Sign in Buddha’s palm 203 (II) กําไลสงคราม
“วิญญาณยมโลก?”
ผู้นํานิกายใหญ่หลายคนได้ฟังดังนั้นก็มองหน้ากัน
ในยุทธภพต่างแดน ผู้เยี่ยมยุทธถือว่าเป็นระดับสูงสุด แต่ต่ํากว่าระดับผู้เยี่ยมยุทธก็ยังมีจอมยุทธขอบเขตตํานานยุทธที่ยอดเยี่ยมอีกมากมาย
วิญญาณยมโลกของนิกายเฮยหยวนก็เป็นหนึ่งในนั้น
กล่าวได้ว่าหน่วยวิญญาณยมโลกนั้นเป็นตํานานยุทธที่ใกล้เคียงกับผู้เยี่ยมยุทธที่สุด แม้แต่ตํานานยุทธระดับนภา ชั้นที่สองหรือชั้นที่สามต้องการจะเอาชนะวิญญาณ ยมโลกก็จําเป็นต้องอาศัยจํานวนที่เหนือกว่ามาก จึงจะเป็นไปได้
วิชาพื้นฐานของนิกายเฮยหยวนคือ “ร่างปีศาจลวงตา” สามารถเปลี่ยนแปลงร่างกายสลับไปมาระหว่างร่างจริงและร่างลวงตาได้ และวิญญาณยมโลกนั้นได้ฝึกฝน ‘ร่างปีศาจลวงตา’ จนเชี่ยวชาญแล้ว ตํานานยุทธธรรมดาๆ ไม่สามารถสัมผัสวิญญาณยมโลกได้เลย นับประสาอะไรกับการเอาชนะคน เหล่านี้
“ข้าจะส่งตํานานยุทธจากนิกายเรา ไปยังพื้นที่พิพาทพร้อมกับวิญญาณยมโลกจากนิกายเฮยหยวนด้วย”
ผู้นํานิกายใหญ่หลายคนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวออกมา
“ข้าต้องการจะรู้นัก ว่าใครที่กล้าสั่งสอนลูกศิษย์ของข้า” แสงสว่างวาบฉายผ่านดวงตาของผู้นํานิกายเฮยหยวน
รอยยิ้มเย็นเยียบก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเจ้าตําหนักเทพเจ้าหิมะ และคนอื่นๆ
ในยุทธภพดินแดนโพ้นทะเลแห่งนี้ นิกายใหญ่ถือว่าเป็นผู้ปกครองไปทั่วปฐพี มีคนมากมายเข้าร่วมขุมอํานาจของพวกเขา ไม่ต้องกล่าวถึงในพื้นที่พิพาทนั่นเลย ต่อให้เป็นคนในดินแดนโพ้นทะเลเอง จะมีสักกี่คนเชียวที่จะหยุดพวกเขาได้
….
โลกถ้ําปีศาจ
ท้องฟ้าหมองหม่น
เจ้าเมืองอินจี๋และราชาปีศาจมากกว่าสิบตนกําลังมุ่งหน้าไปยังเมืองเมฆาปีศาจ
“ท่านเจ้าเมือง”
ในเวลานั้น ราชาปีศาจอดที่จะกล่าวขึ้นมาไม่ได้ “พวกเราจะจัดการกับราชาปีศาจระดับสูงในเมืองเมฆาปีศาจจริงๆ หรือ?”
“โอ้?”
เจ้าเมืองอินจี้หยุดฝีเท้า หันกลับมา เหลือบตามองอีกฝ่าย “เจ้าไม่เชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของข้าหรือ?”
“แน่นอนว่ามิใช่!”
ใบหน้าของราชาปีศาจตนนั้นซีดเซียว “เพียงแต่ว่ามีค่ายกลชั้นยอดมากมายที่ปกป้องเมืองเมฆาปีศาจเอาไว้ แม้ท่านเจ้าเมืองจะแข็งแกร่ง แต่ถ้าอีกฝ่ายซ่อนตัวอยู่ภายในเมืองคอยจัดแจงค่ายกลอยู่ด้านใน ข้าคิดว่าเราคงหาทางเข้าไปไม่ง่ายดายนักมิใช่หรือ?”
คําที่กล่าวออกมา
ราชาปีศาจอีกนับสิบพยักหน้าเห็นด้วยอย่างลับๆ
ถึงเจ้าเมืองอินจี๋จะเข้าสู่ขอบเขตปีศาจระดับสูงมาหลายร้อยปีแล้ว แม้แต่ในหมู่ราชาปีศาจระดับสูงด้วยกันเองถือว่าแข็งแกร่งมาก
แต่เจ้าเมืองเมฆาปีศาจก็เป็นปีศาจระดับสูงเช่นกัน
ต่อให้มีความห่างชั้นระหว่างฝีมือ มันก็คงไม่ได้ห่างกัน มากราวฟ้ากับดิน
หากฝ่ายตรงข้ามไม่เต็มใจจะออกมาจากเมืองเมฆาปีศาจ เจ้าเมืองอินจี๋จะทําอะไรได้?
ค่ายกลใหญ่ในเมืองเมฆาปีศาจถูกก่อตั้งโดยเจ้าเมืองเมฆาปีศาจรุ่นก่อนๆ หากเป็นเพียงค่ายกลเปล่าๆ ก็คงไม่สามารถหยุดเจ้าเมืองอินจได้
แต่ถ้าเพิ่มราชาปีศาจระดับสูงเข้าไปด้วย มันย่อมแตกต่างออกไป
เมื่อมีราชาปีศาจระดับสูงเป็นผู้ขับเคลื่อนค่ายกลขนาดใหญ่เหล่านี้ ค่ายกลพวกนี้มิทรงพลังขึ้นเป็นสิบเท่าเลยหรือ?
เมื่อถึงตอนนั้น เกรงว่าเจ้าเมืองอินจี้จะต้องพบปัญหาในการฝ่าค่ายกลที่คุ้มครองเมืองเมฆาปีศาจเป็นแน่
“พวกเจ้ากังวลกันเรื่องนี้หรือ?”
เจ้าเมืองอินจี๋ส่ายหัวเล็กน้อย ลังเลครู่หนึ่งแล้วจึงกล่าวว่า “ก็ใช่ว่าจะบอกพวกเจ้าไม่ได้”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เจ้าเมืองอินจี๋ก็ยกมือขวาขึ้นมา มองเห็นกําไลข้อมือสีดําคล้องอยู่ที่ข้อมือของเขา
กําไลข้อมือนี้มีขนาดค่อนข้างเล็กและดูเหมือนสร้างขึ้นมาอย่างประณีตบรรจง แต่กลับมาแผ่กลิ่นอายที่ทั้งลึกลับและลุ่มลึกออกมาอย่างแผ่วเบา
“นี่คือ?”
ราชาปีศาจต่างมองหน้ากัน มีแววของความประหลาดใจอยู่บนใบหน้าของพวกเขา
แม้ว่าจะมองดูกําไลของเจ้าเมืองจากระยะไกล กําไลข้อมือสีดําอันนี้ยังทําให้รู้สึกว่าจิตใจของพวกเขาถูกมันดึงดูดเข้าไปหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]