เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] นิยาย บท 151

Sign in Buddha’s palm 151 ความหวังที่มาพร้อมกับความสิ้นหวัง

ภายในโถงชีวิตนิรันดร์

ชายที่มีรอยสีแดงเลือดบนหน้าผากจ้องไปที่จักรพรรดิถังซึ่งซ่อนตัวอยู่ด้านหลังขันที่ชุดแดง หัวใจสั่นกระตุก

เขาแอบเข้ามาในพระราชวังถังครั้งนี้ คิดไปว่าความเสี่ยงที่ใหญ่หลวงที่สุดคือการที่อาจถูกค้นพบโดยตํานานยุทธที่อยู่ภายในพระราชวัง

ด้วยเหตุนี้ชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงเลือดจึงสวมใส่สมบัติประจําสํานักสังหารโลหิต “อาภรณ์หยกยับยั้งกลิ่นอาย ซึ่งสร้างไว้เป็นพิเศษ จุดประสงค์ในครั้งนี้เพื่อใช้ในการป้องกันไม่ให้ตํานานยุทธค้นพบตัวตนของเขาได้

“อาภรณ์หยกยับยั้งกลิ่นอาย ถูกทิ้งไว้โดยตํานานยุทธ เมื่อสองร้อยปีก่อน การสวมใส่อาภรณ์หยกผืนนี้สามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับของตํานานยุทธคนอื่นๆ ได้อย่างสม บูรณ์

นี่คือที่พึ่งของชายที่มีรอยสีแดงเลือดบนหน้าผาก

ในความคิดของเขา ตราบใดที่ตํานานยุทธภายในวังหลวงไม่ได้ลงมือ การลอบสังหารจักรพรรดิถังควรจะสําเร็จได้อย่างสวยงาม

“เจ้ารู้ว่าข้าจะมาลอบสังหาร?”

ชายที่มีรอยสีแดงบนหน้าผากก็นึกขึ้นมาได้ มองไปที่จักรพรรดิถังพร้อมเปิดปากพูด

นี่เป็นเพียงสิ่งเดียวที่เขาคิดออก

ด้วยวิธีนี้จักรพรรดิถังจึงตื่นตัวเตรียมพร้อม ให้ยอดฝีมือซ่อนตัวอยู่ในเงามืดภายในวังหลวง และเมื่อมีสิ่งใดเกิดขึ้น คนเหล่านั้นก็จะปรากฏตัวออกมา ทําให้เกิดฉากดังที่ได้เห็น

“ไม่เลว”

จักรพรรดิถังพยักหน้าเล็กน้อยเมื่อได้ยินคําพูดของชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดง

อันที่จริง นับตั้งแต่การลอบสังหารที่จักรพรรดิถังประสบ เมื่อตอนที่เขายังเป็นองค์รัชทายาทก็ทําให้เขาเตรียมตัวป้องกันการลอบสังหารไว้อยู่เสมออยู่แล้ว

เขายิ่งระแวงมากขึ้นไปอีกหลังจากได้ทราบเรื่องราวเบื้องหลังว่าสํานักสังหารโลหิตเกี่ยวข้องกับการก่อกบฏของราชาหัวเมืองทั้งสิบ

เพราะสิ่งที่สํานักสังหารโลหิตถนัดที่สุดคือการลอบสังหาร

ดังนั้นก่อนที่บุตรชายของราชาหัวเมืองจะเข้ามาภายในวังหลวง เขาได้ขอให้ขันที่ชุดแดงที่อยู่ในระดับชั้นที่หนึ่ง ทุกคนแอบอยู่ในเงามืดคอยปกป้องตัวเขา จากนั้นจึงให้รองแม่ทัพกว่าหนึ่งโหลเตรียมคุ้มกันอีกชั้น และหากมีเหตุร้ายใดก็ให้รีบนํากองทัพเข้ามาล้อมโถงชีวิตนิรันดร์ได้ในทันที

การจัดการขององค์จักรพรรดิสามารถกล่าวได้ว่าราบรื่น เป็นธรรมชาติยิ่ง

แม้ว่ามือสังหารจะเป็นยอดปรมาจารย์ขั้นสูงสุด แต่ด้วยการคุ้มกันของวันที่ชุดแดงกว่าโหลสามารถยื้อเวลาได้ชั่วขณะหนึ่ง เพียงพอให้จักรพรรดิถังล่าถอยไปได้

จากนั้นกองทัพด้านนอกห้องโถงก็จะเข้าล้อมและปราบปราม มีความเป็นไปได้สูงว่าจะสามารถสังหารยอดปรมาจารย์ขั้นสูงสุดได้แม้จะช้าสักหน่อย

“ตอนแรกข้าคิดว่าจะเป็นยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่ง ขั้นสูงสุดที่มาลอบสังหารข้า แต่เจ้ากลับไม่ใช่…”

จักรพรรดิถังส่ายศีรษะ มองแล้วให้ความรู้สึกเหมือนกําลังสมเพชเวทนา

“ยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งขั้นสูงสุด…”

ใบหน้าของชายที่มีรอยสีแดงเลือดบนหน้าผากแข็งทื่อไปในทันที

แม้ว่าจะเป็นถึงสํานักสังหารโลหิต แต่ก็มียอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งขั้นสูงสุดเพียงแค่สี่คนสามคนสิ้นชีวิตไปแล้ว ด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์นั่น และที่เหลืออีกหนึ่งจําเป็นจะต้องประจําการอยู่ที่ฐานใหญ่ของสํานักสังหารโลหิต

เรียกได้ว่าไม่มียอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งขั้นสูงสุดที่สํานักสังหารโลหิตจะส่งออกมาได้ในยามนี้

“เจ้าจะยอมจํานนด้วยตัวเจ้าเอง หรือให้คนของข้าจัดการ?” จักรพรรดิถังเอ่ยถาม จ้องมองไปยังชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีเลือดด้วยท่าทางถมึงทึง

“จะให้ยอมจํานนงั้นหรือ?”

ชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีเลือดจ้องตรงไปยังจักรพรรดิถัง กัดฟันพูดออกมาประโยคหนึ่ง “เป็นเวลากว่าหลายร้อยปี คนของสํานักสังหารโลหิตไม่เคยถูกจับกุมด้วยน้ำมือของใครมาก่อน”

เสียงพูดเพิ่งจบไป

ร่างของชายที่มีรอยแดงบนหน้าผากก็หายไป

“ไม่ดีแล้ว!”

ขันที่ชุดแดงจํานวนหนึ่งเห็นสิ่งนั้นสีหน้าของพวกเขาก็แปรเปลี่ยนไป ล้อมปกป้องจักรพรรดิถังที่อยู่เบื้องหลังอย่างแน่นหนา ดวงตากวาดส่ายไปรอบๆ

ในตอนนั้นเอง

ก็มีเสียงการปะทะกันอยู่ด้านนอกโถงชีวิตนิรันดร์

“เขาหนีไปแล้ว?”

ขันทีชุดแดงเหลือบมองหน้ากัน แต่ไม่ได้ออกไปช่วยสนับสนุน

หน้าที่ของพวกเขาคือคอยคุ้มกันองค์จักรพรรดิถัง หากพวกเขารีบร้อนพุ่งออกไป อาจจะติดกับแผนการล่อเสือออกจากถ้ำของฝ่ายตรงข้าม หากเป็นเช่นนั้นจักรพรรดิถังอาจจะสิ้นพระชนม์ก็เป็นได้

นอกจากนี้ยังมีรองแม่ทัพมากมายอยู่ภายนอกโถงชีวิตนิรันดร์ มือสังหารคงอยู่ได้ไม่นาน อย่างมากสุดก็คงแค่หนีไปได้สําเร็จ

พวกเขาเพียงต้องรับรองความปลอดภัยให้กับจักรพรรดิถังก่อนเป็นอันดับแรก

ในตอนนี้

ด้านนอกโถงชีวิตนิรันดร์

ชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงมองดูรองแม่ทัพของวังหลวงกําลังรุกคืบเข้ามาหาตนอย่างเงียบๆ

“บ้าเอ๊ย!!!”

ชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีแดงสูดลมหายใจเข้าลึกเต็มปอด รู้สึกว่าครั้งนี้ตนอาจจะถูกฝังกลบอยู่ในสถานที่แห่งนี้ก็เป็น

“ให้ตายเถอะ!”

เห็นรองแม่ทัพคนหนึ่งก้าวเข้ามา ซัดหนึ่งฝ่ามือเข้าหาตัวเขา

เปรี้ยง

เสียงฉีกกระชากอากาศดังขึ้นเบาๆ เนื่องมาจากฝ่ามือนี้ เห็นได้ชัดว่าทรงพลังยิ่ง สีหน้าของชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีเลือดเปลี่ยนไปชั่วขณะ

ฟิ้ว!

ร่างของชายที่มีรอยสัญลักษณ์สีเลือดกลายเป็นเงาอีกครั้ง สามารถหลบเลี่ยงฝ่ามือนี้ได้อย่างฉิวเฉียด

ทันใดนั้น

แม่ทัพนายกองต่างๆ ที่ยืนอยู่ไม่ไกลก็ลงมือในทันที

“หมัดบดขยี้”

แม่ทัพของวังหลวงคือยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่ง อากาศสันสะเทือนยามเมื่อเขาออกหมัด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]