Sign in Buddha’s palm 34 ธุระ
ณ วัดเส้าหลิน
เจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินและเหล่าหัวหน้าตำหนักต่างมารวมตัวกันอยู่ที่ลานธรรม
“ท่านเจ้าอาวาสเรียกพวกเรามา มีเรื่องอันใดหรือ?” หัวหน้าตำหนักยุทธสงฆ์มองไปที่เจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินแล้วถามอย่างสงสัย
เจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินใบหน้าประด้วยรอยยิ้มเมื่อได้ฟังคำ “ข้ากำลังจะปลีกวิเวกปิดด่านฝึกตน เมื่อเป็นเช่นนั้นให้เรื่องราวภายในวัดเส้าหลินดำเนินการโดยการดูแลของฮุ่ยเจ๋”
ฮุ่ยเจ๋เป็นหัวหน้าตำหนักลานธรรมหรือก็คือหัวหน้าฝ่ายวินัย ความแข็งแกร่งของเขาอยู่ในสามระดับบนเป็นรองแค่เจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินเท่านั้นในวัดเส้าหลินนี้
“ปลีกวิเวก?”
หัวหน้าฝ่ายวินัยสงฆ์ตกใจ และพลันถามขึ้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ “หรือท่านเจ้าอาวาสกำลังจะเตรียมตัวสำหรับการตัดผ่าน…”
หัวหน้าฝ่ายวินัยสงฆ์มองไปที่เจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินด้วยสายตายากจะเชื่อ
“เมื่อเร็วๆ นี้…”
เจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินกำลังจะกล่าวคำ
ทันใดนั้น
ในเวลาเดียวกัน
บูม!!!
คลื่นพลังที่น่ากลัวพัดกระจายไปทั่วทั้งวัดเส้าหลิน หมู่ตึกวิหารต่างๆ พากันสั่นสะท้านเล็กน้อย
“เกิดอะไรขึ้น?”
“มีเหตุใดเกิดขึ้น?”
หัวหน้าตำหนักต่างหน้าเปลี่ยนสี รีบเดินกันออกมาจากลานธรรม
“มันคือที่ภูเขาด้านหลัง แรงสั่นสะเทือนมาจากพื้นที่หวงห้ามภูเขาด้านหลัง!”
หัวหน้าตำหนักยุทธสงฆ์ตัวสั่นเทา มองไปที่ภูเขาด้านหลังอย่างเคร่งเครียด
เมื่อมีคำกล่าวออกมา
หัวหน้าตำหนักคนอื่นๆ รวมถึงเจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินเอง สีหน้าก็เริ่มเปลี่ยนไปอีก
ตั้งแต่เหตุการณ์ที่‘อรหันต์ถัว‘ ปราบปรามมารพุทธะแล้วสะกดไว้ที่ภูเขาด้านหลัง พื้นที่แถบภูเขาด้านหลังก็กลายเป็นเขตหวงห้ามของวัดเส้าหลินไปตั้งแต่บัดนั้น
สถานที่หวงห้ามอื่นๆ เช่น หอคอยสะกดมาร และวิหารพระสหัสพุทธ แม้ว่าจะมีบางสิ่งเกิดผิดพลาดขึ้นมา ย่อมไม่ส่งผลใดต่อวัดเส้าหลินนอกเสียจากอาการปวดเศียรเวียนเกล้า
แต่ถ้าเกิดข้อผิดพลาดขึ้นในเขตหวงห้ามภูเขาด้านหลัง มันย่อมเป็นหายนะของวัดเส้าหลินอย่างแน่นอน
แค่เพียงผู้สืบทอดของมารพุทธะที่ปรากฏตัวทุกๆ หนึ่งร้อยปี ก็ทำให้วัดเส้าหลินหม่นหมองและเกือบจะถูกกวาดล้างไปสิ้น แล้วนับประสาอะไรกับตัวมารพุทธะจริงๆ จะไม่แย่กว่าอีกหรือ?
จนถึงตอนนั้น
ไม่ใช่แค่วัดเส้าหลินเท่านั้น เกรงว่าโลกทั้งใบจะกลายเป็นเพียงของเล่นที่อยู่ในมือของมารพุทธะไปเสีย
“เร่งรุดไปที่ภูเขาด้านหลังกันเถอะ!”
เจ้าอาวาสและเหล่าหัวหน้าตำหนักมองหน้ากัน สีหน้ามืดทะมึน
หากมารพุทธะหลุดออกมาจากพื้นที่ต้องห้ามได้จริงๆ แม้ต้องแลกด้วยชีวิต พวกเขาก็ต้องหยุดมารพุทธะเอาไว้ให้ได้
อย่างเร็วไว
เจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินและสงฆ์รูปอื่นๆ ต่างเร่งความเร็วไปยังพื้นที่ต้องห้ามภูเขาด้านหลัง
อย่างไรก็ตาม
เมื่อเจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินและหัวหน้าตำหนักเงยหน้าขึ้นมองไปยังเขตแดนพื้นที่หวงห้ามภูเขาด้านหลัง
พวกเขาก็ได้เห็นฉากที่จะไม่ลบเลือนไปจากความทรงจำ
ภาพที่เห็นเป็นองค์ยูไลทองคำนั่งอยู่ท่ามกลางหมู่ดอกสาละสีทองจำนวนนับไม่ถ้วนเบ่งบานออกจากความว่างเปล่า ชำระพื้นที่ตรงนั้นให้กลายเป็นบริสุทธิ์ ปกคลุมไปทั่วเขตหวงห้ามภูเขาด้านหลัง
หวึ่ง!
สายตาของเจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินเห็นองค์ยูไลยกฝ่ามือขึ้นแล้วค่อยๆ เหวี่ยงลงไปในส่วนลึกของพื้นที่หวงห้ามภูเขาด้านหลัง
“นี่คือ……”
เจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินอ้าปากกว้าง ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ
“ฝ่ามือยูไล สิ่งนี้คือฝ่ามือยูไล!!!”
หัวหน้าลานธรรมรู้สึกอื้ออึงอยู่ในหัว มองไปที่องค์ยูไลสีทอง เกือบจะก้มลงไปกราบอยู่รอมร่อ
“ฝ่ามือยูไลหายสาบสูญไปกว่าเก้าร้อยปีพร้อมการจากไปของอรหันต์ถัว แล้วตอนนี้มันคือ…..”
หัวหน้าลานธรรมพึมพำกับตนเอง “เป็นไปได้ไหมที่‘อรหันต์‘จะฟื้นชีพกลับคืนมา?”
“มันไม่ควรเป็นเยี่ยงนั้น”
เจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินนิ่งเงียบเป็นเวลานานและกล่าวขึ้นว่า “หากแม้อรหันต์ถัวจะไม่ได้ล่วงลับไปเมื่อเก้าร้อยปีก่อน แต่ก็ไม่มีทางมีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้”
เมื่อเจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินกล่าวเช่นนั้น พวกเขาก็หยุดไปชั่วขณะแล้วพูดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยอยากจะเชื่อ “งั้นนี่ควรจะเป็นผู้อื่นที่กำลังใช้ฝ่ามือยูไลเพื่อสะกดมารพุทธะในตอนนี้…….”
…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]