เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] นิยาย บท 283

สรุปบท ตอนที่ 283 แปลงจิต วิญญาณแรกกําเนิด: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]

ตอนที่ 283 แปลงจิต วิญญาณแรกกําเนิด – ตอนที่ต้องอ่านของ เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]

ตอนนี้ของ เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายActionทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 283 แปลงจิต วิญญาณแรกกําเนิด จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

Sign in Buddha’s palm 283 แปลงจิต วิญญาณแรกกําเนิด

“โอ้?”

“ประตูเซียนนี้ ดูลึกลับไม่น้อย แม้แต่เซียนเทพ ปฐพี่ยังต้องมองหามัน?” ซูฉินแตะปลายคาง ใบหน้าครุ่นคิด

สําหรับเซียนเทพปฐพี ยังจะขาดเหลือสิ่งใดอีก? กล่าวคําเพียงประโยคเดียว ตํานานยุทธนับพันในต่างดินแดนต่างก็เต็มจะที่จะทุ่มเททุกสิ่งเพื่อเอาอกเอาใจ

แต่ยามนี้ ชราผมขาวกลับบอกว่า ยังมีสิ่งที่แม้แต่เซียนเทพปฐพีก็ยังไม่สามารถหามาได้?

“ทําไมเซียนเทพปฐพีถึงมองหาประตูเซียน?” ซูฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงถามออกอย่างแผ่วเบา

ซูฉินไม่คิดว่าชายชราผมขาวจะโกหก หากเหล่าเซียนเทพปฐพีออกค้นหาประตูเซียนจริงๆ นิกายใหญ่แห่งอื่นๆจะต้องรู้เรื่องนี้เช่นกัน การที่ซูฉินจะหาแหล่งข่าวยืนยันเป็นเรื่องง่ายดายอย่างยิ่ง

นอกจากนี้ ในสายตาของซูฉิน การสังเกตจิตใจที่ผันผวนขึ้นลงของชายชราผมขาวก็ไม่ต่างไป จากมองดูเส้นฝ่ามือของตนเอง เป็นไปไม่ได้เลยที่จะหลอกลวงตัวเขา

“มีเรื่องเล่ามากมาย บ้างก็ว่าภายในประตูเซียนเป็นโลกอีกโลกหนึ่ง บางคนก็บอกว่าเซียนเทพปฐพีที่ต้องการจะทะลวงขั้นต่อไป พวกเขาจะต้องเข้าไปยังประตูเชียน นอกเหนือจากนั้นก็เล่าลือกันว่าประตูเซียนเป็นคลังสมบัติที่สร้างโดยตัวตนทรงพลังจํานวนนับไม่ถ้วนในยุคกระแสปราณฉีเฟื่องฟู…”

ชายชราที่มีผมและเคราสีขาวพูดออกมาตามจริงเท่าที่ตนรู้

“เป็นเช่นนี้นี่เอง”

ดวงตาของซูฉินกะพริบสองสามครั้ง มีคลื่นลมก่อตัวในใจของเขา

ท่ามกลางกระแสปราณฉีที่เงียบงัน จิตใจแห่ง ฟ้าดินก็แห้งเฉา แม้ต่างดินแดนจะยังคงมีพลังงานปราณฉีหลงเหลืออยู่มากในระดับหนึ่ง แต่ก็ไร้ประโยชน์ แม้จะเป็นผู้ฝึกยุทธที่มีพรสวรรค์ ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมเช่นนี้ การฝึกฝนในขอบเขตเซียนเทพปฐพีก็นับเป็นจุดสูงสุดแล้วยากที่จะไปต่อ

นี่ไม่ใช่เพราะผู้ฝึกยุทธขาดพรสวรรค์หรือมีความเข้าใจไม่เพียงพอ แต่เป็นข้อจํากัดของโลกใบนี้รวมถึงสิ่งแวดล้อม

และตามคํากล่าวของชายชราผมขาว สิ่งที่เรียกว่าประตูเซียน เกรงว่าจะเป็นความหวังของเซียนเทพปฐพี่ที่อยากจะไปสู่ขอบเขตต่อไป

“อย่างไรก็ตาม ประตูเซียนแห่งนั้น คงไม่ใช่สถานที่ที่ดีนัก……”

ความคิดของซูฉินเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ขบคิดในใจอย่างลับๆ

แม้แต่เซียนเทพปฐพีก็จะไม่ออกเดินทางตามหาประตูเซียนหากยังไม่ใกล้สิ้นอายุขัย บ่งบอกได้ว่าสําหรับเซียนเทพปฐพีเหล่านั้น ประตูเซียนนี้คงจะมีความเสี่ยงอย่างใหญ่หลวงอยู่ และเมื่อยามใกล้ตาย ปล่อยวางทุกสิ่งได้แล้วเท่านั้นจึงจะลองไปตามหาดู

“นี่ยังไม่ใช่ความลับใหญ่ที่เจ้ารู้ใช่ไหม?” ซูฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นจึงมองไปที่ชายชราผมขาวอีกครั้ง พร้อมกับกล่าวอย่างใจเย็น

เรื่องของประตูเซียน ในสายตาของตํานานยุทธทั่วไป มันจะต้องเป็นความลับที่ยิ่งใหญ่ แต่สําหรับขุมพลังอันทรงอํานาจอย่างซูฉินที่กําลังจะแปลงจิตวิญญาณแรกกําเนิด และอาจจะทะลวงขอบเขตเซียนเทพปฐพีในเร็วๆ นี้ ไม่ช้าก็เร็วคงได้รู้เรื่องประตูเซียนแห่งนี้

เป็นไปไม่ได้ที่พรรคหมื่นดาบจะขังเขาไว้ในคุกใต้ดินเพียงเพราะชายชรารู้เรื่องประตูเซียน

“แน่นอนว่าไม่ใช่สิ่งนี้”

ชายชราผมขาวสูดลมหายใจเข้า ระงับจิตใจที่เดือดพล่านของตนเองลงทีละน้อย และกล่าวออกช้าๆ ว่า “ข้ารู้ตําแหน่งคร่าวๆ ของประตูเซียน”

“ตําแหน่งคร่าวๆ ของประตูเซียน?”

ซูฉินหรี่ตาลงเล็กน้อย และมองไปที่ชายชรา

ในความเป็นจริง หลังจากที่ชายชรากล่าวถึง “ประตูเซียน” ซูฉินก็เดาว่าอีกฝ่ายอาจจะมีข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับประตูเซียน

แต่สิ่งที่ซูฉินคาดไม่ถึงคือชายชราจะรู้ตําแหน่งของประตูเซียน

ถ้าชายชราบอกว่าตนรู้ว่ามีสมบัติชนิดใดบ้างอยู่ภายในประตูเซียน ซูฉินจะต้องเยาะเย้ยเป็นแน่ เพราะสุดท้ายแล้วเพื่อให้ได้มาซึ่งสมบัติในประตูเซียน สิ่งแรกที่ต้องทําคือหาประตูเซียนให้ได้เสียก่อน ตัดสินจากที่เซียนเทพปฐพี่เดินทางค้นหาประตูเซียนไปทั่วทั้งโลกที่ซ่อนของประตูเซียนคงจะมิดชิดอย่างมาก หรืออาจจะซ่อนอยู่ในมิติความว่างเปล่าเหมือนกับวิหารการสงคราม

ด้วยวิธีนี้เท่านั้นจึงจะสามารถหลบซ่อนจากความสามารถของอาณาเขตขนาดใหญ่ที่เซียนเทพปฐพีแผ่ออกมาได้

“ในเมื่อเจ้ารู้ตําแหน่งของประตูเซียนแล้ว ทําไมเจ้าไม่หามันด้วยตนเองเล่า?” ซูฉินถามด้วยน้ําเสียงราบเรียบ จ้องมองไปที่ชายชรา

“นายท่าน”

ชายชราที่มีผมและเคราสีขาวยิ้มอย่างขมขื่น “สถานที่ที่ประตูเซียนตั้งอยู่นั้นอันตรายอย่างยิ่ง แม้ว่าข้าจะออกตามหามันจริงๆ ก็มีแนวโน้มว่าข้าคงจะต้องตาย”

ชายชราผมขาวรู้ระดับของตัวเองดี แม้แต่เซียนเทพปฐพีก็ยังเต็มใจที่จะเดินทางตามหาประตูเซียนเมื่อเข้าวัยชราเท่านั้น นับประสาอะไรกับตํานานยุทธขั้นสูงสุดที่ยังไม่ได้ควบแน่นอนอาณาเขตอย่างเขา?

“เอาล่ะ”

“เมื่อเป็นเช่นนั้น ก็บอกตําแหน่งของประตูเซียน มาสิ”

ซูฉินมองไปยังชายชรา

“ขอรับ”

ชายชราผมขาวโค้งคํานับทันที และกล่าวบอกตําแหน่งที่เขารู้ออกมาอย่างรวดเร็ว

“อยู่ที่นั่นงั้นหรือ?”

ซูฉินดูประหลาดใจเล็กน้อย

สถานที่ที่ชายชราผมขาวบอกไม่ได้อยู่ในโลกยุทธภพต่างแดน แต่อยู่ในทวีปที่ห่างไกลออกจากต่างแดนแห่งนี้ไปอีก

สิ่งนี้ทําให้ซูฉินรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แต่เมื่อเขาลองคิดดู ก็พบว่ามันเป็นเรื่องปกติ หากประตูเซียนอยู่ในยุทธภพต่างแดนแห่งนี้ แม้ว่ากระแสปราณฉีจะเงียบงัน แต่เซียนเทพปฐพี่นับสิบก็กําเนิดขึ้นในหลายพันปีที่ผ่านมา เหล่าเซียนเทพปฐพีเดินทางไปได้ทั่วดินแดน เกรงว่ามันคงถูกหาพบไปนานแล้วหากตั้งอยู่ในยุทธภพต่างแดนแห่งนี้

หลังจากที่ทุกคนจากไป ซูฉินก็ค่อยๆ นั่งขัดสมาธิอยู่ในห้องโถง
“ประตูเซียน……”

แต่สําหรับประตูเซียน… แม้แต่เซียนเทพปฐพีเองก็เริ่มต้นค้นหามันเมื่อยามชราแล้วเท่านั้น อย่างน้อยความเสี่ยงของประตูเซียนก็ควรมีระดับความอันตรายที่ถึงแก่ชีวิต ต่อตัวตนขอบเขตเชียนเทพปฐพี

“ไม่เป็นไร

“ยังเร็วเกินไปที่จะคิดถึงประตูเซียน”

“อย่างน้อยก็เมื่อข้าเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี จึงจะพิจารณาเรื่องประตูเซียนอีกครั้ง”
ซูฉินสงบใจลง ครุ่นคิดอยู่เงียบๆอย่างไรเสีย ‘เต๋สะสม ของประตูเซียนก็ยังอยู่ที่นั่นเหมือนเดิม บนโลกนี้ไม่มีใครสามารถใช้ เต๋าสะสมได้ ดังนั้นซูฉินจึงไม่ได้รีบร้อน
“ต่อไป”

“ได้เวลาแปลงจิตวิญญาณแรกกําเนิดแล้วล่ะ”

จิตใจของซูฉินสั่งการ เม็ดโอสถจิตวิญญาณแร กกําเนิดหลายสิบเม็ดก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเขา

โอสถจิตวิญญาณแรกกําเนิดนั้นโปร่งใสไร้ลักษณ์ ราวกับประกอบขึ้นมาจากจิตวิญญาณบริสุทธิ์ พลังที่แผ่ออกมาเบาๆ ทําให้ผู้คนรู้สึกสบายใจ น่าทึ่งอย่างยิ่ง

ถ้าชายชราผมขาวยังอยู่ที่นี่และพบว่าโอสถจิต วิญญาณแรกกําเนิดที่หายสาบสูญไปจากยุทธภพต่างแดนมานานแล้ว แม้แต่สํานักเทพโอสถก็ไม่สามารถปรุงมันขึ้นมาได้กลับวางเรียงรายอยู่ ตรงหน้าซูฉินราวกับขนมขบเคี้ยว ดวงตาของเขาคงแดงก่ําเป็นแน่

รู้หรือไม่ว่าโอสถจิตวิญญาณแรกกําเนิดเม็ดเดียวก็เพียงพอที่จะทําให้ตํานานยุทธขั้นสูงสุดแปลงจิตวิญญาณแรกกําเนิดได้ในเวลาอันสั้น นับประสาอะไรกับห้าสิบเม็ด

เมื่อซูฉินกลืนโอสถจิตวิญญาณแรกกําเนิดไปมากมายขนาดนี้ พลังจิตวิญญาณแรกกําเนิดที่สะสมได้จะต้องน่าสะพรึงกลัวอย่างแน่นอน

“น่าทึ่งจริงๆ”

“ไม่รู้เหมือนกันว่าโอสถจิตวิญญาณแรกกําเนิดนี้ปรุงขึ้นมาจากอะไรกันแน่?” ซูฉินเหลือบมองไปที่เม็ดโอสถจิตวิญญาณแรกกําเนิดอีกครั้ง ครุ่นคิดในใจ

โอสถจิตวิญญาณแรกกําเนิดให้ความรู้สึกที่ พิเศษมากต่อซูฉิน เหมือนกับเม็ดโอสถตรงหน้านี้เป็นวิญญาณ ซูฉินไม่เคยเห็นโอสถแผนโบราณที่พิเศษเช่นนี้มาก่อน

รอบตัวซูฉินรายล้อมไปด้วยโอสถจิตวิญญาณแรกกําเนิดมากกว่าห้าสิบเม็ด ซูฉินรู้สึกว่าจิต สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของตนมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ขนาดที่เขารู้สึกได้เลยว่า แม้จะไม่ได้กินโอสถจิตวิญญาณแรกกําเนิดนี้เข้าไป ก็สามารถแปลงจิตวิญญาณแรกกําเนิดได้ด้วยตนเองภายในห้าสิบปี

แน่นอนว่าซูฉินย่อมไม่ทําเรื่องโง่เขลาอย่างจัดเก็บโอสถจิตวิญญาณแรกกําเนิดไว้อย่างดี โดยหวังใช้มันฝ่าฟันอุปสรรคโดยไม่กินเข้าไป

“เอาตอนนี้ให้เสร็จทีเดียวเลย”

ซูฉินรู้สึกว่าจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ในร่างจํานวนมากค่อยๆพลุ่งพล่าน หยิบโอสถจิตวิญญาณแรกกําเนิดออกมาสองสามเม็ดโยนเข้าปากแล้วกลืนลงไปตรงๆ

หวิ่ง!!!

เมื่อโอสถจิตวิญญาณแรกกําเนิดละลายไหลลงคอ มันก็ระเบิดพลังจิตวิญญาณอันน่าสยดสยองออกมานับไม่ถ้วน ผสานเข้ากับจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของซูฉินอย่างต่อเนื่อง

พลังจิตวิญญาณนี้ละเลยกายเนื้อของซูฉินไปอย่างสมบูรณ์ และพุ่งตรงเข้าใส่จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของซูฉิน

ด้วยความช่วยเหลือจากพลังจิตวิญญาณนี้ จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของซูฉินค่อยๆหดตัวและ ควบแน่นเข้าหากัน ก้าวไปสู่รูปแบบที่สูงขึ้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]