“ถ้าหากคุณโม่ไม่มีธุระอื่นก็อยู่ด้วยกันก่อนก็ได้ครับ”ซือคงเจี๋ยเอ่ยขึ้น
พ่อกำชับเอาไว้ว่าจะต้องต้อนรับดูแลยู่ซูจื่อให้เป็นอย่างดี เมื่อครู่นี้คำพูดของเขาก็มีความหมายอย่างชัดเจนแล้ว ก็คืออยากจะให้สาวสวยอย่างโม่ยี่ไป๋อยู่ด้วยกัน
โม่ยี่ไป๋ยิ้มพลางเอ่ยขึ้น : “ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฉันก็ทำตามนั้นเพื่อเป็นการแสดงความเคารพแล้วกันนะคะ”
มีโม่ยี่ไป๋สาวสวยคนนี้อยู่ด้วยแล้ว บรรดาผู้ชายที่นั่งอยู่ก็อยากจะแสดงเจตนาออกมา บรรยากาศบนโต๊ะอาหารนั้นดูกลมเกลียวกันอยู่ไม่น้อย
โม่ยี่ไป๋คุ้นเคยกับงานแบบนี้เป็นอย่างดี รับมือได้อย่างสบายๆ ทำให้บรรดาผู้ชายกลุ่มนี้มีความสุขกันเป็นอย่างมาก
ในระหว่างนั้นเธอเองก็รู้ ว่านักบวชที่ดูเป็นอมตะท่านนั้น ไม่คิดว่าจะเป็นนักพรตยู่ซูแห่งเขาคงหมิง ปรมาจารย์บู๊แบบนี้เคยได้ยินชื่อเสียงอยู่แล้ว มิน่าล่ะถึงได้ถูกถือเป็นแขกคนสำคัญ
ต้องรู้ว่ายู่ซูจื่ออยากจะได้สัมผัสถึงผู้คนและประเพณีนิยมที่เจียงไห่นี้ เธอก็เป็นฝ่ายที่จะมาเป็นผู้นำทางนี้เอง
นี่ก็นับว่าเป็นการช่วยตระกูลซือคงด้วยเช่นกัน ในขณะเดียวกันเวลานี้เป็นปรมาจารย์บู๊ที่แข็งแกร่งด้วย ทำไมจะไม่ยินยอมกัน?
แต่ถ้าหากมีสาวสวยแบบนี้ยอมมาอยู่ด้วยแล้ว ยู่ซูจื่อก็ย่อมอยากได้เต็มแก่อยู่แล้ว
เช่นนี้ก็ลดความยุ่งยากของซือคงเจี๋ยได้ไม่น้อย เขายังอยากจัดการตระกูลซ่งด้วยกันกับตระกูลเจิ้ง จะส่งต่อให้กับคนอื่นเขาก็รู้สึกไม่วางใจ เวลานี้เห็นโม่ยี่ไป๋เป็นฝ่ายเสนอตัวเอง และยู่ซูจื่อมีสีหน้าท่าทางที่แทบอยากจะได้แบบนั้น ก็เห็นด้วยอยู่แล้ว
ร้านเสื้อผ้าหรูแห่งหนึ่งที่พารค์สัน มอลล์
“ชุดนี้ไม่เลว”
“ชุดนี้ก็ไม่เลวเลยเหมือนกัน”
ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง เดิมทีแล้วเซียวชุ่นมีพื้นฐานที่ไม่เลวอยู่แล้ว เหยาเสินจำได้ถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นที่งานเดินแบบชุดแต่งงานเขาเหมือนกับเจ้าชายขี่ม้าขาวเดินมาหาตัวเอง
เวลานี้แต่ละชุดที่เขาเปลี่ยนเหยาเสินก็อดที่จะตาประกายขึ้นมาไม่ได้ เมื่อก่อนทำไมรู้สึกว่าคนสารเลวคนนี้มีศักยภาพของการเป็นนายแบบ ทุกชุดที่เขาใส่เมื่ออยู่บนร่างของเขาจะให้รสนิยมที่แตกต่างกันออกไป
แม้แต่พนักงานขายในร้านก็ยังพากันเอ่ยชื่นชม : “คุณผู้หญิงคะ รูปร่างแฟนของคุณดีมากจริงๆเลยนะคะ หล่อด้วย ใส่อะไรก็ดูดีไปหมด”
แน่นอนว่าในคำพูดของพวกเธอนั้นก็พูดเกินจริงปนๆกันไปด้วย อย่างน้อยเซียวชุ่นกับเรื่องหน้าตาหล่อนั้นก็ไม่ได้เกี่ยวกันอย่างเห็นได้ชัด เพียงแต่นับว่าพอไปได้เท่านั้น อย่างน้อยที่เหยาเสินมองก็เป็นแบบนี้
สุดท้ายแล้วเธอเลือกเสื้อคลุมขนสัตว์ตัวยาว เสื้อนวมหนึ่งตัว กางเกงลำลองสองตัว ราคารวมหมื่นกว่าๆ
“นี่ท่านผู้นำ ตระกูลเรามีคุณเป็นหน้าเป็นตาคนเดียวก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องเอาผมมาแต่งตัวหรูหราดูดีด้วยหรอก”เซียวชุ่นกล่าว
ไม่ใช่ว่าเขารู้สึกสงสารเงินหรอก เขารู้สึกว่าชุดใหม่ใส่แล้วไม่ค่อยสบายเท่าไหร่นัก สู้ชุดเก่าๆของตัวเองชุดนั้นสบายกว่าเยอะเลย
เหยาเสินกรอกตาใส่เขา เบะปากแล้วเอ่ยขึ้น : “ได้ยังไงล่ะ ไม่ให้คุณแต่งตัวหรูหราดูดีหน่อย แล้วจะไปดึงดูดสายตาคนได้ยังไง คนอื่นคงจะพูดกันว่าภรรยาอย่างฉันใจแคบเกินไปอีก”
เซียวชุ่น : “……..”
หลังจากที่ซื้อเสื้อผ้าให้เซียวชุ่นเสร็จแล้ว เหยาเสินก็ไม่ได้ว่างเช่นกัน ตัวเองก็ซื้อมาสองสามชุด ทั้งสองคนเดินซื้อของกันจนท้องฟ้าเกือบจะมืดลงถึงได้ถือของถุงเล็กถุงใหญ่กลับไปที่รถ
“ในเมื่อออกมาแล้ว ถ้าไม่อย่างนั้นก็โทรไปบอกแม่ ว่าค่ำนี้พวกเราจะทานอาหารกันข้างนอกแล้วกัน”
เหยาเสินคาดเข็มขัดนิรภัยไปพลางเอ่ยไปพลาง
หลังจากที่เซียวชุ่นเห็นด้วยแล้ว เธอก็โทรไปหาหลิวหยุนเซียง จากนั้นทั้งสองคนก็หาร้านอาหารร้านเล็กๆที่นับว่าอบอุ่นทานอาหารมื้อค่ำกัน
ร่างกายของเซียวชุ่นเดิมทีก็ดีกว่าคนทั่วๆไปมากอยู่แล้ว อยู่ช้อปปิ้งกับเหยาเสินเป็นครึ่งวันก็ไม่รู้สึกเหนื่อยเช่นกัน
หลังจากที่ทั้งสองคนเดินออกมาจากโรงแรมแล้ว เขาก็ชี้ไปที่สวนสาธารณะข้างๆแม่น้ำที่อยู่ตรงข้ามกับโรงแรมเล็กๆ : “ไปเดินเล่นไหม เราเองก็คุยกันเรื่องความรักบ้างดีกว่า”
“ไปให้พ้นเลย”เหยาเสินหน้าแดง แม้จะพูดแบบนี้ แต่เท้ากลับเดินไปทางสวนสาธารณะอย่างไม่รู้ตัว
เซียวชุ่นยิ้มแล้วรีบเดินตามไป
อากาศเย็น คนในสวนสาธารณะนั้นไม่เยอะ
บางครั้งก็จะเจอคู่รักกำลังพลอดรักกันอยู่บนเก้าอี้ยาว ทั้งสองจะใช้หางตาชำเลืองมองอีกฝ่ายอย่างไม่ตั้งใจ หัวใจเต้นแรง
ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาเหยาเสินจะมีคนตามจีบมาก แต่กลับไม่เคยได้มีความรักคบใครอย่างเป็นทางการเลยมาก่อน
เซียวชุ่นเองก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ทางด้านของความรู้สึกแทบจะไม่ต่างไปจากพวกปัญญาอ่อนเลย แต่เวลานี้เขารู้สึกมีความสุขมาก ใบหน้ามีรอยยิ้มปรากฏออกมาอย่างไม่รู้ตัว
“หงส์แดงคุณหามาเพื่อให้มาคอยปกป้องฉันโดยเฉพาะใช่ไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊
ไม่อัพต่อแล้วเหรอครับ...