จากนั้นทุกคนในงานพากันตกตะลึงระนาว ต่างจ้องหน้ากันด้วยความอึ้ง
สิ่งที่ทำให้อึ้งอันแรกคือการมาเยือนของนายท่านซ่ง ต่อมาก็เป็นเหรียญทองแดงของเต้าเหยินบัวเขียว ทั้งสองเรื่องเสมือนค้อนที่ทุบใส่หัวตระกูลเหยาอย่างจัง
คล้ายกับกำลังบอกว่า พวกเขามีตาแต่หามีแววไม่ ทำไข่มุกหลุดลอยต่อหน้าต่อตา
“ถึงของขวัญนี้จะเป็นสิ่งของของเต้าเหยินบัวเขียวแล้วยังไง ผมว่าคงโชคดีเก็บมาจากไหนสักแห่งแน่”
หยาวฮั่นเอ่ยด้วยความไม่สบอารมณ์ เขากุมหน้าที่โดนคุณปู่ตบเมื่อครู่ด้วยความรู้สึกเดือดดาล
สวะทำให้เขาโดนตบหน้า!
หลี่ชุ่นเหลียนกระซิบเสียงเบา“ฉันไม่เชื่อว่าไอ้สวะจะมีวิชาแพทย์ ไม่มีคุณสมบัติเป็นสัตวแพทย์ด้วยซ้ำ ฉันว่าเขาต้องเชิญตาเฒ่าคนนี้สร้างฉากแน่”
ถึงแม้เสียงไม่ได้ดัง ทว่าทุกคนกำลังพากันเงียบอยู่ ดังนั้นจึงได้ยินเสียงอย่างชัดเจน
ซ่งเจิ้นไห่กับเซียวชุ่นไม่มีการแปรเปลี่ยนทางสีหน้า ทว่าเหยาเจิ้นชูกลับหน้าเปลี่ยนสี สบถด่าว่า
“หุบปาก!เธอจะไปรู้อะไร?”
หลี่ชุ่นเหลียนตกใจจนตัวขด หุบปากด้วยความโกรธเคือง จากนั้นก็กลอกขาวมองบนใส่เซียวชุ่น
หลังจากที่เหยาเจิ้นชูด่าหลี่ชุ่นเหลียนเสร็จ ก็รีบหมุนกายเอ่ยกับซ่งเจิ้งไห่ด้วยความนบนอม
“นายท่านซ่งโปรดอย่างถือสาเลย เชิญนั่งเลยครับท่าน” ระหว่างที่พูด เขาก็ผายมือเชิญซ่งเจิ้งไห่มานั่งตำแหน่งตน
คนอื่นไม่รู้ว่าสามพยางค์ของซ่งเจิ้นไห่หมายถึงอะไร แต่เขาจะไม่รู้ได้หรือ?
เมื่อก่อนซ่งเจิ้นไห่เคยโลดแล่นอยู่ในวงการธุรกิจอย่างมีหน้ามีตา เขา เหยาเจิ้นชูกับเหยาเหอฉางยังติดตามคุณพ่อเที่ยวทำการตลาดไปทั่ว
ผ่านมาหลายสิบปี อย่าว่าแต่ไล่ตามตระกูลซ่งให้ทันเลย แต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือ นับว่าก็ยิ่งห่างชั้นกันมากขึ้น
ซ่งเจิ้นไห่ยิ้มพร้อมกับหันหน้ากลับไป ก่อนจะพูดกับเซียวชุ่นว่า“ผู้เพื่อนเซียว มา ฉันว่าพ่อมหนุ่มต่างหากที่คู่ควรนั่งตำแหน่งนี้”
สิ่งเสียง ซ่งเจิ้นไห่ก็ละลายใบหน้าอันแข็งกระด้างของเหยาเจิ้นชู ดึงตัวเซียวชุ่นมานั่งตำแหน่งประธานงานในค่ำคืนนี้ ซึ่งเซียวชุ่นก็ไม่ได้เกรงใจ เริ่มทิ้งก้นลงมาไปดังโป๊ง
ส่วนซ่งหลิงเอ๋อร์นั้นนั่งเบะปากอยู่ด้านข้างคุณปู่ของตน
ซ่งเจิ้นไห่ชี้ไปยังที่นั่งด้านข้างเซียวชุ่นพร้อมเอ่ยว่า“หลิงเอ๋อร์ไปนั่งตรงนั้นสิ”
“คุณปู่!”
ซ่งหลิงเอ๋อร์กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ ทว่ากลับนั่งแต่โดยดี จากนั้นก็ทำท่าดุเชิงน่ารักใส่เซียวชุ่น
เห็นภาพนี้แล้ว เหยาเสินที่อยู่ตรงข้ามเซียวชุ่นตัวแข็งทื่อ รู้สึกบีบหัวใจอย่างไรไม่รู้
นายท่านซ่งจะให้หลานสาวครองคู่กับเซียวชุ่นจริงหรือ?แต่เธอกับเขายังไม่ได้หย่ากันนะ
โอหยางเจิ้งนั่งยิ้มประจบอยู่ด้านข้างซ่งเจิ้นไห่
เมื่อเทียบกับตระกูลซ่งแล้ว ตระกูลโอหยางก็ไม่นับว่าเป็นอะไร
บัดนี้เหยาเจิ้นชูคล้ายกับกินอะไรผิดสำแดง รู้สึกทรมานอย่างยิ่งยวด ทว่าก็ได้แต่นั่งฝืนยิ้มอยู่อย่างนั้น เพราะซ่งเจิ้นไห่อยู่ตรงนี้ เขาคงกระชากตัวเซียวชุ่นไปทิ้งไม่ได้
คนอื่นก็มีหน้าตาไม่อภิรมย์สักนิด นั่งเงียบๆไม่ส่งเสียง บรรยากาศจึงพะอืดพะอมยิ่ง
ณ ขณะนี้ใครยังริอ่านคุยเรื่องหย่าอีก?
เริ่มเข้าสู่โหวดงานเลี้ยงทั่วไปอีกครั้ง และโต๊ะที่เซียวชุ่นนั่งตกเป็นเป้าสายตาอย่างไม่ต้องสงสัย ผู้คนที่ก่อนหน้านี้เอาแต่ดูหมิ่นเขา ตอนนี้ก็ได้มีสีหน้าที่แปรเปลี่ยนไปแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นหนิวจุ้นเผิงผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์ หรือโฮ๋จินหย่งที่เป็นนักธุรกิจด้านบันเทิงตัวยง ตอนนี้หันมายกแก้วยิ้มสอพลอแล้ว
แม้แต่คนโง่ดักดานก็ยังดูออกว่า ซ่งเจิ้นไห่กับเซียวชุ่นมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา หากเข้าไปเยาะเย้ยตอนนี้ก็เท่ากับแกว่งเท้าหาเสี้ยน
หนิวจุ้นเผิงยกสุราขาวใสขึ้นมาหนึ่งแก้ว จากนั้นก็กระแอมเสียงพูด
“เห้อ! ถึงอายุผมจะมากแล้ว แต่สายตาก็ไม่ดีจริงๆ ไม่รู้ว่าคุณเซียวรู้จักกับมหาอำนาจอย่างนายท่านซ่ง ก่อนหน้านี้ได้ล่วงเกินคุณชายเซียวชุ่น ต้องขออภัยด้วยจริงๆ หวังจะคงไม่ถือสากัน ผมขอดื่มหมดเพื่อแสดงความเคารพ”
สิ้นเสียงเขาก็กระดกสุราดื่มจนหมด จากนั้นก็รีบเติมใหม่อีกครั้ง“นายท่านซ่ง ผมของดื่มคารวะท่านครับ!”
ซ่งเจิ้นไห่กลับไม่มีการตอบสนอง กระทั่งหน้าก็ไม่เงย พูดเพียงว่า
“แก่แล้ว ฉันไม่ดื่มเหล้าหรอก”
“คิกคิก!ดีครับ ไม่เป็นไรครับ” หนิวจิ้นเผิงยิ้มหน้าเจื่อน เพื่อกลบเกลื่อนความอึดอัดใจจึงดื่มสุราในแก้วจนหมด จากนั้นก็ปลีกตัวไปอีกด้าน
จากนั้นโฮ๋จินหย่งหมุนดวงตา เปลี่ยนหัวข้อสนทนามายังตระกูลเหยา
“ผมว่าคุณเซียวช่างเป็นคนมากความสามารถจริงๆ คุณเหยากับคุณหยิงหลิวสายตาดีมาก แบบซุนซวนต้องชิดซ้ายเลย”
เมื่อเอ่ยประโยคนี้ออกมา
เหยาเสินกับหลิวหยุนเซียงก็เกิดอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออก อยากหาที่ซอกมุดเข้าไปจริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊
ไม่อัพต่อแล้วเหรอครับ...