เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm] นิยาย บท 97

Sign in Buddha’s palm 97 วังหลวงอันมั่งคั่ง

ในที่สุดซูฉินก็ตกลงตามข้อเสนอของซูเยว่หยุน

จุดประสงค์ในการมาเยือนเมืองฉางอันในครั้งนี้แต่เดิมก็เพื่อหาสถานที่ลงชื่อเข้าใช้แห่งใหม่ที่ไม่สามัญธรรมดาอยู่แล้ว และเมื่อมองไปทั่วทั้งฉางอันก็มีเพียงวังหลวงของอาณาจักรแห่งนี้เท่านั้นที่สามารถมี ‘เต๋าสะสม‘ จำนวนมากได้

ท้ายที่สุดเมืองหลวงอันเก่าแก่อย่างฉางอันที่อยู่ยั้งยืนยงมาตั้งสิบราชวงศ์ ก็ถูกบูรณะซ่อมแซม สร้างใหม่หลายต่อหลายครั้งหลังจากผ่านเวลามาหลายพันปี มีเพียงวังหลวงเท่านั้นที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้จนถึงปัจจุบันนี้

ด้วยความแข็งแกร่งของซูฉินในขณะนี้ เว้นไว้แต่มีตำนานยุทธอยู่ภายในรั้วในวัง การแอบเข้าไปภายในก็ทำได้ง่ายเหมือนกับเพียงการกินดื่มอาหาร

แต่อย่างน้อยการมีตำแหน่งตัวตนก็ทำให้ซูฉินมีเหตุผลที่จะเข้าออกจากวังได้อย่างอิสระในอนาคต

“ได้เลย”

“ข้าจะคุยกับฝ่าบาทเมื่อข้ากลับไปคืนนี้”

ซูเยว่หยุนกังวลใจอย่างมากเกี่ยวกับการงานของพี่ชายสามของเธอ และหลังจากกลับไปที่พระราชวังตะวันออกเธอก็แจ้งให้องค์ชายหลี่เชิงทราบ

องค์ชายหลี่เชิงตอบตกลงโดยไม่มีแม้แต่ความลังเลใจ

เนื่องจากซูฉินเป็นพี่ชายคนที่สามของซูเยว่หยุน นั่นก็คือ ‘พี่เขยคนเล็ก‘ หลี่เชิงย่อมยึดถือเป็นคนในครอบครัว เป็นธุระส่วนตัวที่เขาจะไม่ปฏิเสธ

วันถัดมา ซูฉินย้ายเข้าไปในพระราชวังตะวันออกโดยไม่มีอุปสรรคใด

และเพื่อที่จะ ‘เอาอกเอาใจ‘ พี่เขยอย่างซูฉิน องค์ชายหลี่เชิงได้จัดแจงตำหนักชุนฝั่งขวาของพระราชวังตะวันออกให้แก่ซูฉิน

“สมแล้วที่เป็นเมืองหลวงเก่าแก่ถึงสิบราชวงศ์ แทบจะสมบูรณ์แบบไปเสียหมดทั้งในแง่การวางผังและด้านอื่นๆ…”

ซูฉินยืนอยู่ในห้องใต้หลังคาของตำหนักชุนฝั่งขวา มองไปที่วังหลวงทั้งหมดและแอบพยักหน้าเล็กน้อยภายในใจ

เมื่อเทียบความแตกต่างกับวัดเส้าหลิน วังหลวงเป็นสถานที่คนละรูปแบบกัน ทั้งสง่างามและทรงอำนาจ ทุกซอกทุกมุมเผยให้เห็นความสูงส่งของอาณาจักร

“หวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง…”

แววจางๆ ที่สื่อถึงความคาดหวังปรากฏขึ้นในดวงตาของซูฉิน

เวลาผ่านเลยไป

หนึ่งเดือนผ่านไปในพริบตา

หนึ่งเดือนมานี้ซูฉินก็ไปเยี่ยมชมในพื้นที่ส่วนเล็กๆ ภายในราชวัง

แน่นอนว่าซูฉินไม่ได้คาดหวังอะไรมาก

แต่วังหลวงก็ยังมีที่ให้เขาลงชื่อเข้าใช้ได้

และสิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้กับซูฉิน สถานที่ลงชื่อเข้าใช้ในวังหลวงนั้นมีมากกว่าวัดเส้าหลินเสียอีก

ในวัดเส้าหลิน สถานที่ที่ซูฉินลงชื่อเข้าใช้ซ้ำได้หลายๆ ครั้ง คือ หอคอยสะกดมาร ศาลาพระคัมภีร์ และลานโพธิ์

แต่ในวังหลวง อย่างน้อยก็มีสถานที่ถึงห้าแห่งที่ซูฉินสามารถลงชื่อเข้าใช้ได้อย่างต่อเนื่อง

ที่กล่าวว่าอย่างน้อยก็เพราะพระราชวังนั้นมีขนาดใหญ่โตเกินไป

ยังมีอีกหลายสถานที่ที่ซูฉินไม่ได้ไปลงชื่อเข้าใช้ ดังนั้นจึงบอกได้เพียงว่า อย่างน้อยที่สุด

สถานที่ปัจจุบันที่ซูฉินได้ลงชื่อเข้าใช้ ได้แก่ ห้องโถงชีวิตนิรันดร์ หอชมดาว ตำหนักไท่จี๋[1] จัตุรัสหยกขาว แท่นบูชาเทพธรณีและการเก็บเกี่ยว[2] และสถานที่อื่นๆ

ตัวอย่างเช่น ในห้องโถงชีวิตนิรันดร์ ซูฉินลงชื่อเข้าใช้และได้รับคัมภีร์ [เคล็ดวิชาลับยืดอายุ]

[เคล็ดวิชาลับยืดอายุ] เป็นความรู้เฉพาะทางของลัทธิเต๋า โดยอ้างว่าสามารถรวบรวมพลังฉีเพื่อเพิ่มอายุขัยหรือยืดอายุให้ยืนยาวออกไปได้

ในทุกรอบร้อยปี จะมีข่าวเกี่ยวกับคนที่โชคดี ได้รับเคล็ดวิชาลับยืดอายุ และสามารถยืดอายุของพวกเขาออกไปได้เป็นสิบปี หรือแม้กระทั่งร้อยปี

สิ่งที่น่าเสียดายก็คือ เกณฑ์ในการเข้าถึง [เคล็ดวิชาลับยืดอายุ] นั้นสูงเกินเป็น จำเป็นต้องมีร่างกายที่มีศักยภาพเข้าถึงธรรมชาติจึงจะสามารถเข้าใจความหมายอันลึกซึ้งของความเป็นหนึ่งเดียวกันของมนุษย์และสวรรค์ภายในคัมภีร์ [เคล็ดวิชาลับยืดอายุ] และมีอายุยืนยาวขึ้นได้

แต่ก็เท่านั้น ร่างกายที่มีศักยภาพเข้าถึงธรรมชาติหายากเพียงใดกัน? บางทีอาจจะมีหนึ่งในล้านคน หายากเทียบเท่าได้กับการจะหายอดปรมาจารย์ระดับชั้นที่หนึ่งสักหนึ่งคน

กล่าวอีกนัย แม้ว่าจะมีคนได้รับ [เคล็ดวิชาลับยืดอายุ] ไป แต่ก็มีโอกาสที่จะไม่สามารถเริ่มต้นฝึกได้อยู่สูงมาก

แต่ซูฉินแตกต่างออกไป

ด้วยการฝังข้อมูลของระบบ เกณฑ์ในการเข้าถึง[เคล็ดวิชาลับยืดอายุ] สามารถถูกละเลยไปได้

ในคืนที่ได้รับ [เคล็ดวิชาลับยืดอายุ] มา ซูฉินก็เริ่มฝึกมันไปเรียบร้อยแล้ว

ในเดือนถัดมา ซูฉินได้ฝึกฝน [เคล็ดวิชาลับยืดอายุ] ไปอย่างรวดเร็วและยืดอายุขัยของตนเองไปอีกสองร้อยปีด้วยอาศัยพลังของระดับอรหันต์

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เข้าสู่ระบบ ‘ฝ่ามือยูไล’ [Sign in Buddha’s palm]