Sign in Buddha’s palm 30 จากไป
ในห้องใต้หลังคา
หงกงกงหนังหัวลุกชัน จิตใจสับสนวุ่นวายอยู่ไม่นิ่ง
ในฐานะที่เป็นถึงขันทีชุดแดงแห่งวังหลวง หงกงกงย่อมรู้เป็นธรรมดาว่าสิ่งที่เรียกว่าการกลั่นจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ได้นั้นเป็นเรื่องน่าหวั่นเกรงเพียงไร
ตัวตนนี้เป็นยอดฝีมือที่ปราบปรามทุกอย่างได้เพียงขยับตัว เหตุไฉนตระกูลเจินตระกูลหวู่แห่งเขาหวู่ตั้งจึงสามารถเพิกเฉยต่ออำนาจขององค์จักรพรรดิและต่อต้านคำสั่งได้? เหตุใดอาณาจักรเหมิ่งหยวนจึงครอบครองพื้นที่ทุ่งหญ้าอาณาเขตกว้างไกลไม่มีที่สิ้นสุดแถมยังหมายตาพื้นที่ราบทางตอนใต้และทางตอนกลางเอาไว้อีก?
ความน่ากลัวของยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งขั้นสูงสุดนั้นอยู่ไกลเกินจินตนาการของทุกผู้คน
หงกงกงไม่ทันคิดด้วยซ้ำว่าสถานที่ที่ตกต่ำลงไปมากอย่างวัดเส้าหลินถึงกับมีจุดสูงสุดของระดับชั้นที่หนึ่งเชียวหรือ?
“หงกงกง…”
เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นผ่านม่านจากด้านใน แม้พระชายาลี่เฟยจะไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นแต่เธอก็กังวลเช่นกัน
หงกงกงคือคนสนิทของนาง หากปราศจากการคุ้มกันของหงกงกงเธอคงไม่รู้ว่าจะต้องตายไปแล้วกี่ครั้ง
แต่ครานี้หงกงกงซึ่งถือเป็นเสาหลักเป็นความมั่นใจของนางกลับแสดงท่าทีสั่นสะท้านและหวาดกลัวเช่นนี้
“อย่าตกใจไปเลยพระนาง…”
หงกงกงฝืนใจแสดงความเคารพโดยการก้มคำนับไปในทิศทางที่มีแต่อากาศว่างเปล่า
“ข้ารับใช้เฒ่าหงหยวนขอคารวะสงฆ์ศักดิ์สิทธิ์…”
หงกงกงรู้สึกได้อย่างกระจ่างแจ้งว่าถึงระดับชั้นที่หนึ่งขั้นสูงสุดจะไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ด้วยจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ การเคลื่อนไหวทั้งหมดในห้องใต้หลังคานี้ย่อมอยู่ภายใต้สายตาของอีกฝ่าย
หลังจากนั้นไม่นาน
จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ก็ถอนตัวออกไปอย่างรวดเร็ว
หงกงกงในที่สุดก็หายใจหายคอได้เสียที จึงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
“หงกงกงเกิดอะไรขึ้น?” เมื่อเห็นการแสดงออกของหงกงกง พระชายาลี่เฟยก็ถามขึ้นโดยพลันเมื่อตระหนักได้ว่าเรื่องราวอาจจะผ่านพ้นไปแล้ว
“เกิดอะไรขึ้น?”
หงกงกงยิ้มอย่างขื่นขม “พระชายา สงฆ์ศักดิ์สิทธิ์จากวัดเส้าหลินเพิ่งใช้จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของท่านกวาดผ่านเข้ามา…”
“สงฆ์ศักดิ์สิทธิ์?”
“จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์?”
พระชายาลี่เฟยงุนงง
แม้ว่านางจะเป็นชายาคนโปรดของจักรพรรดิถังแต่เธอก็ไม่ได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับศิลปะยุทธมากนัก
สำหรับลี่เฟย เธอรู้เพียงว่าจอมยุทธแบ่งออกเป็นเก้าระดับชั้น โดยระดับชั้นที่หนึ่งคือสูงที่สุดและระดับชั้นที่เก้าคือต่ำที่สุด
ส่วนอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ นางย่อมไม่ทราบ
“พระชายา…”
หงกงกงรับรู้ได้ถึงความสงสัยของพระชายา หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงเรียนออกไปว่า “พระชายาเพียงรู้ไว้แค่ว่าสงฆ์ศักดิ์สิทธิ์รูปนี้อยู่ในระดับเดียวกันกับจ้าวกงกงที่เคียงข้างพระวรกายของฝ่าบาท…”
“จ้าวกงกง…”
หัวใจของพระชายาลี่เฟยสั่นสะท้าน
นามของจ้าวกงกง สำหรับผู้คนในวังหลวงนั้นเป็นเพียงอันดับสองรองลงมาจากองค์จักรพรรดิ
แม้แต่พระชายาลี่เฟยก็ยังรู้ว่าจ้าวกงกงเป็นขันทีชุดม่วงที่มีอยู่เพียงคนเดียวในราชวงศ์ถัง และสถานะของเขาเทียบเสมอกันกับเหล่าองค์ชาย
ตอนนี้องค์จักรพรรดิแห่งราชวงศ์ถังก็มีพระชนม์ชีพที่มากแล้ว เหล่าองค์ชายก็มีความคิดอ่านแตกต่างกันไป
แต่ไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายแค่ไหน ตราบที่องค์จักรพรรดิถังยังไม่สวรรคตในเร็วๆ นี้ ต้าถังก็จะยังไม่วุ่นวาย
เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น?
นั่นก็เป็นเพราะขันทีชุดม่วงข้างพระวรกายนี่แล
ด้วยอำนาจความแข็งแกร่งของขันทีชุดม่วงเพียงผู้เดียว ก็กดดันสภาขุนนางและกลุ่มก้อนอำนาจของเหล่าองค์ชายได้อยู่หมัด เป็นเหตุให้พวกเขาไม่กล้าที่จะก่อความไม่สงบใดๆ
ลี่เฟยไม่คาดคิดว่าในสายตาของหงกงกง สงฆ์ศักดิ์สิทธิ์รูปนั้นจะสูงส่งถึงขนาดที่เทียบเท่ากับจ้าวกงกงเลยเชียวหรือ?
มันเหลือเชื่อมากจริงๆ
“หงกงกง หากมีผู้แข็งแกร่งเยี่ยงนี้อยู่ในวัดเส้าหลิน มิใช่ว่าเราจะตกอยู่ในอันตรายแล้วหรอกหรือ…”
จู่ๆ ลี่เฟยก็นึกถึงบางอย่างขึ้นมาแล้วถามด้วยโทนเสียงต่ำ
“พระนางอย่าได้เป็นกังวลจนเกินไป…” หงกงกงยิ้มขม “หากสงฆ์ศักดิ์สิทธิ์รูปนั้นมีเจตนาฆ่าฟัน พวกเราย่อมไม่มีแม้แต่กระดูกหลงเหลืออยู่ไปเสียนานแล้ว และแม้ตัวจักรพรรดิถังเองจะได้ทราบความนั้น พระองค์ก็จะไม่ไต่ถามเรื่องราวใดต่อไปอีก”
การแสดงออกของขันทีเฒ่ามีความซับซ้อน
ไม่ว่าวังหลวงจะปรนเปรอ ปฏิบัติอย่างดีกับลี่เฟยมากเพียงใด แต่ก็จะไม่มีวันขัดแย้งกับจุดสูงสุดของระดับชั้นที่หนึ่งด้วยเรื่องของสตรีเพียงคนเดียวแน่
“พระชายา”
“ความจริงแล้วก็เป็นเรื่องดีที่มีสงฆ์ศักดิ์สิทธิ์อยู่ในวัดเส้าหลิน”
หงกงกงพูดเช่นนั้นแล้วก็หยุด จากนั้นจึงถอนหายใจออกมา “อย่างน้อยก็นับว่าเราปลอดภัย…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]