Sign in Buddha’s palm 289 (I)
“น่าเสียดาย….”
หลังจากเวลาผ่านไปครู่หนึ่ง ซูฉินก็หลับตาลง และเมื่อเขาลืมตาขึ้นอีกครั้งทุกอย่างก็กลับมา เป็นปกติ
ฉากที่เกิดขึ้นในดวงตาของซูฉินเป็นเพียงเศษ เสี้ยวความทรงจําของอีกาทองคําสามขา สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในด้านการใช้เปลวเพลิง ในตอนนี้เขาฝึกฝนภาพดวงตะวันขนาดมหึมาอยู่ แต่ที่เห็นก็เป็นเพียงภาพจําเท่านั้นไม่ใช่อีกา ทองคําสามขาจริงๆ
“มันยังได้น้อยไปที่จะฝึกฝนภาพดวงตะวันฯ ให้ ถึงความสําเร็จระดับเล็ก….” ซูฉินกระซิบคํากับ ตนเอง
ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา ซูฉินได้กลืนโอสถศัก ดิ์สิทธิ์และสมบัติธาตุไฟทั้งหมดที่มีในคลังระบบแล้ว ผลที่ได้คือการฝึกฝนภาพดวงตะวันขนาดมหึมาเดินหน้าไปอย่างมาก แต่ก็ยังอยู่ห่างจากความสําเร็จระดับเล็กอยู่บ้าง
“ต้องรอโอสถธาตุไฟจากการลงชื่อเข้าใช้อีกสักสองสามปีจึงจะเพียงพองั้นหรือ?” ซูฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย
ช่วงนี้กระแสปราณฉีกําลังฟื้นตัว ประกอบกับกลิ่นอายของตํานานยุทธขั้นสูงสุดจากต่างแดนได้เดินทางมายังทวีปนี้แล้ว ซูฉินจึงรู้สึกถึงความเร่งด่วนในจิตใจ
อย่างพรรคหมื่นดาบเป็นนิกายใหญ่ที่สืบทอดมรดกมาเพียงสี่พันปีเท่านั้น ซูฉินไม่ได้เกรงกลัวแต่อย่างใด แต่นิกายใหญ่แห่งอื่นจากต่างแดน โดยเฉพาะนิกายใหญ่ที่สืบทอดมรดกมาตั้งแต่ยุคเฟื่องฟูกระแสปราณครั้งล่าสุด ในใจของซูฉันมีความเกรงกลัวอยู่บ้าง
ไม่รู้ว่านิกายโบราณเหล่านี้มีตื้นลึกหนาบางเท่าไหร่ บางทีถึงขั้นที่อาจจะมีเซียนเทพปฐพีดํารงอยู่
เมื่อซูฉินกําลังคิดถึงตรงนี้
หวิ่ง!!!
ก็เห็นปราณฉีฟ้าดินพวยพุ่ง ราวกับมีบางอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
เห็นพลังงานธาตุไฟอันไร้ที่สิ้นสุดจากทั่วทุกทิศทาง รวมตัวกันพุ่งไปตกบริเวณหลายร้อยล้ํา นอกเมืองฉางอันควบแน่นเป็นเทือกเขาลูกใหญ่ มีเปลวไฟเผาไหม้โหมกระหน่ํา
เทือกเขานี้ไม่ได้กว้างใหญ่มากนัก แต่รัศมีหลายสิบลี้โดยรอยมีเปลวไฟมากมาย ควบแน่นเป็นขนดมังกรไฟ กวาดไปทั่วทุกมุมของเทือกเขาอย่างต่อเนื่องฉับพลัน
จอมยุทธที่อยู่ในขอบเขตสามระดับบนล้วนรู้สึกได้ถึงพลังฉีเงยหน้าขึ้นและมองไปทางเทือกเขาไฟ
จอมยุทธขอบเขตสามระดับบนเริ่มรับรู้พลังแห่งฟ้าดินได้แล้ว จึงสามารถสัมผัสพลังอันน่าเกรงขามที่อยู่ใต้ผืนฟ้าเหนือผืนดินนี้ได้จางๆ
พลังงานไฟอันไร้ที่สิ้นสุดถูกดึงดูดไปและก่อตัวขึ้นเป็นเทือกเขาไฟ ย่อมดึงดูดความสนใจของจอมยุทธจํานวนมากโดยธรรมชาติ
“นั่นคือ?”
ภายในวัง ชายชราเฟยยี่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ ทุกสิ่งแสดงออกผ่านสีหน้าของเขา
นักพรตเฒ่าสํานักเอกะวิถีเหยียนไร่ หร่วนชิง และคนอื่นๆก็รู้สึกคล้ายกัน พวกเขาอยู่ที่เมืองฉางอันซึ่งอยู่ห่างเทือกเขาเปลวไฟที่เพิ่งก่อตัวขึ้นเมื่อสักครู่เพียงไม่กี่ร้อยลี้ ความรู้สึกที่ได้รับจึงแจ่มชัด
“นี่คือแหล่งกําเนิดธาตุไฟก่อกําเนิดขึ้นจากพลังฟ้าดินทั้งหลาย ควบแน่นจนเป็นแหล่งกําเนิดธาตุไฟ” เสียงของชายชราเฟยยวสั่นเทาอย่างไม่อยากจะเชื่อ
แหล่งกําเนิดธาตุไฟ ก็เป็นหนึ่งในแหล่งกําเนิดธาตุทั้งห้าเหมือนกันกับแหล่งกําเนิดธาตุดิน โดยปกติจะใช้เวลาหลายพันปีในการหล่อหลอมขึ้นมาจนเป็นรูปเป็นร่าง แต่ตอนนี้ด้วยพลังฟ้าดินที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แหล่งกําเนิดธาตุไฟซึ่งหาได้ยากในรอบพันปีกําลังก่อตัวขึ้นด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
“นี่คือโอกาสอันยิ่งใหญ่ โอกาสที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง โอกาสเช่นนี้จะปรากฏขึ้นในแผ่นดินแห่งพลังยุทธฯ เท่านั้น…”
ใบหน้าของชายชราเฟยยี่เต็มไปด้วยความรู้สึกคลั่งไคล้
ม
แหล่งกําเนิดธาตุทั้งห้านั้นหายากมาก แม้แต่ในยุคเฟื่องฟูกระแสปราณฉีครั้งล่าสุดก็ไม่ได้มีมากนัก แหล่งกําเนิดธาตุทั้งห้าที่เติบโตเต็มที่จะช่วยให้ตํานานยุทธขั้นสูงสุดสามารถใช้จิตวิญญาณแรกกําเนิดเข้าสู่ส่วนลึกของทะเลปราณได้ง่ายขึ้น
ช่างเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่ออะไรเช่นนี้? ต้องรู้ว่าการฝึกฝนวิทยายุทธ ยิ่งก้าวหน้าไปไกลมากขึ้นเพียงไร ความช่วยเหลือจากภายนอกก็ยิ่งน้อยลงมากเท่านั้น เมื่อนึกถึงแหล่งกําเนิดธาตุไฟที่ล้ําค่าอย่างมหาศาลถึงกับช่วยยกระดับความเป็นไปได้ที่จะไปถึงขอบเขตเซียนเทพปฐพี ก็ช่างเป็นเรื่องที่น่าหวาดกลัวยิ่ง
“แย่ล่ะ”
“นี่เป็นปัญหาแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]