ตอนนี้คนตระกูลเหยาทุกคนปิดปากเงียบ
ถ้อยคำที่ซ่งเจิ้นไห่เอื้อนเอ่ย ทุกคนอดสงสัยไม่ได้ว่า ไอ้สวะคนนี้ แท้จริงแล้วได้เก็บซ่อนความเป็นอัจฉริยะไว้?
ซุนกั๋วลี่เห็นบรรยากาศไม่สู้ดีนัก กลัวจะส่งผลต่อเรื่องแต่งงานของลูกชายตน จึงเอ่ยเสียงประชดประชัน “โอ๊ย! เซียวชุ่นจะรักษานายท่านซ่งหายโดยบังเอิญก็ได้ เรื่องนี้พักก่อน มาพูดถึงเรื่องที่เขามอบเหรียญทองแดง?มามอบของห่วยๆในงานวันคล้ายวันเกิดแปดสิบปีได้ยังไง นายจงใจทำให้นายท่านโกรธปวดหัวใช่ไหม?”
ประโยคดังกล่าวเสมือนเครื่องจี้ให้ทุกคนตื่นจากความฝัน
ทันใดนั้นคนตระกูลเหยาดวงตาสว่างจ้า รีบคล้อยตามโดยพลัน เพราะพวกเขาไม่อาจยอมรับว่าสวะในอดีตจะมีพลิกแพลงสถานการณ์ได้
“ใช่ นายจะอธิบายเรื่องเหรียญทองแดงยังไง?ถึงนายจะเป็นหมอยอดฝีมืออย่างที่นายท่านซ่งกล่าว แต่เรื่องมอบของขวัญวันเกิดแย่ๆแบบนี้ ไม่ใช่ว่าจงใจทำลายบรรยากาศวันคล้ายของนายท่านหรอกนะ?”
หยาวฮั่นตื่นเต้นสุดแสน คล้ายกับจับจุดอ่อนของเซียวชุ่นได้
ซ่งเจิ้นไห่กับซ่งหลิงเอ๋อร์ไม่ส่งเสียง พวกเขามาเพื่อขอบคุณเซียวชุ่น ทว่าไม่คิดว่าจะมาตอนที่เกิดเรื่องภายในครอบครัวพอดี
และซ่งเจิ้นไห่ก็แอบหวังในใจว่าเซียวชุ่นจะถูกตระกูลเหยาปลดออกจากการเป็นลูกเขย แบบนั้นเขาก็สามารถฉวยโอกาสได้แล้ว
เซียวชุ่นกลับยิ้มเบาบาง หยิบเหรียญทองแดงบนโต๊ะขึ้นมา “สนใจเหรียญทองแดงขนาดนี้เชียวหรือ?ช่างเถอะ วันนี้ให้พวกดูหมิ่นคนอื่นได้เปิดโลกทัศน์เสียบ้าง”
เขากล่าวจบก็ปล่อยพลังออกจากปลายนิ้วสายหนึ่ง จากนั้นก็ขจัดคราบบนเหรียญได้อย่างง่ายดาย จากนั้นพวกคราบฝุ่นก็ลอยหายไป
จากนั้นรูปลักษณ์ที่แท้จริงพลันเข้าสู่สายตาผู้คน
คล้ายเหรียญทองแดง ทว่าก็คว้ายกับหยกด้วย ถึงจะเป็นสีเขียว แต่ก็วาววับราวกับหยกระดับพรีเมี่ยม และระหว่างนั้นก็เห็นเลือดสดกำลังไหลเวียน
เพียงไม่กี่วินาที ทุกคนก็ต้องเบิกตากว้าง
“อันนี้คือ?”
ซ่งเจิ้นไห่อุทานออกมาทันที จากนั้นก็กระโจนเข้าหาอีกฝ่าย“ผู้เพื่อนเซียว เอ่อ...ให้ตาเฒ่าอย่างฉันดูหน่อยได้ไหม?”
“ไม่มีเหตุผลที่ไม่ได้” เซียวชุ่นรีบนำเหรียญทองแดงให้ ส่วนซ่งเจิ้นไห่ก็รีบรับมา
ยังมีคนตอบสนองอย่างดุเดือด ซึ่งก็คือโอหยางเจิ้ง เขารีบพวยพุ่งเข้าไป ไม่สำรวมกิริยาต่อหน้าซ่งเจิ้นไห่อีกต่อไป แล้วทั้งสองก็มองสิ่งนี้พร้อมกัน
เสี้ยววินาทีที่เห็นชัดเจนแล้ว
รูม่านตาของซ่งเจิ้นไห่หดลงฉับพลัน มือสั่นระริกอย่างควบคุมไม่ได้ ปากพูดตะกุกตะกักว่า“โอ้พระเจ้า!อันนี้ ของสิ่งนี้ทองแดงแปรหยก เลือดกลายทิพย์เซียน!”
โอหยางเจิ้งก็เบิกตาโพล่งโต รีบเสริมขึ้นมาด้วยความทึ่ง
“เจ้าของเหรียญทองแดงคนก่อนต้องเป็นยอดคนแน่ เป็นวัตถุล้ำค่า หากใช้เงินตีมูลค่าก็จะอยู่ที่พันล้าน และฉันก็ซื้อโดยไม่ลังเลไว้เหรียญหนึ่งเช่นกัน นึกไม่ถึงว่า...นึกไม่ถึงว่าคนแก่ไม้ใกล้ฝั่งอย่างฉันจะได้เห็นอีกเหรียญหนึ่ง”
ซ่งเจิ้นไห่นำเหรียญทองแดงในมือพลิกดูด้านหลัง จากนั้นก็เห็นดอกบัวขาวบริสุทธิ์กำลังบานสะพรั่ง ทันใดนั้นหัวใจเขาก็สั่นไหว
หรือว่าวัตถุนี้จะเป็นเครื่องประดับกายตอนที่บุคคลนั้นยังมีชีวิตอยู่?
สองชายชราเงยหน้ามองเซียวชุ่นด้วยความอัศจรรย์ใจ
ท่ามกลางสายตาผู้คน โอหยางเจิ้งผู้เลื่องชื่อโค้งตัวคารวะเซียวชุ่น จากนั้นก็เอ่ยเสียงสั่นเทา “ขอเรียนถามคุณเซียวหน่อยว่าของสิ่งนี้เป็นเครื่องประดับกายของเต้าหยินบัวเขียวหรือเปล่า?”
เพียงประโยคเดียวก็ทำให้เหยาเจิ้นชูหน้าซีดเหมือนไก่ต้ม
มือเหยาเจิ้นชูสั่นสะท้าน จับไม้เท้าไว้แน่นจึงพอจะพยุงตัวเองให้ยืนต่อไปได้ เขาถามด้วยเสียงขมฝาด“พี่โอหยางพูดจริงหรือ?”
หยาวฮั่นไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง หัวคิ้วมุ่นแล้วเอ่ยด้วยวาจาไม่สบอารมณ์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊
ไม่อัพต่อแล้วเหรอครับ...