เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] นิยาย บท 244

Sign in Buddha’s palm 244 ฮือฮา

เมื่อซูฉินเข้าสู่วิหารการสงคราม และยอดปรมาจารย์ขั้นสูงสุดได้ออกจากยอดเขาคุนหลุนไปทุกสิ่งที่เกิดขึ้นบนเทือกเขาคุนหลุนก็ เหมือนกับคลื่นพายุพัดผ่าน แพร่กระจายไปทั่วโลก

“เจ้าได้ยินเรื่องนั้นมาหรือเปล่า?”

“จักรพรรดิมารร้ายที่สร้างความพินาศไปทั่วยุทธภพเมื่อเจ็ดสิบปีก่อนได้ตายไปแล้ว?”

“จักรพรรดิมารร้ายจะนับเป็นตัวอะไรกัน? ให้ข้าบอกให้เจ้าฟังยังมีผู้ทรงสมณศักดิ์แห่งวัดเส้าหลินได้ไปปรากฏตัวที่เทือกเขาคุนหลุนอีกด้วย”

“อะไรนะ? ไม่ใช่ว่าผู้ทรงสมณศักดิ์แห่งวัดเส้าหลินได้ข้ามน้ําข้ามทะเลไปแล้วหรอกหรือ เหตุไฉนจึงมาปรากฏตัวบนเทือกเขาคุนหลุนได้?”

“เฟยเฟย ความคิดของผู้ทรงสมณศักดิ์ ปุถุชนคนธรรมดาอย่างข้าจะไปกล้าคาดเดาได้อย่างไร?”

ภายในร้านอาหาร จอมยุทธหลายต่อหลายคนต่างพูดคุยกันทุกวันนี้กระแสปราณฉีที่ฟื้นฟูยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ และสภาพแวดล้อมก็ทําให้การฝึกฝนนั้นง่ายขึ้น แม้ว่าจะยังไม่มีตํานานยุทธปรากฏขึ้นแต่จอมยุทธที่ระดับต่ํากว่าขอบเขตตํานานยุทธมีมากกว่าสิบปี ก่อนอย่างไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่

ประกอบเข้ากับความจริงที่ว่าอาณาจักรถังได้ครอบครองทวีป ก่อตั้งสถานที่สอนวิทยายุทธขั้นพื้นฐานมากมาย ทําให้ผู้ฝึกยุทธระดับต่ํามีจํานวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

แม้ว่าจะไม่ถึงขั้นที่ทุกคนเป็นจอมยุทธแต่จากคนธรรมดาสิบคนจะมีคนที่เป็นผู้ฝึกยุทธอยู่สามถึงสี่คนเป็นเรื่องปกติ

“ข่าวที่พวกเจ้ารู้มันล้าหลังจนเกินไปแล้ว”

“ผู้ทรงสมณศักดิ์แห่งวัดเส้าหลินไม่เพียงแต่ปรากฏตัวบนเขาคุนหลุนเท่านั้นแต่ยังฉีกร่างมังกรปีศาจจากวิหารการสงครามด้วยสองมือทรงพลังยิ่งใหญ่ประดุจทวยเทพไร้เทียมทานใต้ผืนฟ้า…”

ในเวลานั้นชายที่สวมใส่ชุดคลุมผ้า เห็นได้ชัดว่าเป็นคนของตระกูลใหญ่หรือสุดยอดพรรค ค่อยๆ กล่าวออกมาอย่างช้าๆ ใบหน้า เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก

“วิหารการสงคราม?”

“มังกรปีศาจ?”

จอมยุทธทั้งหลายภายในร้านอาหารต่างมองหน้ากัน ดูไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราว

พวกเขารู้ว่าช่วงนี้มีข่าวลือเกี่ยวกับวิหารการสงครามมากมายและแม้แต่ศิษย์หน้าใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่ยุทธภพก็เตรียมพร้อมที่จะออกเดินทางไปยังเทือกเขาคุนหลุน ต้องการเห็นการถือกําเนิดของวิหารการสงครามด้วยตาของพวกเขาเอง

แต่มังกรปีศาจ..

มังกรปีศาจที่คอยเฝ้าอยู่ภายในวิหารการสงครามนั้นเป็นความลับสุดยอดสําหรับจอมยุทธธรรมดา แม้จะเป็นขอบเขตสามระดับบนหากไม่มีเส้นสายก็เป็นไปไม่ได้ที่จะล่วงรู้

มีจอมยุทธเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อยและดวงตาของพวกเขาก็ฉายแววไม่เชื่อถือ

“มังกรปีศาจคืออะไร…” หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีจอมยุทธอดใจไม่ได้ที่จะเอ่ยถามชายในชุดคลุมผ้า

“มังกรปีศาจ?”

ชายในชุดคลุมผ้าสายศีรษะ “ไม่มีใครรู้ที่มาของมังกรปีศาจรู้เพียงว่าครั้งแรกที่วิหารการสงครามถือกําเนิดขึ้นเมื่อแปดพันปีก่อนมังกรปีศาจก็อยู่ภายในวิหารการสงครามเรียบร้อยแล้ว บรรพบุรุษบางคนคาดการณ์ว่ามังกรปีศาจตนนี้อาจจะมีความเกี่ยวข้องกับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์และมังกรที่แท้จริง ”

คําที่กล่าวออกมา

จอมยุทธในร้านอาหารต่างก็ตกใจ

มังกรแท้หรือมังกรไม่แท้ พวกเขานั้นล้วนไม่เข้าใจแต่ตามที่ชายในชุดคลุมผ้าได้กล่าวเอาไว้ มังกรปีศาจตนนี้อยู่มาตั้งแต่แปดพันปีก่อนจนถึงปัจจุบันนั่นก็เพียงพอที่จะทําให้ผู้คนสยองแล้ว แปดพันปีแปดพันปีเต็มๆ! ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่มังกรปีศาจนั้นเกี่ยวข้องกับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ถึงแม้จะเป็นหมูที่มีชีวิตอยู่มาแปดพันปีก็นับเป็น สิ่งมีชีวิตที่เหนือธรรมชาติแล้วไม่ใช่รี?

“แล้วความแข็งแกร่งของมังกรปีศาจตัวนี้”

จอมยุทธผู้นั้นถามอย่างระมัดระวัง

“มันเหนือกว่าตํานานยุทธทั่วๆ ไป” ชายในชุดคลุมผ้ากล่าวอย่างจริงจัง “เป็นคนในยุคหลายพันปีก่อนคาดเดาเอาไว้ว่าตํานานยุทธธรรมดาเมื่ออยู่ต่อหน้ามังกรปีศาจ เกรงว่าจะหนีไม่พ้น ถ้าไม่ใช่เพราะครั้งก่อนที่วิหารการสงครามปรากฏขึ้น มังกรปีศาจขี้เกียจจนแทบจะไม่ขยับตัวไปไหน ข้าเกรงว่าบัดนี้คงไม่มีใครกล้าเข้า ไปภายในวิหารการสงคราม”

“ในเมื่อมังกรปีศาจมีกําลังมากเช่นนั้น มันจะตกตายลงได้อย่างไร?” จอมยุทธบางคนเอ่ยถาม “อาจจะเป็นข้อมูลเท็จอันที่จริงผู้ทรงสมณศักดิ์แห่งวัดเส้าหลินไม่ได้สังหารมังกร?”

“ใช่ ใช่”

จอมยุทธหลายคนพยักหน้าเห็นด้วย

จากที่ชายในชุดคลุมผ้าพูดมา มังกรปีศาจนั้นสมบูรณ์แบบราวกับจะเป็นเทพแล้ว เกือบเทียบเท่าเหล่าเทพเซียนเสียด้วยซ้ํา ผู้ทรงสมณศักดิ์นั้นทรงพลังก็จริง แต่ไม่มีทางเกินขอบเขตตํานานยุทธจะสังหารมังกรปีศาจได้อย่างไร?

“ข้อมูลเท็จ?”

ใบหน้าของชายชุดคลุมผ้ามีแววถากถางวาบผ่าน “นี่เป็นข่าวที่บรรพบุรุษพรรคเฉินสิ่งของข้านํากลับมา”

“บรรพบุรุษพรรคเฉิงสิ่งของข้าท่องเดินทางไปทั่วโลก ท่านเป็นยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งขั้นสูงสุดครั้งนี้ท่านได้ไปเทือกเขาคุนหลุนกับเพื่อนอีกสองสามคนและประสบเหตุการณ์นั้นด้วยตนเองยังจะเป็นข่าวเท็จได้อีกหรือ?”

ชายในชุดคลุมผ้าดูภูมิใจ

เมื่อจอมยุทธคนอื่นๆ ได้ยินเรื่องนี้ สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย และสายตาที่จ้องมองไปยังชายในชุดคลุมผ้าก็กลายเป็นเคารพมากยิ่งขึ้น

ตอนแรกพวกเขาไม่ทราบว่าชายในชุดคลุมผ้านี้เป็นศิษย์ของพรรคเฉินสิ่ง

พรรคเฉินสิ่งเป็นสุดยอดพรรคที่สืบทอดความเป็นมานับพันปีมียอดฝีมือมากมาย และเมื่อไม่นานมานี้บรรพบุรุษของพรรคก็ได้ออกจากด่านฝึกตน เขาได้สําเร็จวิชาครั้งยิ่งใหญ่ ทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง

เนื่องจากชายในชุดคลุมผ้าได้ข่าวมาจากบรรพบุรุษของเขาเรื่อง ต่างๆ ที่พูดมานั้นอาจจะเป็นจริง

“ข้าไม่เคยกล่าวว่ามังกรปีศาจนั้นไม่แข็งแกร่งจากที่ข้าได้ฟังมา แม้ว่าจะเป็นบรรพบุรุษพรรคเฉินสิ่งของข้าเองตัวตนของมังกรปี ศาจก็ไม่ได้ต่างไปจากเทพเซียน”

“มังกรปีศาจนั้นแข็งแกร่งจริงๆ เพียงแต่ผู้ทรงสมณศักดิ์แห่งวัดเส้าหลินนั้นแข็งแกร่งกว่า!”

เมื่อชายชุดคลุมผ้าพูดถึงตรงนี้เขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อที่ตัวเขาอธิบายออกมามากมายขนาดนี้ก็เพราะยามที่เขาได้ฟังข่าวมาตัวเขาก็ตกใจมากเช่นกัน เลยต้องปลดปล่อยมันออกมาบ้างเพื่อคลายอารมณ์อัดอั้นในใจ

เมื่อคํากล่าวของชายในชุดคลุมผ้าจบลง

จอมยุทธในร้านอาหารทั้งหมดก็เงียบกริบ โดยเฉพาะคําพูดสุดท้ายของชายในชุดคลุมผ้า

มังกรปีศาจนั้นแข็งแกร่ง แต่ผู้ทรงสมณศักดิ์แห่งวัดเส้าหลินนั้นแข็งแกร่งกว่า

มันทําให้จอมยุทธหลายคนตกใจอย่างบอกไม่ถูกราวกับกําลังฟัง เรื่องเล่าจากหนังสือตํานานสวรรค์

เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ เหล่าจอมยุทธก็ทอดถอนหายใจออกมา“ในเมื่อผู้ทรงสมณศักดิ์แห่งวัดเส้าหลินสามารถสังหารมังกรปีศาจได้ก็คงจะไร้เทียมทานในใต้หล้านี้แล้วมิใช่หรือ?”

คําพูดนี้ทําให้จอมยุทธส่วนใหญ่พากันเห็นด้วยในทันที แต่จอมยุทธบางคนก็โต้กลับไปว่า “แน่นอนว่าผู้ทรงสมณศักดิ์จากวัดเส้าหลินนั้นแข็งแกร่ง แต่ตํานานยุทธเมืองฉางอันก็หาได้อ่อนแอไม่ยังเร็วเกินไปที่จะกล่าวว่าไร้เทียมทานในใต้หล้า”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]