เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] นิยาย บท 95

Sign in Buddha’s palm 95 เทศกาลโคมไฟที่เมืองฉางอัน

เมืองฉางอัน

ในเวลานี้เป็นเทศกาลโคมไฟ และจะเห็นโคมไฟเปล่งประกายสว่างไสวสร้างความสวยงามให้กับเมืองฉางอันทั้งเมือง

ที่ด้านบนหอชมดาว

จักรพรรดิถังได้เชิญเหล่าขุนนางมารวมตัวกันที่นี่ นั่งจิบเหล้าเลิศรส ชื่นชมท้องฟ้าที่พร่างพราวไปด้วยโคมไฟ

องค์ชายทั้งหลายมารวมตัวกันที่นี่ รวมถึงองค์ชายหลี่เชิงด้วย

“เทศกาลช่างหยวน[1]…”

“ข้าไม่รู้ว่าข้าจะได้อยู่เห็นเทศกาลช่างหยวนในครั้งต่อไปหรือไม่…”

จักรพรรดิถังมองขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมพึมพำอยู่กับตนเอง

“ฝ่าบาททรงอยู่ยั้งยืนยง เหตุไฉนฝ่าบาทจะไม่ได้อยู่ชมงานเทศกาลในครั้งหน้าเล่าพะย่ะค่ะ…”

เหล่าขุนนางต่างรีบคุกเข่าลงบนพื้น ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบพระพักตร์

“ฮ่าฮ่า…”

องค์จักรพรรดิเหลือบมองไปยังคนเหล่านั้น ใบหน้าของพระองค์แสดงออกถึงอาการเย้ยหยัน “เหล่าขุนนางคงจะพูดถูก ข้าก็แค่พร่ำเพ้อไปตามอารมณ์”

“หยุนเหนียง ข้ารู้สึกว่าพระวรกายของพระบิดาทรงทรุดโทรมลงอีกแล้ว…” องค์ชายหลี่เชิงเหลือบมององค์จักรพรรดิแล้วกระซิบบอกซูเยว่หยุนที่อยู่ด้านข้าง

ใบหน้าอันงดงามของซูเยว่หยุนก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อได้ฟัง เธอส่ายศีรษะแล้วกล่าวว่า “เจ้าไม่สามารถพูดเรื่องเช่นนี้ที่ด้านนอกได้”

เจ้าชายหลี่เชิงถอนหายใจเบาๆ

เหตุใดเขาจะไม่รู้ความจริงข้อนี้

เหล่าขุนนางต่างสรรเสริญว่าบารมีของพระบิดาจะดำรงอยู่ตลอดไป แต่เขากลับรู้สึกว่าพระวรกายของท่านนั้นทรุดโทรมลง…

หากมีใครมาแอบได้ยินเข้า แล้วนำมันไปบอกต่อ ย่อมส่งผลเสียอย่างมากต่อตำแหน่งรัชทายาทของเขา

อย่างไรก็ตามหลี่เชิงให้ความสำคัญกับร่างกายขององค์จักรพรรดิถังมากกว่า

แม้ว่าหลี่เชิงจะรู้จักองค์จักรพรรดิเพียงไม่กี่ปี แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าองค์จักรพรรดิปฏิบัติต่อเขาด้วยความจริงใจ

ทั้งแต่งตั้งให้เขาได้เป็นองค์รัชทายาท หมายมุ่งจะมอบบัลลังก์ให้เขาจริงๆ

องค์จักรพรรดิถังปฏิบัติอย่างจริงใจเช่นนี้ หลี่เชิงจะมีจิตใจเช่นขุนนางเหล่านั้นที่พยายามหลอกลวงองค์จักรพรรดิได้เยี่ยงไร

“พระองค์ทรงรู้ดียิ่งกว่าเจ้าเสียอีก”

ซูเยว่หยุนลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วกระซิบบอก “ในห้องนี้ ใครที่ภักดี ใครที่เสแสร้ง ฝ่าบาททรงรู้ดีเสียยิ่งกว่าเจ้า”

“ตอนนี้เจ้าเพียงทำหน้าที่ของตนให้ดี พยายามรักษาตำแหน่งองค์รัชทายาทเอาไว้ให้มั่น ส่วนเรื่องอื่นไม่ต้องคิดให้มากความ เพราะมันไม่ได้มีประโยชน์เลยหากไปคิดถึงมัน”

ซูเยว่หยุนมองไปรอบๆ ลดเสียงของนางลงก่อนจะเอ่ยกล่าวอย่างรวดเร็ว

นับตั้งแต่ที่นางและหลี่เชิงเข้ามาในพระราชวังตะวันออก องค์จักรพรรดิถังมักจะมาเยี่ยมเยียนพวกเขาบางครั้งบางคราว แม้ซูเยว่หยุนจะไม่ได้พูดคุยกับองค์จักรพรรดิมากนัก แต่นางก็พบว่าพระองค์ชราภาพจนขาข้างหนึ่งก้าวเข้าไปอยู่ในโลงแล้ว นอกจากนี้นางยังเชื่อว่าพระองค์รู้สถานการณ์ทั้งหมดอย่างชัดเจนและทรงมองเห็นสิ่งต่างๆ ได้ละเอียดยิ่งกว่าใคร

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

จักรพรรดิดูไม่ได้สนใจไยดีอะไร และรีบยุติงานเลี้ยงลง

เหล่าเจ้าหน้าที่และข้าราชบริพารต่างพากันกลับบ้านของตน ซูเยว่หยุนลังเลอยู่พักหนึ่งก่อนจะก้มหน้าไปทางหลี่เชิงแล้วกล่าวว่า “พ่อกับแม่ของข้ากำลังรอข้าอยู่ที่บ้าน วันนี้ข้าคงไม่ได้กลับไปที่วัง”

“ตกลง”

องค์ชายหลี่เชิงพยักหน้า

ในช่วงเทศกาลโคมไฟ ซูเยว่หยุนต้องการจะกลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลซูเพื่อจะได้พบกับเหล่าญาติ เขาจะรั้งนางไว้ได้อย่างไร

“ข้าคงไม่ได้ไปด้วย เกรงว่ามันอาจจะรบกวนเจ้าเกินไป”

องค์ชายหลี่เชิงนั้นมีไหวพริบ

ไม่ว่าจะอย่างไรเขาก็เป็นถึงองค์รัชทายาทแห่งราชสำนัก หากเขากลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลซูพร้อมกับซูเยว่หยุน เกรงว่าตระกูลซูคงจะไม่ได้ใช้เวลาไปอย่างแสนสุขในเทศกาลโคมไฟนี้

หลังจากนั้นทั้งสองก็แยกจากกัน ซูเยว่หยุนมุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์ตระกูลซู

เนื่องจากซูเยว่หยุนเป็นพระชายาของรัชทายาท ตระกูลซูจึงกลายเป็นพระญาติกับองค์จักรพรรดิ และได้รับพระราชทานคฤหาสน์มาจากพระองค์

คฤหาสน์หลังนี้ก็คือคฤหาสน์ตระกูลซู

“ท่านพ่อ ข้ากลับมาแล้ว”

ซูเยว่หยุนลงจากเกี้ยวแล้วเข้าไปในคฤหาสน์

“หยุนเอ๋อเจ้ากลับมาเสียที ข้ารอเจ้าอยู่นานแล้ว” ซูชื่อหมิน หัวหน้าตระกูลซูเดินมาพร้อมกับกล่าวคำต้อนรับด้วยรอยยิ้ม

ฮูหยินสกุลซูยืนขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าเช่นกัน

“น้องเล็ก ในที่สุดเจ้าก็กลับมา”

สองพี่น้องตระกูลซูโบกมือทักทายให้กับซูเยว่หยุน นางเอกก็ทักทายพวกเข้ากลับไป

ทุกคนนั่งลงอย่างรวดเร็ว พร้อมที่จะนั่งรับประทานอาหารและพูดคุยกัน

“น้องเล็ก ฝ่าบาทได้เชิญเจ้าไปที่หอชมดาวเพื่อเพลิดเพลินกับโคมไฟละลานตา มันจะต้องสวยงามมากเป็นแน่ใช่หรือไม่?” ซูเฉิงฮ่าวพี่ชายใหญ่ตระกูลซูกล่าวด้วยความอิจฉา

หอชมดาวเป็นอาคารที่สูงที่สุดในเมืองฉางอัน ตามตำนานได้กล่าวไว้ว่าจะสามารถเห็นทิวทัศน์ทั้งเมืองฉางอันได้จากที่นั่น

“สวยหรือ?”

ซูเยว่หยุนส่ายศีรษะ “ข้าคิดว่าการชมโคมไฟที่นี่น่ะ สวยที่สุดแล้ว…”

“เอาล่ะ เฉิงฮ่าว น้องของเจ้าเพิ่งจะกลับมา เจ้าเป็นพี่ใหญ่ อย่าได้พูดเรื่องพวกนั้นเลยน่า”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]