เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด นิยาย บท 274

เฉียวซือเหิงออกจากคุกได้สามวันก็เข้าไปที่บริษัทฯ

สามปีมานี้เป็นเฉียวเฟิงที่คอยบริหารงานในบริษัทฯ ถึงเฉียวเฟิงจะไม่ถนัดเรื่องบริหาร แต่มีผู้บริหารมืออาชีพอย่างเหยียนเยว่อยู่ด้วยแล้ว ทำให้การบริหารงานได้ง่ายขึ้นเยอะ

แต่เรื่องงานบริหารไม่ใช่สิ่งที่เขาสนใจนัก ถ้าเฉียวซือเหิงกลับมารับช่วงต่อได้ก็จะดีไม่น้อย

เฉียวซือเหิงสีหน้าดีขึ้นไม่น้อย แต่เฉียวเฟิงยังรู้สึกเป็นห่วง: "พี่ใหญ่ พี่พักผ่อนที่บ้านหลายวันหน่อยก็ได้นะครับ"

เฉียวซือเหิงตอบ: "อยู่บ้านก็ไม่มีอะไรทำ มาที่บริษัทฯดีกว่า"

เฉียวเฟิงพยักหน้า: "ถ้างั้น ผมก็ขอส่งคืนบริษัทฯให้พี่ดูแลต่อเลยนะครับ"

"อยู่ช่วยกันบริหารบริษัทฯไม่ดีกว่าเหรอ พวกร้านอาหารก็ให้เหยียนเยว่ดูแลไป" เฉียวซือเหิงพูด

เฉียวเฟิงยิ้ม: "เหยียนเยว่บอกว่าอยู่ในสนามธุรกิจมานานหลายปีแล้ว อยากพักผ่อนซะหน่อย จะได้อยู่ดูแลเหยียบเหยียบด้วย พี่กลับมาเขาก็ได้พักพอดี"

เฉียวซือเหิงพยักหน้า: "ขอบคุณเหยียนเยว่แทนฉันด้วย"

"ขอบคุณอะไรกัน เราครอบครัวเดียวกัน"

ขณะที่เฉียวเฟิงกำลังจะออกจากห้องทำงาน เฉียวซือเหิงเอามือตบเบาๆบนบ่าเขา: "คืนนี้พาเหยียนเยว่และเสี่ยวเหยียนเหยียนกลับมากินข้าวที่บ้านนะ"

เฉียวเฟิงรับปากก่อนเดินออกไป

หลังเลิกงาน เฉียวเฟิงกลับไปรับเหยียนเยว่และเสี่ยวเหยียนเหยียนไปที่บ้านตระกูลเฉียว ถึงแม้ว่าเดี๋ยวนี้คุณผู้หญิงเฉียวจะดีกลับเฉียวเฟิงมากแล้ว แต่เนื่องจากต่างก็ยังไม่สนิทใจ ถ้าไม่มีเรื่องอะไรเฉียวเฟิงก็ไม่ค่อยได้กลับคฤหาสน์ตระกูลเฉียวเท่าไหร่

ระหว่างทาง เสี่ยวเหยียนเหยียนถามด้วยน้ำเสียงเจี๊ยวจ๊าว: "คุณพ่อคะ เรากำลังจะไปไหนกันคะ?"

เฉียวเฟิงหันมามองด้วยความเอ็นดู: "พาเหยียนเหยียนไปบ้านคุณย่า"

"ทำไมต้องไปบ้านคุณย่าคะ"

"ก็เพราะคุณลุงกลับมาแล้ว"

"คุณลุงคือใครคะ?" เสี่ยวเหยียนเหยียนถามต่อ

"เดี๋ยวเจอแล้วก็รู้เอง" เหยียนเยว่จัดกระโปรงให้แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เธอพูดเสร็จก็ถามเฉียวเฟิงต่อ: "ซูซี่ไม่กลับบ้านตระกูลเฉียวแล้วจริงๆเหรอ?"

เฉียวเฟิงหยุดคิดแปบหนึ่งก่อนพูด: "น่าจะไม่กลับแล้วนะ"

"ไม่คิดเลยว่าเขาทั้งสองคนจะกลายเป็นแบบนี้ไปได้" เหยียนเยว่พูดเหมือนทุกคน ที่พูดถึงเรื่องของทั้งสองแล้วก็จะอดรู้สึกเสียดายไม่ได้

"อาจเป็นเพราะ.....พรหมลิขิตมั้ง" เฉียวเฟิงยิ้มเล็กน้อย: "ก็เหมือนเราทั้งสองคนไง ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดว่าเป็นเพราะพรหมลิขิตที่ทำให้เราได้มาอยู่ด้วยกันเหรอ?"

"อืม ก็ถูกนะ"

เฉียวเฟิงหันมาจับมือเธอไว้ก่อนพูด: "พูดไปแล้วก็ต้องขอบคุณแก้วตาดวงใจของเรากันนะ"

"ทำไมต้องขอบคุณหนูคะ?" เสี่ยวเหยียนเหยียนถามอย่างไม่เข้าใจ

"ขอบคุณหนูที่ทำให้คุณแม่ได้อยู่เมืองซีต่อไง" เฉียวเฟิงอมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดด้วยสีหน้าจริงจัง: "ถ้าไม่ใช้เพราะเสี่ยวเหยียนเหยียนของเรา คุณแม่คงหนีไปแต่งงานเมืองนอกแล้ว"

เหยียนเยว่หัวเราะ อันนี้เรื่องจริง

ถ้าตอนนั้นเธอไม่ได้ตั้งครรภ์ และไม่ได้เป็นลมต่อหน้าเฉียวเฟิงจนตรวจพบว่าตั้งครรภ์ เธอคงไม่ได้เก็บเด็กไว้ คงจะหนีไปทำแท้งที่โรงพยาบาลแล้ว

มันจริงนะ.....ถ้าพรมหลิขิตมาแล้ว ต่อให้เป็นใครก็หลีกหนีไม่พ้น

--

ครอบครัวเล็กๆทั้งสามชีวิตเดินทางมาถึงคฤหาสน์ตระกูลเฉียว เจอเฉียวซือเหิงที่เพิ่งเลิกงานกลับมาพอดี

เฉียวซือเหิงลงจากรถ มองดูครอบครัวเล็กๆที่ดูอบอุ่นทั้งสาม ก่อนจะเดินเข้าไปหา

"นี่ก็คือโซ่ทองคล้องใจที่พวกเธอได้มาหลังดื่มหนักเหรอ?" เฉียวซือเหิงโน้มตัวไปจับมือกับเสี่ยวเหยียนเหยียน เธอเขินอายจนหลบไปอยู่ด้านหลัง

"พี่ ระวังคำพูดหน่อยครับ เดี๋ยวเหยียนเหยียนจะถามได้" เฉียวเฟิงพูดยิ้มๆก่อนจะหันไปบอกเสี่ยวเหยียนเหยียนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน: "เหยียนเหยียน คนนี่คือคุณลุงนะ"

"คุณลุงคะ" เสี่ยวเหยียนเหยียนเรียกอย่างน่าเอ็นดู ก่อนจะถามขึ้น" "คุณลุงบอกหน่อยได้มั้ยคะว่าอะไรคือได้มาหลังดื่มหนักและอะไรคือโซ่ทองคล้องใจคะ?"

ความอยากรู้อยากเห็นของเสี่ยวเหยียนเหยียนสูงมากจริงๆ เธอถามเฉียวซือเหิงด้วยสีหน้าจริงจัง

"เออ......อันนี้ก็......." เฉียวซือเหิงคิดก่อนพูด: "รอให้หนูโตขึ้นหนูก็จะรู้เอง มาให้คุณลุงอุ้มหน่อย"

"อุ้มแปบเดียวนะคะ" เสี่ยวเหยียนเหยียนที่ถูกเขาอุ้มขึ้นมาไม่ลืมที่จะบอกเขา

"ก็ได้ อุ้มแปบเดียวก็พอเนอะ" เฉียวซือเหิงอุ้มเหยียนเหยียนพาทุกคนเข้าบ้านไป

ตอนแรกนึกว่าที่บ้านจะมีแค่คุณผู้หญิงเฉียวคนเดียว ไม่คิดว่าในห้องรับแขกจะยังมีหญิงสาวที่สวยและอ่อนหวานนั่งอยู่ด้วย

มองหญิงสาวแปลกหน้าที่นั่งอยู่บนโซฟาแล้ว เฉียวซือเหิงก็ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย เฉียวเฟิงและเหยียนเยว่ก็หันมามองหน้ากันด้วยความสงสัย

คุณผู้หญิงเฉียวปรับเก้าอี้นั่งให้เคลื่อนเข้ามาหาทุกคนด้วยความยินดี และไม่ลืมจุงมือสาวสวยตามมาด้วย: "นี่เป็นญาติห่างๆของฉัน ชื่อเหวินหย่า เพิ่งเรียนจบมาหางานทำที่เมืองซี เลยจะมาอยู่กับเราชั่วคราว"

"สวัสดีค่ะ รบกวนด้วยนะคะ" สาวสวยดูแล้วอ่อนหวานดูดี เหมาะสมกับชื่อเธอมาก

เฉียวซือเหิงมองดูเธอก่อนจะถามคุณผู้หญิงเฉียว: "ญาติห่างๆ?"

"ใช่ ก็ลูกสาวของลูกบุญธรรมลูกพี่ลูกน้องของคุณยายเธอไง ถึงจะไม่เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด แต่ก็ถือเป็นญาติกัน เธออาจไม่เคยเห็น" คุณผู้หญิงเฉียวพูดขึ้น

อย่าว่าแต่เฉียวซือเหิงเลย แม้แต่เฉียวเฟิงกับเหยียนเยว่เองก็ดูออกว่าคุณผู้หญิงพาญาติคนนี้มาอยู่ด้วยเพื่ออะไร แต่ทุกคนไม่ได้เอ่ยถามอะไร ถึงแม้ว่าเฉียวซือเหิงจะรู้สึกเบื่อหน่ายแค่ไหนก็ไม่สามารถไล่เธอออกจากบ้านเหมือนคนอื่นๆที่ผ่านมาได้ เพราะยังไงแล้วคนนี้ก็มาในฐานะญาติคนหนึ่ง

ระหว่างทานอาหารค่ำ คุณผู้หญิงเฉียวยังให้เฉียวซือเหิงช่วยหาตำแหน่งงานให้หยวนหย่าถิงด้วย เฉียวซือเหิงมองคุณผู้หญิงก่อนจะหันไปมองเหวินหย่าแล้วพูดขึ้น: "งั้นก็ไปทำตำแหน่งจัดทำเอกสารที่โรงพยาบาลแล้วกัน สบายหน่อย"

"ขอบคุณค่ะ" เหวินหย่ารีบกล่าวขอบคุณ

คุณผู้หญิงเฉียวกลับพูดขึ้น: "ให้ไปช่วยงานเธอดีกว่านะ เธอเพิ่งกลับมารับช่วงบริหารต่อ คนรอบข้างไม่รู้ว่าไว้ใจได้แค่ไหน คนกันเองไว้ใจได้มากกว่า"

"คุณแม่ สบายใจเถอะครับ คนรอบตัวผมเป็นคนเก่าแก่ที่ผมฝึกขึ้นมากับมือ ทุกคนจงรักภักดีกับผมมาก"

"นั้นมันเมื่อก่อน ตอนนี้ผ่านไปหลายปี ใครจะไปรู้?" คำพูดของคุณผู้หญิงเฉียวแฝงความหมายบางอย่าง ทำให้เฉียวเฟิงฟังแล้วรู้สึกไม่สบายใจ เห็นได้ชัดว่าท่านยังสงสัยว่าเขาจะถือโอกาสช่วงที่เฉียวซือเหิงไม่อยู่รวบบริษัทฯไว้เอง"

ถึงเขาจะยืนยันอยู่หลายครั้งแล้วว่าเขาไม่เคยคิดอยากได้บริษัทฯนี้ แต่ดูแล้วคุณผู้หญิงเฉียวก็ยังไม่เชื่อเขาอยู่ดี

"จริงสิ คุณแม่คะ อาเฟิงตัดสินใจจะออกจากบริษัทฯตระกูลเฉียวแล้วนะคะ" เหยียนเยว่พูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มเล็กน้อย

ได้ฟังคำพูดที่เหมือนสังสัยในตัวเฉียวเฟิงแบบนี้ เธอรู้สึกไม่พอใจยิ่งกว่าตัวเฉียวเฟิงอีก สามปีมานี้เฉียวเฟิงทำเพื่อตระกูลเฉียวทุกอย่างและไม่เคยคิดเอาอะไรจากตระกูลเฉียวแม้แต่แดงเดียว สุดท้ายยังมาโดนคุณผู้หญิงเฉียวสงสัยแบบนี้อีก เธอทนฟังต่อไปไม่ได้จริงๆ

เฉียวเฟิงยื่นมือไปจับมือเธอที่อยู่ใต้โต๊ะ เป็นการปลอบโยน

เหยียนเยว่ยิ้มให้เขาเล็กน้อย ก่อนจะเลี้ยงข้าวเสี่ยวเหยียบเหยียบต่อ

คุณผู้หญิงเฉียวมองเฉียวเฟิงอย่ากแปลกใจ แต่ก็รู้สึกดีใจอยู่ลึกๆก่อนจะพูดขึ้น: "ถ้าเช่นนั้นข้างกายซือเหิงก็ยิ่งต้องหาคนช่วยซักคน เอางี้ละกันให้เสี่ยวหย่าไปเป็นผู้ช่วยประจำตัวดีกว่า"

เฉียวเฟิงและเหยียนเยว่รู้สึกแอบเห็นใจเฉียวซือเหิงไม่น้อย ส่วนเจ้าตัวกลับไม่ได้พูดอะไร

--

เหวินหย่าสามารถเข้าไปอยู่ในบ้านตระกูลเฉียวได้อย่างง่ายดาย และยังได้เข้าไปทำงานอยู่ในบริษัทฯตระกูลเฉียวด้วย

วันถัดมา เฉียวซือเหิงพาเธอไปที่บริษัทฯแล้วส่งให้เลขาหลิน: "ช่วยหาตำแหน่งงานให้คุณหนูเหวินงานหนึ่ง เสร็จแล้วมาหาผมที่ห้องทำงานด้วย"

"คุณชายเฉียวคะ ให้ฉันหาตำแหน่งอะไรให้คุณหนูเหวินดีคะ?"

"อะไรก็ได้" เฉียวซือเหิงพูดก่อนจะเดินเข้าไปในห้องทำงานทันที

เลขาหลินมองเหวินหย่าแวบหนึ่ง ก่อนจะยิ้มอย่างลำบากใจ: "คุณหนูเหวินคะ คุณอยากได้.........."

"งานที่ได้อยู่ใกล้กับคุณชายเฉียวหน่อยก็พอค่ะ" เหวินหย่าพูดขัดขึ้น

"งั้นก็......เลขาได้มั้ยคะ?"

"ได้ ตามที่ฉันคิดไว้เลย ขอบใจนะ" เหวินหย่ากล่าวขอบคุณ

เลขาหลินจัดการในส่วนของเหวินหย่าเรียบร้อยก็รีบเข้าไปหาเฉียวซือเหิงที่ห้องทำงาน

เลขาหลินนึกว่าเฉียวซือเหิงเรียกเธอเข้ามาเพื่อให้เธอรายงานเรื่องงานของเหวินหย่า เปิดประตูมาเธอก็รีบรายงานเลย: "คุณชายเฉียว ฉันจัดให้คุณหนูเหวินทำงานในตำแหน่งเลขาแล้วนะคะ"

"ได้" เฉียวซือเหิงเอนตัวพิงผนังเก้าอี้ก่อนจ้องมาที่เธอ: "หลายปีมานี้ได้ข่าวของฟางมี่บ้างมั้ย?"

"คุณหนูฟาง?" เลขาหลินแปลกใจ: " คุณชายเฉียวคุณยังคิดจะ.....ติดต่อเธออยู่เหรอคะ?"

"ไม่ได้เหรอ?" เฉียวซือเหิงขมวดคิ้ว

"ไม่ใช่ค่ะ ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น" เลขาหลินคิดก่อนพูดขึ้น: "ฉันได้ยินกลุ่มเลขาคุยกันว่าเธอแต่งงานแล้ว"

"แต่งกับใคร"

เลขาหลินส่ายหน้า ยิ้มอย่างเกรงใจ: "คำถามนี้.....คุณชายเฉียวควรจะไปถามเลขาที่ชื่อลินดานะคะ เธอรู้เรื่องชาวบ้านดีที่สุดค่ะ"

เฉียวซือเหิงไม่ได้ไปหาลินดา แต่เขากลับนิ่งคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเงยหน้ามองมาที่เธอ: "ช่วยตามหาฟางมี่ให้หน่อย แล้วช่วยนัดเธอให้ฉันด้วย นัดมาที่ออฟฟิศแล้วกัน"

"ได้ค่ะ" ถึงแม้เลขาหลินจะไม่เข้าใจสิ่งที่เฉียวซือซือเหิงทำ แต่เธอก็รีบไปทำงานตามคำสั่งทันที

--

"แม่ครับ ทำไมต้องให้ผมใส่หน้ากากออกจากบ้านด้วย ผมไม่ชอบเลย....." เสี่ยวกว้านทำหน้างอแง

ซูซี่พูดปลอบขณะที่ใส่หน้ากากให้เด็กน้อยไปด้วย: "เพราะว่าข้างนอกเต็มไปด้วยฝุ่นละออง สูดดมเข้าไปจะทำให้มีหนอนน้อยในท้องได้นะ แล้วก็จะทำให้ปวดท้องด้วย"

"แล้วทำไมเด็กคนอื่นไม่ต้องกลัวหนอนน้อยละครับ?"

"ก็......เพราะว่าเด็กคนอื่นแข็งแรงกว่าเสี่ยวกว้านไง พวกเขาก็เลยไม่กลัว" ซูซี่ยิ้มเล็กน้อยก่อนจะลูบผมเด็กน้อย: "เด็กดี อยู่ข้างนอกห้ามถอดหน้ากากออกรู้มั้ย?"

"รู้แล้วครับ" เสี่ยวกว้านตอบอย่างไม่ค่อยพอใจ

"เสี่ยวกว้านเก่งที่สุด" ซูซี่จูงมือเด็กน้อยไว้: "ไปเถอะ วันนี้เราไปเรียนคาบสุดท้ายแล้ว"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด