Sign in Buddha’s palm 78 ความลับของ ‘มารพุทธะ‘
“ข้า‘ถัวอา‘ มีความผิด!”
“ข้า‘ถัวอา‘ คือคนบาปแห่งวัดเส้าหลิน!”
บนกำแพงหินด้านหน้านี้ขีดเขียนด้วยเลือด มันแสดงถึงความรู้สึกผิดอันหาที่สุดมิได้
กำแพงหินที่อยู่ตรงหน้าอรหันต์ถัวนี้ เห็นได้ชัดว่าร่องรอยอักขระเลือดทั้งหมดเกิดมาจากน้ำมือของอรหันต์ถัว
น่าจะเป็นไปได้ว่าอรหันต์ถัวทนทุกข์ทรมานใจอย่างมากก่อนจะมรณภาพไป จึงได้เขียนตัวอักษรเหล่านี้ขึ้นมา
“มีความผิด?”
“อรหันต์‘ถัวอา‘ เป็นอรหันต์ที่น่าเคารพนับถือรูปหนึ่งในวัดเส้าหลิน แม้ว่าฝ่ามือยูไลจะต้องสูญหายไป แต่ก็เป็นเพราะจำต้องปราบมารพุทธะ ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ไม่เห็นถึงความผิด”
จิตใจของซูฉินผันแปรอย่างรวดเร็ว รีบเลื่อนสายตามองต่อไปยังกำแพงหินส่วนล่าง
ซูฉินรู้สึกว่าสิ่งที่เขาจะได้เห็นต่อไปนี้อาจจะเป็นความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวัดเส้าหลินยุคของอรหันต์ถัวเมื่อเก้าร้อยปีก่อน
จากนั้นไม่นาน
ซูฉินก็อ่านรอยอักขระเลือดบนกำแพงหิน
ตามคำอธิบายของอรหันต์ถัว เขาบรรลุขอบเขตอรหันต์เมื่ออายุได้หนึ่งร้อยห้าสิบปี กลายเป็นผู้คงกระพันในใต้หล้า เมื่อออกเดินทางท่องไปด้านนอกเขาก็ได้รับศิษย์เอาไว้คนหนึ่ง
พรสวรรค์ของศิษย์คนนี้น่าหวาดหวั่นถึงขีดสุด ยิ่งกว่าตัวอรหันต์ถัวเมื่อครั้งเยาว์วัยเสียอีก
สิ่งนี้ทำให้อรหันต์ถัวดีใจอย่างมาก และรู้สึกว่าวัดเส้าหลินในอนาคตจะต้องไปในทิศทางที่ดีขึ้น
ต้องทราบว่าแม้แต่อรหันต์ผู้ทรงสมณศักดิ์อันสูงส่งก็ยังเป็นที่พึ่งพิงให้วัดเส้าหลินได้เพียงห้าร้อยปีเท่านั้น
ห้าร้อยปีต่อจากนั้น เมื่อถึงเวลาอันสมควรอรหันต์รูปนั้นก็ต้องมรณภาพลงอยู่ดี
อย่างไรก็ตามศิษย์ที่อรหันต์ถัวรับมา ทำให้เขามีความหวังว่าจะมีใครสักคนหนึ่งขึ้นไปถึงระดับอรหันต์แล้วมาแทนที่เขา
เป็นไปตามที่คาดการณ์
ศิษย์ที่อรหันต์ถัวรับมา ได้สำเร็จการแปรสภาพสามครั้งในเวลาหลายสิบปีต่อมา และยังบรรลุต่อไปยังขอบเขตอรหันต์ได้ตั้งแต่อายุยังไม่ถึงหนึ่งร้อยปี
นี่มันพรสวรรค์น่าหวาดกลัวอันใด บรรลุระดับอรหันต์ได้ก่อนอายุหนึ่งร้อยปี?
แต่แล้วสิ่งต่างๆ ก็เปลี่ยนไป เมื่อศิษย์ที่อรหันต์ถัวรับมาจู่ๆ จิตใจก็แปรเปลี่ยนไปในทันทีหลังจากบรรลุระดับอรหันต์ และทำแม้กระทั่งลงมือกับอรหันต์ถัว
ในที่สุดศิษย์คนนี้ก็กลายเป็นมารพุทธะที่ต้องการจะทำลายวัดเส้าหลิน!
ซูฉินเงียบไปเมื่อเห็นสิ่งเหล่านี้
แม้ซูฉินจะรู้เรื่องราวผ่านบันทึกโบราณของวัดเส้าหลินมาบ้างแล้วว่ามารพุทธะที่เกือบจะทำลายมรดกโลกอันยืนยาวอย่างเส้าหลินเมื่อเก้าร้อยปีก่อนเป็นศิษย์ของวัดเส้าหลินเอง
แต่ซูฉินไม่ได้คาดคิดว่ามารพุทธะไม่เพียงแค่เป็นศิษย์วัดเส้าหลินเท่านั้น แต่ยังศิษย์สายตรงของอรหันต์ถัวในยามนั้นด้วย
อรหันต์ถัวเป็นถึงอรหันต์แห่งยุค มีสถานะสูงส่งแค่ไหนในวัดเส้าหลิน?
มารพุทธะมีฐานะเป็นศิษย์สายตรงของอรหันต์ถัว น่าจะเรียกได้ว่าเป็นอันดับสองของวัดเส้าหลินรองลงมาจากอรหันต์ถัวในตอนนั้น
“ไม่แปลกใจไยอรหันต์‘ถัวอา‘จึงรู้สึกผิด”
“ปรากฏว่ามารร้ายที่เกือบจะทำลายวัดเส้าหลินจนสิ้นก็คือศิษย์ที่อรหันต์‘ถัวอา‘ชุบเลี้ยงมากับมือ…”
ซูฉินผ่อนลมหายใจออกมา
ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมอรหันต์ถัวจึงเลือกที่จะพำนักอยู่ที่นี่จนกระทั่งมรณภาพแทนที่จะเป็นวิหารพระสหัสพุทธ
เกรงว่าท่านคงจะละอายต่อบรรพบุรุษในวัดเส้าหลินโดยแท้จริง
ส่วนเรื่องราวหลังจากนั้น ซูฉินทำได้เพียงคาดเดา
เมื่อตระหนักว่าตนไม่เพียงไม่ได้สร้างอรหันต์เพื่ออนาคตอันสดใสให้กับวัดเส้าหลิน แต่กลับสร้างมารร้ายที่จะนำหายนะมาให้กับผู้คนทั้งปวง อรหันต์ถัวจึงไม่ลังเลที่จะปราบมารพุทธะ
แต่สิ่งที่อรหันต์ถัวไม่คาดคิดคือมารพุทธะที่เพิ่งจะก้าวเข้าสู่ขอบเขตอรหันต์กลับมีความแข็งแกร่งเทียบเคียงกับตน
แม้มารพุทธะจะอยู่กึ่งกลางระหว่างพลังสายมารและสายพุทธ แต่เขาก็สามารถเปลี่ยนแปลงพลังงานได้ตามประสงค์ เมื่อสู้กับอรหันต์ถัวจึงเป็นต่ออยู่เล็กน้อย
สิ่งนั้นทำให้อรหันต์ถัวตัดสินใจปราบมารพุทธะด้วยทุกสิ่งที่ตนมี โดยไม่สนว่าราคาที่ต้องจ่ายออกไปมากมายเพียงใด
ไม่เช่นนั้นหากปล่อยให้มารพุทธะเติบโตไปมากกว่านี้สักหลายสิบปี จะมีใครในยุทธภพที่ปราบเขาได้อีก?
สุดท้ายจึงต้องยอมสละพลังชีวิตร้อยปีที่เหลือกระตุ้นฝ่ามือยูไลเพื่อปราบมารพุทธะ
หลังจากที่อรหันต์ถัวรู้ว่าจะอยู่ได้อีกไม่นาน จึงรีบหาสถานที่ที่จะอยู่ในช่วงสุดท้ายของชีวิต
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]