอไว้ พูดกับเธอเบาๆว่า“หลับตาลงสิ”
เหยียนเยว่หลับตาทั้งสองข้างลงอย่างเชื่อฟัง มือทั้งสองโอบที่คอของเขา ในใจค่อยๆปล่อยวาง
เขาเป็นสามีที่ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นพ่อของเสี่ยวเหยียนเหยียน แต่ทำไมเธอถึงรู้สึกไม่เป็นตัวเองที่จูบกับเขากันนะ?
“เยว่เยว่ ขอบคุณนะที่แต่งงานกับผม ยอมคลอดเสี่ยวเหยียนเหยียน”ข้างหูเป็นเสียงที่อบอุ่นของเขา“ไหนจะ......ยอมที่ให้ผมกอดคุณจูบคุณแบบนี้”
เหยียนเยว่ค่อยๆลืมตาทั้งสองข้าง มองไปที่เขาแล้วพูดว่า“ไม่ต้องขอบคุณหรอกค่ะ มันเป็นสิ่งที่ควรอยู่แล้ว”
เฉียวเฟิงตลกกับคำตอบโง่ๆของเธอ จ้องไปที่เธอ“ถ้าอย่างนั้น......พวกเราเริ่มกันได้แล้วใช่ไหม?”
เหยียนเยว่พยักหน้าและยังคงเอ๋อๆต่อไป
จนกระทั่งรู้สึกว่าร่างกายเย็นลง หลังจากที่ถอดเสื้อผ้าบนร่างกายโดนถอดออก เธอถึงจะหลับตาลงอีกครั้ง รู้สึกเขินเขาจนหน้าแดง
ความรู้สึกนี้มันแปลกมาก แต่กว่าก็รู้สึกว่ามีความสุข เคลิ้มไปอย่างสุขใจ......
ทันทีเธอก็จมลงไปกับความรู้สึกนั้น.....
--
หลังจากกลับมาจากข้างนอก ไป๋มู่ชิงก็หยิบกระดาษทดสอบไปทดสอบดู คิดไม่ถึงว่าการทดสอบครั้งนี้จะแม่นยำ
ดูสองขีดสีแดงที่บนที่ตรวจ เธอดีใจจนต้องรีบออกมาจากในห้องน้ำ
พอหนานกงเฉินเห็นท่าทางของเธอก็รู้ว่าตัวเองนั้นพูดถูกแล้ว เขารีบอ้าแขนพยุงเธอและพูดว่า“ค่อยๆหน่อย......อย่าลืมว่าตอนนี้เธอกำลังตั้งครรภ์นะ”
“อ้อ ใช่สิ”ไป๋มู่ชิงพยักหน้า มือทั้งสองโอบอยู่ที่คอของเขา“คุณมายถูกแล้วจริงๆ.....ฉันตั้งครรภ์แล้ว หว่านชิงจะมีน้องแล้ว”
“ใช่ ฉันก็จะได้เป็นพ่อคนอีกแล้ว”หนานกงเฉินโอบเธอไว้ จูบเธออย่างดูดดื่มและพูดกับเธอว่า“ขอบคุณมากๆเลยนะ”
“ไม่หรอก ควรเป็นฉันสิที่ต้องขอบคุณ ถึงแม้ว่าจะเกลียดคุณอยู่นิดหน่อย แต่ว่าฉันก็ยังดีใจอยู่นะ”ไป๋มู่ชิงก็อดไม่ได้ที่จะดิ้นอยู่ในอ้อมกอดของเขา
“ขอแค่เธอดีใจ”
“นี่......ที่รักฉันรักคุณนะคะ”ไป๋มู่ชิงจูโจมจูบเขาด้วยตัวเอง
“ผมก็รักคุณนะ”หนานกงเฉินก็พูดความรู้สึกในใจของตัวเองออกมา
ทั้งสองคนก็หัวเราะกันไปแบบนั้น กอดจูบกันเป็นเวลานานโดยไม่แยกจากกัน......
ผ่านอุปสรรค เจอเรื่องราวกันมามากมาย ในที่สุดพวกเขาก็ยังคงอยู่ด้วยกัน เหมือนกับคนรักกันทุกคนที่ในที่สุดแล้วก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข......
(จบบริบูรณ์)
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด
เขียนดี แต่แปลได้สับสน วางบทตอนกระโดดไปกระโดดมา...