สรุปตอน ตอนที่ 303 ทุบตี – จากเรื่อง เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] โดย Internet
ตอน ตอนที่ 303 ทุบตี ของนิยายActionเรื่องดัง เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ตอนที่ 303 ทุบตี
Sign in Buddha’s palm 303 ทุบตี
หลังจากที่ครึ่งก้าวสู่ขอบเขตเชียนเทพปฐพีทั้งเจ็ดใช้ทักษะโจมตีผสานเพื่อสร้างพลังที่เกินขีดจํากัดไม่เพียงแต่พวกเขาจะล้มเหลวในการสั่งหารซูฉินเท่านั้นแต่ยังไม่สามารถสร้างความเสียหายให้คู่ต่อสู้แม้แต่น้อย“ไม่ถูกต้อง”
“เขาแตกต่างไปจากเดิมแล้ว”
เจ้าสํานักผู้วิเศษชิงหมางมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปมองซูฉินด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ
ในขณะนี้ แม้ว่ารูปลักษณ์โดยพื้นฐานของซูฉินจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปแต่ก็มีความแตกต่างในจุดเล็กๆหลายจุดนอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงที่แสนละเอียดอ่อนนี้ทําให้ความรู้สึกที่ได้รับจากฉินนั้นเปลี่ยนไปหมดเปลี่ยนทั้งร่างของซูฉินให้เหมือนกับดวงตะวันลุกโชนโชติช่วงด้วยเพลิงผ ลาญอนันตกาล
โดยเฉพาะในส่วนลึกของดวงตาซูฉินภาพลวงตารูปดวงอาทิตย์ขนาดใหญ่ทําให้เจ้าสํานักผู้วิเศษชิงหมางรู้สึกเหมือนกับอยู่ต่อหน้าดวงอาทิตย์ที่แท้จริง
แต่สิ่งนั้นจะเป็นไปได้อย่างไรเล่า?
ดวงอาทิตย์อยู่สูงขึ้นไปเหนือน่านฟ้าเหนือท้องฟ้าทั้งหมดแม้แต่ในยุคเฟื่องฟูของกระแสปราณฉีผู้ที่ทรงพลังถึงขีดสุดยังไม่สามารถข้ามผ่านชั้นบรรยากาศออกไปได้และไม่เคยแม้แต่เข้าใกล้ดวงอาทิตย์
ขณะเดียวกันกับที่ครึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่ทั้งเจ็ดกําลังตกตะลึงและสงสัยใคร่รู้ไอพลังของซูฉินก็เพิ่มขึ้นอย่างไม่มีขอบเขต เกือบ ทุกตารางนิ้วในอากาศเต็มไปด้วยพลังที่แสนน่ากลัวเจ้าสํานักผู้วิเศษชิงหมางและคนอื่นๆแทบหายใจไม่ออก
“รอต่อไปไม่ได้แล้ว”
ปฐมบรรพชนแห่งนิกายเฮยหยวนแทบจะสติหลุดแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรกับซูฉินในตอนนี้แต่สิ่งที่เขารู้คือตอนนี้ต้องป้องกันไม่ให้ซูฉินพัฒนาไอพลังของเขาต่อไปได้
ไม่เช่นนั้น ซูฉันอาจจะไม่จําเป็นต้องทําอะไรเลยแค่ปล่อยเวลาไปสักครึ่งชั่วโมง เมื่อผลของทักษะโจมตีรูปแบบผสานสิ้นสุดลงพวกเขาจะไม่อาจต้านทานได้
“ม่านฟ้ามืดทมิฬ!!!”
ปฐมบรรพชนแห่งนิกายเฮยหยวนยกมือขวาขึ้นมา
ทันใดนั้นความมืดมิดก็ปกคลุมไปทั่ว ม่านฟ้ามีดทมิฬเป็นทักษะลับของนิกายเฮยหยวนซึ่งเป็นอํานาจบางอย่างที่ได้มาจากรูปแบบฝันร้ายด้วย ความแข็งแกร่งของปฐมบรรพชนเมื่อม่านฟ้ามีดทมิฬปรากฏขึ้นแม้จะเป็นครึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพีก็ไม่อาจต่อต้านต้องสูญสลายไป ทันตา
สุดท้ายแล้วความแข็งแกร่งของปฐมบรรพชนกมาถึงขอบธรณีประตูของขอบเขตเซียนเทพปฐพีแล้วด้วยทักษะโจมตีผสานที่ทําให้พลังเพิ่มขึ้น ทุกกระบวนท่าก็เพียงพอจะเขย่าโลกบดขยี้ทุก
“งั้นๆ”
ดวงตาของซูฉินสงบนิ่ง ในตอนนี้เขาได้เข้าสู่สภาวะร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคําแล้วภายใต้พลังรับรู้ที่ยิ่งใหญ่ครอบคลุมออกไปทั่วนี้ทุกสิ่งบนโลกย่อมเห็นชัดเจนในสายตาของเขา
ซูฉินเหยียดมือออกไปจับม่านฟ้ามืดทมิฬอย่างสบายๆจากนั้นจึงค่อยๆ ดึงมันออกไปทั้งสองด้าน
“ฉีก!!”
เป็นเหมือนกับเสียงของอากาศที่ถูกฉีกขาดออกจากกันทันใดนั้นม่านฟ้ามืดทมิฬก็ถูกฉีกออกเป็นสองชิ้นด้วยมือเปล่าราวกับผ้าผืนหนึ่งในสายตาคนนอกมันเหมือนกับอากาศทั้งหมดถูกฉีกแยกออกจากกันด้วยน้ํามือของซูฉิน ทําให้หัว ใจของผู้คนต้องหวาดหวั่นตกตะลึง
“เป็นไปได้อย่างไร?”
ปฐมบรรพชนแห่งนิกายเฮยหยวนถูกพลังตึกลับพ่นเลือดออกมาเป็นฝอย แต่เมื่อเทียบกับ ฉากสยองขวัญตรงหน้าแล้วอาการบาดเจ็บทางกายก็ไม่นับเป็นอะไรเลย
ปฐมบรรพชนมองม่านฟ้ามืดทมิฬที่ถูกฉีกขาดและพังทลายลงในใจของเขาพลันรู้สึกเย็นวาบและไม่อยากจะเชื่อ
ม่านฟ้ามืดทมิฬนั้นไร้ลักษณ์ยากจับต้องแม้ว่าจะเป็นพลังของจิตวิญญาณแรกกําเนิดก็ไม่สามารถดักจับมันไว้ได้แต่ตอนนี้มันกลับถูกฉีกออกด้วยน้ํามือของซูฉินหากไม่ได้เห็นด้วยตาตนเองปฐมบรรพชนคงจะไม่เชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นเลยแม้ตนเองจะอยู่ในเหตุการณ์ก็ตาม
“หมื่นสายฟ้า ฉุดกระชาก!”
เมื่อปฐมบรรพชนแห่งนิกายเฮยหยวนตกอยู่ในความรู้สึกหวาดกลัว อีกเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นตามมาบรรพชนสายฟ้าที่ดูระมัดระวังตัวก็เปล่งวาจาออก มาจากปากเขาด้วยความยากลําบาก
เกิดการปะทะกันที่เบื้องบน
ก้อนเมฆระเบิดคําราม
เห็นกระแสไฟฟ้านับหมื่นพุ่งขึ้นสู่ฟากฟ้าเหมือนมังกรคะนองแล้วพุ่งฟาดลงมาใส่ซูฉิน
พันสายฟ้าฉุดกระชากเป็นทักษะลับต้องห้ามของนิกายเทพเจ้าสายฟ้า และหมื่นสายฟ้าฉุดกระชากก็เป็นทักษะที่เซียนเทพปฐพี่เท่านั้นที่ใช้ออกได้
บรรพชนสายฟ้าใช้ประโยชน์จากทักษะโจมตีผสานสัมผัสได้ว่าตนแตะบานประตูขอบเขตเซียนเทพปฐพีแล้วจึงฝืนใช้กระบวนท่านี้ออกมาไม่เช่นนั้น หากไม่มีทักษะโจมตีผสานเกรงว่าในยามที่บรรพชนสายฟ้าเรียกใช้หมื่นสายฟ้าฉุดกระชากร่างจิตวิญญาณแรกกําเนิดของเขาคงถูกสายฟ้าขนาดใหญ่ฉีกออกเป็นชิ้นๆไปแล้ว
แต่การจ่ายราคามหาศาลของบรรพชนสายฟ้าเพื่อปล่อยหมื่นสายฟ้าฉุดกระชากอํานาจที่ได้มาก็สามารถทําลายล้างผืนแผ่นดินได้โดยแท้จริงหากไม่ได้อยู่บนท้องฟ้าหลายพันลี้อาจจะเปลี่ยนรัศมีหลายร้อยล้ําบนพื้นโลกให้กลายเป็นซากสุสานเลยก็เป็นได้สายฟ้านับหมื่นส่งเสียงคํารามก้องพร้อมกันฟ้าดินกลายเป็นดั่งทะเลสายฟ้า
“ดูซิว่าเขาจะเผชิญหน้ากับพลังสายฟ้าทําลายล้างนี้อย่างไร?”
เมื่อเห็นฉากนี้เจ้าสํานักผู้วิเศษชิงหมางก็จ้องไปที่ใจกลางทะเลสายฟ้าในทันที แม้ว่าซูฉินจะ แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งด้วยการฉีกม่านฟ้ามืดทมิฬด้วยมือเปล่าแต่หมื่นสายฟ้าฉุดกระชากที่ชักนําโดยบรรพชนสายฟ้านั้นน่ากลัวจริงๆ
“แม้แต่ขอบเขตเซียนเทพปฐพีที่เผชิญหน้ากับกระบวนท่านี้ก็ต้องล่าถอยออกไปใช่หรือไม่?” บรรพชนหิมะพึมพํากับตนเอง
ถึงเซียนเทพปฐพีจะแข็งแกร่งแต่ก็ไม่โง่จะเอาตัวเข้ารับพลังสายฟ้าได้อย่างไร? มีหลากหลายวิธีที่ตัวตนขอบเขตเชียนเทพปฐพี่จะหลบเลี่ยง ทะเลสายฟ้า
อย่างไรก็ตามท่ามกลางสายตาเหลือเชื่อของทุกคน
ทะเลสายฟ้าค่อยๆ หายไปอย่างรวดเร็ว ราวกับมันถูกดูดกลืนด้วยเหวนรกอย่างต่อเนื่อง จากนั้นสักครู่ หลังจากสายฟ้าสายสุดท้ายเข้าไปใน ร่างของซูฉิน ความสามารถทั้งหมดก็ค่อยๆ ถูกกระตุ้น
“ใช่สิ”“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ขอให้ข้าได้เห็นร่างกายจากสํานักผู้วิเศษของเจ้าหน่อยเถอะ”
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซูฉินเขาก้าวไปข้างหน้าโผล่ออกไปชกใส่เจ้าสํานักผู้วิเศษชิงหมางตรงๆ
ไม่ว่าจะเป็นบรรพชนสายฟ้าหรือปฐมบรรพชนนิกายเฮยหยวนพวกเขาทั้งหมดต่างโจมตีซูฉินจากระยะไกล
เป็นสาเหตุให้ซูฉินหงุดหงิดเล็กน้อย แม้การโจมตีระยะไกลเหล่านี้จะไม่สามารถโจมตีเขาได้แต่จะทําให้เขามีความสุขเท่ากับการต่อสู้ระยะประชิดได้อย่างไร?
เมื่อเห็นเช่นนี้ เจ้าสํานักผู้วิเศษชิงหมางจึงทําได้เพียงกัดฟันเข้าต่อสู้
ตึง ตึง ตึง!!!
ชั่วครู่เดียว เจ้าสํานักผู้วิเศษชิงหมางก็เสียเปรียบอย่างสิ้นเชิงถ้าไม่ใช่เพราะทักษะลับของสํานักผู้วิเศษควบคู่ไปกับทักษะโจมตีผสานเพื่อกระจาย ผลจากพลังของซูฉินเกรงว่าเจ้าสํานักผู้วิเศษชิงหมางคงถูกกําจัดในทันที
“ข้าจะลงมือขัดขวาง”
เมื่อเห็นฉากนี้ บรรพชนหิมะและคนอื่นๆ ก็ลงมือทันที
บรรพชนหิมะเรียกแรงระเบิดน้ําแข็งออกมาเพื่อลดอุณหภูมิรอบตัวในระยะสิบลี้พยายามจํากัดความเร็วของซูฉิน
จ้าวโอสถสํานักเทพโอสถหยิบเม็ดยาสีดําออกมาขว้างไปยังตําแหน่งของซูฉิน แล้วกระซิบคํา“ระเบิดออก”
ทันใดนั้นควันพิษที่น่าสะพรึงกลัวก็แพร่ออกมาพิษนี้ไม่ได้ส่งผลต่อเนื้อหนัง แต่ส่งผลต่อจิตวิญญาณแรกกําเนิดน่าเสียดายยิ่ง
การโจมตีทุกวิถีทางของเหล่าครึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่ทั้งหกนั้น เมื่ออยู่ห่างจากซูฉินร้อยจ้างทั้งหมดก็สลายหายไปที่ละนิดและเมื่อมันไปถึงร่างของซูฉินจริงๆพลังก็ไม่เหลือแล้วกลายเป็นเพียงอากาศธาตุภายใต้พลังของปราณเลือดอันยิ่งใหญ่
“ถึงใจจริงๆ!”
ซูฉินต่อสู้กับเจ้าสํานักผู้วิเศษชิงหมางกายแห่งธรรมชาตินั้นทรงพลัง แต่ร่างศักดิ์สิทธิ์อีกาทองคําของซูฉินนั้นอยู่เหนือกายแห่งธรรมชาติธรรมดาๆ ไปแล้วเพียงอาศัยร่างศักดิ์สิทธิ์อีกา ทองคําก็เทียบเคียงได้กับเซียนเทพปฐพี่คนหนึ่งกายแห่งธรรมชาติธรรมดาๆ จะมาเทียบเคียงได้อย่างไร?
ในที่สุด
ซูฉินก็ปล่อยหมัดออกไป พร้อมกับสายตาที่สิ้นหวังของเจ้าสํานักผู้วิเศษชิงหมาง หมัดทะลุหน้าอกยิงตรงยาวออกไปยังผืนฟ้าเบื้องหลัง
เพียงหนึ่งหมัด
เจ้าสํานักผู้วิเศษชิงหมางก็ตกตาย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]