เข็มเงินทั้งหมดยี่สิบสี่เล่มในมือเซียวชุ่นทยอยลงไปกายสาวน้อย ซึ่งมีน้ำหนักใช้เงิน สามารถฝังทะลุเสื้อได้สองชั้น ทั้งยังฝังโดนจุดด้วย
ระหว่างที่ฝัง เขาได้ส่งชี่แท้ผ่านเข็มเงินเข้าไปภายในร่างกายเด็กหญิงอีกด้วย ถือเป็นการบำรุงรักษาร่างกายของเด็กสาวอีกด้วย
หากสามารถมองเห็นด้านใน จะพบว่าปอดที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักของสาวน้อยค่อยๆหายดี เรียกว่าได้ดึงเด็กคนนี้กลับมาจากประตูยมทูต
ระหว่างที่เซียวชุ่นฝังเข็มอยู่นั้น คนที่เหลือก็รับรู้อย่างโจ่งแจ้ง
ทุกคนคล้ายกับได้ยินอะไรข้างหู ทำให้จิตใจผู้คนเต้นไม่เป็นสำ จากนั้นก็สัมผัสถึงโอกาสที่จะมีชีวิตต่อ
เมื่อเห็นเส้นชีพจรขึ้นลงที่เครื่อง
คุณหมอก็อดอุทานด้วยความตะลึงไม่ได้“เป็นการรักษาที่ยอดเยี่ยมมาก ผมยังไม่เคยเห็นการรักษาแบบแพทย์แผนจีนที่น่าอัศจรรย์แบบนี้มาก่อนเลย!”
แม้แต่ปรมาจารย์เจียงไห่หวางเย๋ก็คงทำแบบนี้ไม่ได้มั้ง?
ระหว่างนี้ เด็กน้อยก็ส่งเสียง จากนั้นก็ค่อยๆฟื้นขึ้นมา
สาวน้อยกะพริบดวงตาสุกใส พลางเอ่ยเสียงนุ่มเบา“ปะป๊า……”
เมื่อได้ยินสองพยางค์นี้ ผู้ชายหน้าประตูรถที่กังวลใจก็ร้องไห้เป็นสายน้ำ ก่อนจะใช้สายตาซักถามมองมายังเซียวชุ่น
เซียวชุ่นดึงเข็มเงินออกจากตัวเด็กน้อยทีละเล่ม จากนั้นก็เอ่ยขึ้นว่า “พ้นขีดอันตรายแล้ว ผมรักษาบาดแผลภายในได้กว่าครึ่งแล้ว แต่บาดทางผิวหนังนั้นต้องรีบส่งไปรักษาที่โรงพยาบาล”
สิ้นเสียง เซียวชุ่นก็ลงจากรถ มอบเด็กผู้หญิงให้หมอดูแลต่อ
ใบหน้าเซียวชุ่นซีดเผือด การฝังเข็มด้วยวิธีวิชาฝังเข็มเหยียนหวงทำให้เขาสิ้นเปลืองพลังงานไม่น้อย ชี่แท้ภายในร่างกายก็ลดลงกว่าครึ่ง
หน่วยแพทย์รีบเข้าไปตรวจสภาพร่างกาย จากนั้นก็ต้องร้องอุทานด้วยความตะลึงอีกครั้ง
เหมือนกับโชเฟอร์รถบรรทุกถังน้ำมันไม่มีผิดเพี้ยน คล้ายกับมีพลังสายหนึ่งอยู่ในกายเด็กผู้หญิง ซึ่งกำลังทำหน้าที่รักษาชีวิตและสมานแผลให้กับเจ้าของร่าง
“ไป รีบกลับโรงพยาบาลกัน”
แพทย์รีบเอ่ยด้วยความตื่นตัวว่า“ญาติคนไข้รีบขึ้นรถเร็วครับ”
ได้ยินดังนั้น ผู้ชายที่รอหน้าประตูรถก็ปาดน้ำตา เขาคุกเข่าลง จากนั้นก็โขกศีรษะให้เซียวชุ่นสามครั้ง
ส่วนเซียวชุ่นที่ตอนนี้รู้สึกเหนื่อยล้าสักเต็มประดา ไม่ทันห้ามการโขกหัวขอบคุณของผู้ชาย
“ขอบคุณหมอเซียนที่ช่วยชิวิต ตอนนี้อาการลูกสาวผมยังน่าเป็นห่วง หากพ้นอันตรายแล้ว ผมจะไปขอบคุณหมอเซียนอีกครั้ง”
สิ้นเสียง ผู้ชายก็รีบลุกขึ้น จากนั้นก็เอานามบัตรสีดำยัดใส่มือเซียวชุ่น
“ถ้าท่านมีธุระก็โทรหาผมได้ทุกเมื่อ ผมหวางเฟิงก็ถือว่ามีฐานะทางสังคมในเมืองเจียงไห่อยู่บ้าง ท่านช่วยลูกสาวผมไว้ ชีวิตของผมก็คือของท่าน”
กล่าวจบ เขารีบขึ้นรถโรงพยาบาลจากไป
เซียวชุ่นกวาดสายตามองนามบัตรลวกๆ จากนั้นก็เก็บเข้ากระเป๋ากางเกง
ซึ่งนามบัตรเขียนชื่อบริษัทและตำแหน่งของเขา โดยมีชื่อว่าหวางเฟิง
เพราะรถโรงพยาบาลมีผู้คนรายล้อม คนตระกูลเหยาทั้งสามจึงถูกบีบอยู่ด้านนอก ต้องเดาเหตุการณ์จากเสียงที่ได้ยิน
เมื่อได้ยินเซียวชุ่นช่วยเด็กผู้หญิงสำเร็จ ในใจเหยาเสินก็สับสนวุ่นวาย
ผู้ป่วยที่แม้แต่หมอก็จนปัญญา ทว่าเซียวชุ่นกลับช่วยชีวิตได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที หากสามารถช่วยชีวิตซ่งเจิ้นไห่ได้โดยบังเอิญ แล้วครั้งนี้ล่ะ?
หรือว่าเซียวชุ่นคือยอดหมอเร้นกาย?
เกิดคำถามมากมายบนหัวเหยาเสิน เธอรู้สึกเหมือนรอบกายเซียวชุ่นมีหมอกปกคลุม มองไม่ได้ จับต้องไม่ได้ เป็นครั้งแรกที่เหยาเสินรู้สึกว่าไม่รู้จักสามีที่แต่งงานกันมาสามปี
เมื่อรถโรงพยาบาลขับออกไป ฝูงชนที่ล้อมเซียวชุ่นก็แยกย้ายกันกลับไป
เห็นเซียวชุ่นที่อ่อนเปลี้ยเพลียแรง เหยาเสินกระอิดกระเอื้อน หลิวหยุงเซียงกลับเอ่ยปากอย่างไม่เกรงใจ
“ใช้ได้นี่แก ปิดบังสักเนี้ยบเลย เมื่อกี้ฉันได้ยินคนอื่นบอกว่าแกใช้เข็มเงินช่วยคน ทำไมฉันไม่ยักรู้ว่าแกไปฝึกเรียนการฝังเข็มตอนไหนเลย?เอาวิธีต้มตุ๋นหลอกคนหรอกมาใช้หรือเปล่า?”
“ผมเป็นอะไรก็ไม่จำเป็นต้องรายงาน”
เซียวชุ่นตอบเสียงราบเรียบ ตอนนี้เขาขี้เกียจคุยมาก อยากหาเวลาฟื้นฟูชี่แท้อย่างเดียว
“กำแหงกันใหญ่แล้ว?”
หลิวหยุนเซียงโกรธขึ้ง เหยาเจี้ยนกั๋วก็พูดเข้าข้างภรรยา
“เซียวชุ่น ทำไมพูดจาแบบนี้? ตอนนี้แกเป็นลูกเขยตระกูลเหยานะ ต้องเคารพทุกคนในตระกูลเหยา”
เซียวชุ่นไม่เงยหน้า สีหน้าเต็มไปด้วยความดูถูก
“ตอนนี้รู้ว่าผมเป็นคนตระกูลเหยาแล้วเหรอ?”
“แก...ปากคอเราะรายมาก” เหยาเจี้ยนกั๋วสะบัดมือด้วยความโมโห ตอนที่เตรียมพูดต่อ
ตำรวจในเครื่องแบบเดินมาหาพวกเขาสี่คน
“ทุกท่านครับ จากนั้นสำรวจสถานที่เกิดเหตุ ผมขอเชิญทั้งสี่ท่านไปให้ปากคำด้วยครับ อยากให้ชี้แจงรายละเอียดของเหตุการณ์หน่อยครับ”
เมื่อได้ยินดังนั้น หลิวหยุนเซียงก็ชี้หน้าด่าเซียวชุ่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊
ไม่อัพต่อแล้วเหรอครับ...