เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] นิยาย บท 38

สรุปบท ตอนที่ 38: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]

ตอนที่ 38 – ตอนที่ต้องอ่านของ เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]

ตอนนี้ของ เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายActionทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 38 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

Sign in Buddha’s palm 38 ตื่นตระหนกตกใจ

ลานโพธิ์

ซูฉินเดินอย่างเชื่องช้าไปตรงหน้าเจ้าอาวาสฮุ่ยเหวิน

ในขณะนี้เจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินเบิกตาโพลงจ้องซูฉินด้วยความตระหนก

เพียงไม่กี่อึดใจเท่านั้นที่ซูฉินบุกฝ่าเข้ามาในอาคารของลานโพธิ์ แต่ภิกษุสงฆ์หลายร้อยคนในสามระดับกลาง และระดับชั้นที่สามของวัดเส้าหลินซึ่งรวมไปถึงเหล่าหัวหน้าตำหนักกลับไม่เหลืออำนาจในการต่อกร

ความแข็งแกร่งเช่นนี้ แม้จะเป็นยอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งก็ยังไม่มีความสามารถกระทำได้มิใช่หรือ?

“พลังปราณและโลหิตถดถอย”

“เส้นเอ็น เส้นชีพจร ยุ่งเหยิงไร้ระเบียบ”

ซูฉินเบิกเนตรดวงตาแห่งสัจจะ แล้วสังเกตเจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินในระยะใกล้

ด้วยดวงตาแห่งสัจจะ ทุกสิ่งในร่างของเจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินล้วนตกอยู่ในสายตาของซูฉิน

หากเป็นยอดปรมาจารย์ระดับจุดสูงสุดคนอื่นๆ แม้จะผ่านการเปลี่ยนแปลงแปรสภาพพลังมาแล้วก็ตาม เมื่อต้องมาเผชิญกับสถานการณ์ของเจ้าอาวาสฮุ่ยเหวิน พวกเขาย่อมหมดหนทาง และจะใช้เวลาทั้งหมดที่มี เต็มที่กับการช่วยชีวิตเจ้าอาวาสฮุ่ยเหวิน

ส่วนจะให้ช่วยมากกว่านั้นก็อับจนหนทาง

ต่อให้เป็นยอดปรมาจารย์ระดับจุดสูงสุด มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะรู้จักร่างกายของเจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินได้ถ้วนทั่ว

แต่ซูฉินนั้นแตกต่าง

ซูฉินมีดวงตาแห่งสัจจะ เปรียบเสมือนเป็นแพทย์อัจฉริยะที่สามารถสั่งยาให้เหมาะสมตามอาการ เพียงแค่ดูซ้ำอีกสองสามรอบเพื่อยืนยันสภาพร่างกายของเจ้าอาวาสฮุ่ยเหวิน การช่วยชีวิตนั้นช่างเป็นเรื่องง่ายดาย

“ท่าน…..ท่านคือบรรพบุรุษสงฆ์ศักดิ์สิทธิ์ใช่หรือไม่?”

เจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินถามกับร่างเลือนรางตรงหน้าอย่างไม่แน่ใจ

ในตอนนี้เจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินไม่เหลือความกลัวใดๆ อีกต่อไป เพราะถ้าซูฉินต้องการจะสังหารตนจริงๆ เขาก็คงตายไปนานแล้ว

ด้วยความแข็งแกร่งของซูฉิน น่ากลัวว่าทั้งวัดเส้าหลินจะถูกสังหารได้อย่างง่ายดาย แล้วนับประสาอะไรกับตัวเขา?

และตอนนี้ซูฉินก็ไม่ได้ลงมือสังหารเขา เพียงแต่ยืนอยู่ตรงนั้น คงจะไม่ใช่ศัตรูของวัดเส้าหลิน

ในวัดเส้าหลินผู้เดียวที่ครอบครองพลังอันน่าสะพรึงกลัวได้ขนาดนี้มีเพียงบรรพบุรุษสงฆ์ศักดิ์สิทธิ์ที่แอบซ่อนตัวอยู่ในเงามืด คอยยื่นมือช่วยเหลือเปลี่ยนแปลงชะตากรรมเลวร้ายหลายต่อหลายครั้งในวัดเส้าหลินช่วงที่ผ่านมา

“อย่าได้กล่าวคำ”

“พยายามควบคุมกำลังภายในให้ฟื้นกลับคืนมา”

ซูฉินไม่ได้ใส่ใจมากนัก ยกมือขวาขึ้นแผ่วเบา แล้วกดไปที่หน้าอกของฮุ่ยเหวิน

“ฟื้นคืนกำลังภายในของข้าอย่างนั้นหรือ?”

เจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินตะลึงแล้วยิ้มออกมาอย่างขมขื่น

เส้นทางการฝึกตนของเขาเบี่ยงเบนไปแล้ว ธาตุไฟเข้าแทรก กำลังภายในหลุดออกจากการควบคุมไปนานแล้ว เขาจะไปควบคุมมันได้อย่างไร?

“สงฆ์ศักดิ์สิทธิ์ ท่านไม่จำเป็นต้องลงมือหรอก ถึงท่านจะใช้ฐานการบ่มเพาะของท่านเพื่อช่วยชีวิตข้า ยังไงข้าก็ต้องกลายเป็นบุคคลไร้ประโยชน์อยู่ดี”

“ทำไมจะต้องมาเสียเรี่ยวแรงให้กับคนไร้ประโยชน์ ฐานบ่มเพาะที่สั่งสมมาจะต้องถูกใช้ไปอย่างสูญเปล่า”

ดวงตาของเจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินหรี่แคบ

เจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินตระหนักดีถึงอาการบาดเจ็บของเขานั้นร้ายแรง ไม่มีโอสถใดๆ จะช่วยได้ แม้จะใช้ฐานการบ่มเพาะเข้าช่วยเหลือ ยังไงตัวเขาก็ต้องสูญสิ้นกำลังภายในกลายเป็นคนไร้ประโยชน์

อย่างไรก็ตาม

ช่วงเวลาถัดมา

ขณะที่ซูฉินเอามือขวาเคาะไปที่เจ้าอาวาสฮุ่ยเหวิน พลังภายในจำนวนมหาศาลก็พวยพุ่งเข้าไป

ภายใต้พลังภายในเหล่านี้ กำลังภายในของเจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินที่ทีแรกยุ่งเหยิง กลับกลายเป็นดี การโคจรสะดวกแทงทั่วไปตลอดเส้นลมปราณ

“นี่คือ?”

ม่านตาของเจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินหดตัวลงทันที มองไปที่ซูฉินอย่างไม่อยากจะเชื่อ

เจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินตระหนักดีว่าเขาควรจะทำอะไรในเวลานี้ เขาหลับตาลง เริ่มควบคุมพลังภายในของเขาอีกครั้ง

เมื่อเห็นฉากดังกล่าวเหล่าหัวหน้าตำหนักที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ใจก็กระตุกคิดบางสิ่งขึ้นมาได้

แม้ว่าจะโดนจำกัดความเคลื่อนไหว แต่พวกเขายังคงความสามารถในการคิดได้อยู่ เมื่อเห็นร่างคลุมเครือที่บุกฝ่าเข้ามาในลานโพธิ์ พวกเขาก็คิดได้ทันทีว่าอีกฝ่ายอาจจะมาช่วยเจ้าอาวาสฮุ่ยเหวิน

“คนคนนี้มาช่วยท่านเจ้าอาวาสหรือ?”

“นั่นคือบรรพบุรุษสงฆ์ศักดิ์สิทธิ์ของวัดเส้าหลินใช่หรือไม่?”

หัวใจของทุกคนเรรวน

ช่วงเวลาต่อมา

หลังที่ปราบปรามพลังภายในของเจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินที่พยศอย่างรุนแรงลงได้แล้ว ซูฉินก็เริ่มชำระเส้นเอ็นที่จัดวางไม่เป็นระเบียบให้ใหม่

ด้วยความช่วยเหลือของดวงตาแห่งสัจจะ ซูฉินจึงไม่ต้องใช้ความพยายามมากเท่าไหร่นักในการดึงเจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินออกมาจากอาการผิดปกติ

หลังจากนั้นไม่นาน

หัวหน้าตำหนักรูปอื่นๆ มองไปที่เจ้าอาวาสฮุ่ยเหวิน

“บรรพบุรุษสงฆ์ศักดิ์สิทธิ์ได้จากไปแล้ว……”

เจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินนั่งเหม่อ ยังตกอยู่ในความสับสนงุนงง

“ท่านเจ้าอาวาสเป็นอย่างไรบ้าง อาการดีขึ้นหรือไม่”

หัวหน้าลานธรรมเดินปรี่เข้าไปหาเจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินแล้วเอ่ยถามอย่างร้อนรน

“ข้าไม่ได้เป็นอะไรแล้ว”

เจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินส่ายหัวแล้วกล่าวตอบ

“ลมปราณมั่นคง เลือดไหลเวียนสะดวก นี่ท่านฟื้นฟูกลับมาได้อย่างสมบูรณ์จริงๆ หรือนี่?”

หัวหน้าลานโพธิ์ตรวจชีพจรของเจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินแล้วพึมพำอย่างประหลาดใจ

แม้เขาจะคาดเดาได้จากสีหน้าของเจ้าอาวาสฮุ่ยเหวิน แต่ตอนนี้เขาแน่ใจแล้วว่าไม่มีสิ่งผิดปกติใดเกิดขึ้นกับเจ้าอาวาสฮุ่ยเหวิน มันก็ยังสร้างคลื่นขนาดใหญ่ซัดสาดจิตใจเขา

รู้หรือไม่ว่าการเบี่ยงเบนไปของเส้นทางการฝึกตนเป็นสิ่งที่ไม่สามารถรักษาได้?

ขณะนี้ซูฉินออกมานอกลานโพธิ์แล้ว

ภิกษุสงฆ์หลายร้อยรูปนอนอยู่บนพื้นจนมองเห็นเป็นเหมือนกับทางที่คดเคี้ยว

ซูฉินเพียงต้องการจะเข้าไปในตัวอาคาร แต่พระเหล่านี้ต้องการจะหยุดเขา เรื่องมันก็เป็นเช่นนี้

ซูฉินไม่ได้สนใจพระที่นอนอยู่เหล่านี้

พระเหล่านี้หมดสติไปชั่วคราวเท่านั้น แล้วอีกสองสามชั่วโมงก็จะตื่นขึ้นมาเอง

อย่างว่องไว

ซูฉินกลับไปที่ลานจิปาถะ

ตลอดทางซูฉินใช้กำลังภายในปกปิดรูปลักษณ์จนกว่าจะแน่ใจว่าไม่มีผู้ใดอยู่ใกล้ๆ จึงค่อยคลายการปกปิดออก

“ข้าไม่เคยคิดฝันว่าดวงตาแห่งสัจจะจะมีความสามารถแบบนี้อยู่ด้วย?”

ซูฉินปล่อยลมหายใจออกด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย

ด้วยการจ้องมองด้วยดวงตาแห่งสัจจะ การเปลี่ยนแปลง การโคจรทั้งหมดภายในร่างกายของเจ้าอาวาสฮุ่ยเหวินตกอยู่ในสายตาของซูฉินเพียงแค่มอง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]