เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊ นิยาย บท 8

ซ่งเจิ้นไห่ได้ยินพวกเขาสองคนพูดเช่นนี้ก็มองเซียวชุ่นด้วยความหมายลึกซึ้ง ดูออกว่าสถานะในตระกูลเหยาของเขาต่ำต้อยถึงขีดสุด

“ได้ วันหลังฉันจะลองถามดูว่าเขามีเวลาว่างไหม แต่พ่อหนุ่มต้องให้เกียรติฉันด้วย”

เซียวชุ่นกำลังกินอาหารอย่างลอยหน้าลอยตา ได้ยินดังนั้นก็แค่พยักหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย

คนตระกูลเหยาเห็นแล้วรู้สึกอารมณ์เดือดปุดๆ เล่นตัวกับซ่งเจิ้นไห่ คิดว่าตัวเองวิเศษมาจากไหนเหรอ?

หลังจากงานเลี้ยงจบสิ้น ผู้คนก็พากันรายล้อมซ่งเจิ้นไห่กับซ่งหลิงเอ๋อร์หน้าประตูโรงแรม

“พ่อหนุ่ม ฉันไปก่อนล่ะ อีกวันสามฉันจะโทรหานะ” ซ่งเจิ้นไห่จับมือเซียวชุ่น

“ได้ แล้วเจอกัน”

เซียวชุ่นยิ้ม ท่าทางไม่ต้อยต่ำและไม่โอ้อวด จึงต่างจากคนตระกูลเหยาที่เอาแต่ก้มหน้าก้มหน้าอย่างสัมมาคารวะอย่างลิบลับ

“นายท่านซ่งค่อยๆเดินนะครับ” เหยาเจิ้นชูเอ่ยด้วยความนบน้อม

เมื่อส่งคนตระกูลซ่งทั้งสองกลับแล้ว โอหยางเจิ้งก็เอ่ยคำอำลา ก้าวเข้าไปตบบ่าเซียวชุ่นพร้อมกับเอ่ยว่า “พ่อหนุ่ม หวังว่าจะไม่ถือสาเรื่องวันนี้ นายหาเวลามาเที่ยวบ้านโอหยางนะ ฉันจะจัดโต๊ะอาหารเพื่อเป็นการไถ่โทษนะ!”

“นายท่านโอหยางเกรงใจเกินไปแล้ว”

เซียวชุ่นพูดถูไถไปหนึ่งประโยค เขารู้ดีว่าอีกฝ่ายยำเกรงตนกับซ่งเจิ้นไห่ และด้วยความสัมพันธ์ของเขากับเต้าเหยินบัวเขียว จึงพูดเป็นพิธีรีตองไปเท่านั้น

เพราะในนัยน์ตาโอหยางเจิ้งไม่ได้มีความเคารพเฉกเช่นเมื่อมองซ่งเจิ้นไห่

หลังจากแขกทยอยกลับกันหมด เหยาเจิ้นชูก็หน้าเปลี่ยนสีโดยพลัน เก็บรอยยิ้มบนใบหน้า ก่อนจะกล่าวเสียงเย็นเยียบ “เซียวชุ่น ถ้านายท่านซ่งติดต่อมาหา แกต้องบอกฉันนะ ได้ยินไหม?”

“อืม”

เซียวชุ่นมือล้วงกระเป๋ากางเกง พลางตอบเสียงราบเรียบ

เขาไม่ประหลาดใจเลยสักนิดที่คนตระกูลเหยาจะปรับพฤติกรรมที่มีต่อตน แต่ตอนนี้เขาจะไม่ออกจากบ้านตระกูลเหยา เพราะเขามีโอกาสถมเถ เขาจะทำให้คนเหล่านี้เสียใจและขออภัยเขาต่อเรื่องในวันนี้และเรื่องตลอดสามปีที่ผ่านมาจากใจจริง

“ไป”

เหยาเจิ้นชูพูดเสียงเย็นเยียบ จากนั้นก็เดินขึ้นไปนั่งในรถหรูหน้าประตูโรงแรมก่อนใคร ซึ่งมีเพียงลูกหลานในเชื้อสายโดยตรงของเขาเท่านั้น จึงจะมีสิทธิ์อยู่บ้านเก่าแก่ประจำตระกูล

ก่อนหยาวฮั่นจะกลับไปก็ไม่ลืมหันมาพูดกับเซียวชุ่นด้วยรอยยิ้มอำมหิต

“เรื่องวันนี้ มึงจำไว้ให้ดี”

ระหว่างที่พูด ใบหน้าเขาเหมือนจะยังคงเจ็บอยู่ไม่น้อย บวกกับซ่งเจิ้นไห่กับโอหยางเจิ้งเห็นความสำคัญของเขา ตอนนี้เขาจึงเกลียดเซียวชุ่นเข้ากระดูก

ในสายตาหยาวฮั่น สิ่งเหล่านี้ควรเป็นของเขา มีเพียงเขาเท่านั้นที่มีคุณสมบัติได้รับคำชื่นชมเหล่านี้

เหมือนเซียวชุ่นกำลังมองเจ้างั่งก็ไม่ปาน หยาวฮั่นในสายตาเขาเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น

เมื่อผู้คนแยกย้ายกันกลับ

ระหว่างทางกลับบ้าน เหยาเสิ้นทำหน้าที่ขับรถ เซียวชุ่นนั่งด้านข้าง ส่วนหลิวหยุนเซียงกับเหยาเจี้ยนกั๋วนั่งอยู่ด้านหลัง

เมื่อไม่ได้อยู่กับฝูงชน หลิวหยุนเซียงก็เลิกคิ้วถามเสียงแหลม

“เซียวชุ่น รู้จักซ่งเจิ้นไห่ได้ยังไง?”

“เคยช่วยชีวิตที่ธนาคาร”

หัวคิ้วเซียวชุ่นก็ขมวด ก่อนจะตอบใจความกะทัดรัด

หลิวหยุนเซียงกลับพูดเสียงเย็นเยียบ ทำตาขาวมองบน“ถอเหอะ ฉันยังไม่รู้น้ำยาของแกอีกเลย?สารรูปแกจะมีปัญญาเป็นหมอได้ยังไง!ถ้าแกเป็นหมอจริงคงไม่ตกอับขนาดนี้หรอก!”

“ฉันว่าสมองซ่งเจิ้นไห่ต้องมีปัญหาแน่ๆ ถึงได้ต้องตาสวะอย่างแก วันนี้ถือว่าแกโชคดี ถ้าซ่งเจิ้นไห่ไม่มาทำให้เสียเรื่อง แกต้องหย่ากับเสินเอ๋อร์แน่”

ในความคิดของเธอคือ เซียวชุ่นต้องให้ซ่งเจิ้นไห่มาขัดขวางเรื่องหย่าร้างแน่

เหยาเจี้ยนกั๋วหลับตาพักผ่อน เอ่ยเสียงเย็นเยียบ“ก็ไม่ใช่ทั้งหมดหรอก ถ้าสามารถเกาะอำนาจของตระกูลซ่งได้ ตระกูลเหยาก็มีโอกาสไต่เต้าขึ้นไปอีก”

หลิวหยุนเซียงใคร่ครวญดูแล้วจึงเสริมว่า“มีเหตุผล งั้นฉันจะทนแกไปก่อน รอให้เรื่องนี้ผ่านไปแล้วก็หย่าทันทีแล้วกัน”

เหยาเสินได้ยินพ่อแม่พูดจาดูหมิ่นเซียวชุ่นก็รู้สึกไม่ดี ทว่าก็ไม่ได้พูดอะไรสักคำ

เพราะปกติพวกท่านก็มักจะพูดจาเหน็บแนมเซียวชุ่นอยู่ร่ำไป

ทว่าวันนี้เซียวชุ่นต่างจากวันวาน เมื่อเลยสามปี เขาจะมีใจทนฟังถ้อยคำหยามเหยียดได้อย่างไร?

รู้สึกโกรธขึ้งสามส่วน!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊