อีธานสตาร์ทเครื่องยนต์โดยไม่ต้องถามทิฟฟานี่ว่าที่ทำงานของเธออยู่ไหน มันชัดเจนว่าเขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอ “ตอนนั้นฉันถูกบังคับให้ต้องเลิกกับเธอ ฉันรู้ว่ามันฟังดูไร้สาระ แต่ฉันพูดเรื่องจริงนะ ฉันกังวลมาก พอเห็นว่าครอบครัวเธอมีปัญหา เพราะว่าฉันไม่สามารถมอบชีวิตที่เธอเคยชินให้กับเธอได้ ฉันเลยตัดสินใจใช้เงินทั้งหมดที่ฉันมีลงทุนโปรเจกต์กับเพื่อน เธอไม่รู้ แต่ฉันยังเอารถที่เธอให้ฉันไปจำนองเพื่อกู้เงินจากธนาคารด้วย” เขาพูดต่อว่า “ฉันไม่อยากรบกวนเธอ เพราะฉันเผื่อโอกาสไว้ว่าการลงทุนของฉันอาจจะล้มเหลวได้ ฉันเลยเลิกกับเธอ ฉันไม่เคยมีคนอื่น ใครจะรู้ว่าการลงทุนของฉันจะสำเร็จ? ต่อจากนี้ไป ฉันตั้งใจว่าจะขยายธุรกิจของฉัน เราจะได้กลับไปใช้ชีวิตเหมือนแต่ก่อนได้ ทิฟฟ์ ในอดีตเธอดีกับฉันมาตลอดนะ ตอนนี้ถึงตาฉันที่ต้องดูแลเธอให้ดี ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้เธอเจ็บ เรามาเริ่มต้นใหม่กันได้ไหม?”
ในช่วงเวลาที่เขาเคยอยู่ด้วยกัน อีธานไม่ใช่ผู้ชายที่อ่อนไหวและจะใช้คำพูดเหล่านี้ แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนไปและทิฟฟานี่ก็คงจะโกหกหากเธอบอกว่าเธอไม่หวั่นไหวกับคำพูดเหล่านั้น เธอเห็นความรักที่เขามีต่อเธอลึก ๆ อยู่ในตาของเขาอย่างชัดเจน เรื่องนี้จึงไม่มีข้อสงสัยใด ๆ พวกเขาคบกันเป็นเวลา 3 ปี และแม้กระทั่งในเวลานั้นเธอไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลย เธอรู้สึกถึงอะดรีนาลีนที่พลุ่งพล่านในร่างกายและหัวใจของเธอที่เต้นแรง หน้าเธอแดงอย่าเห็นได้ชัด
ทิฟฟานี่ตื่นเต้นมากจนเธอพูดติดอ่าง “ฉัน… ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่านายพูดความจริง? นายเหยียดฉันอย่างเห็นได้ชัด ฉันไม่ได้หยิ่งหรือเป็นคนวัตถุนิยมอย่างนั้น ตอนเราคบกัน นายเองไม่ได้มีเงินเยอะมากมายและมันก็ไม่ได้สำคัญอะไรสำหรับฉัน ฉันไม่เคยสนใจเรื่องเงินเลย เพราะฉะนั้น นายเอามันมาเป็นข้ออ้างในการเลิกกับฉันได้อย่างไร? ถึงนายจะทำเพื่อฉันก็เถอะ ฉันไม่เคยต้องการแบบนั้น แต่ตอนนี้นายกลับพูดแบบนี้กับฉัน ฉันต้องขอยอมรับเลยว่าฉันสับสนจริง ๆ “
อีธานไม่กดดันเธอต่อ “ไม่เป็นไร ฉันพร้อมรอจนกว่าเธอจะให้อภัยฉัน ให้ฉันได้ดูแลเธอต่อจากนี้ไป โอเคไหม? ฉันจะชดเชยเรื่องที่ผ่านมาให้เธอและเมื่อไหร่ที่เธอพร้อมฉันจะจัดงานแต่งให้ยิ่งใหญ่เลย”
ทิฟฟานี่พยักหน้าเบา ๆ “ฉันจะลองคิดดู”
ถึงแม้ว่าทิฟฟานี่จะไม่ได้ตอบตกลงหรือปฏิเสธไป อีธานก็ยังทำเหมือนว่าเธอได้ตกลงที่จะเป็นแฟนเขาไปแล้ว เขาลูบหัวเธออยากคลั่งรักและถามว่า “เธอกินอาหารเช้ามาหรือยัง? ดูที่เบาะหลังสิ ดูสิว่ามีอะไรบ้าง”
ทิฟฟานี่หันไปดูด้านหลังโดยสัญชาตญาณ ที่เบาะหลังมีถุงพลาสติกอยู่ เธอเห็นส่วนหนึ่งของไข่ม้วน มันเป็นของร้านที่เธอชอบมากที่สุด น่าแปลกใจที่เขาไปต่อแถวซื้ออาหารเช้าให้เธอตั้งแต่เช้าตรู่ เธอคงจะโกหกตัวเองถ้าเธอบอกว่าเธอไม่หวั่นไหว ที่ผ่านมาเธอปฏิบัติต่อเขาเหมือนกับเขาเป็นทุกอย่างสำหรับเธอ แต่เขาไม่เคยสนใจเธอเลย เขาห่างเหินกับเธอมาตลอด อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเขาจะเปลี่ยนไปและกำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อดูแลเธอให้ดีที่สุด แน่นอนว่านี่คือความรู้สึกเมื่อคนหนึ่งได้รับความรักอย่างลึกซึ้ง ก่อนหน้านี้ตอนที่พวกเขายังคบกันมันเหมือนเป็นความสัมพันธ์ของความรักฝ่ายเดียว เธอเป็นคนเดียวที่เสียสละทุกอย่างเพื่อความสัมพันธ์ของพวกเขา แม้ว่าเธอจะรู้สึกหวั่นไหว แต่เธอก็รู้สึกเศร้าเล็กน้อยเช่นกัน สุดท้ายแล้วเธอรู้สึกด้อยค่ามากในช่วงที่เขาเคยคบกัน เธอช่างน่าสมเพชเสียจริง
เธอไม่ได้หยิบไข่ม้วนนั้น เธอเอียงศีรษะเพื่อมองเขาแล้วถามว่า “อีธาน ฉันอยากรู้ว่านายพูดความจริงหรือไม่ ฉันคิดเสมอว่านายไม่เคยรักฉัน นานห่างเหินกับฉันมาตลอด ก่อนหน้านี้ฉันคิดว่านั่นคือสิ่งที่นายเป็นและบางทีคุณอาจไม่รู้วิธีแสดงความรัก นั่นคือเหตุผลที่ฉันริเริ่มมอบความรักทั้งหมดที่ฉันมีให้กับนาน มันไม่สำคัญว่าคนอื่นจะคิดว่าฉันน่าสงสารหรือไม่ อย่างไรก็ตาม จากสิ่งที่ฉันเห็นตอนนี้ดูเหมือนว่านานก็รู้วิธีที่จะแสดงความรัก ในเมื่อนายบอกว่านายรักฉันแล้วทำไมที่ผ่านมานายถึงไม่ปฏิบัติต่อฉันเหมือนที่นานกำลังทำอยู่ตอนนี้?”
อีธานเงียบสักพักก่อนที่จะพูดว่า “ฉันเพิ่งจะรู้ว่าต้องแสดงความรักอย่างไรหลังจากที่ฉันเลิกกับเธอ ที่ผ่านมาเธอดีกับฉันมาก ตอนนั้นฉันเพลิดเพลินกับความรักและความห่วงใยที่เธอมอบให้จนลืมที่จะตอบแทนเธอ ฉันผิดไปแล้ว ฉันขอโทษ”
ในขณะนี้ทิฟฟานี่ก็คว้าไข่ม้วนมากิน อย่างไรก็ตาม เธอไม่สามารถลิ้มรสมันได้เลย เธอเพียงแต่ได้รสความขมขื่นของช่วงสามปีที่ผ่านมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาว ผู้แสนเลอค่า ผู้น่าสงสาร ของ ท่านเทรมอนต์
มีนิยายหลายเรื่องที่หยุดนิ่งไม่เคลื่อนไหวเลยค่ะและมีแต่เรื่องเดิมฯไม่มีเรื่องใหม่ฯให้อ่านบ้างเลย...