กำลังของเซียวชุ่นทำให้ยู่ซูจื่อตกตะลึงอย่างมาก ยืนนิ่งท่ามกลางลมหนาวกว่าครึ่งชั่วโมงกว่าจะได้สติคืนมา
ตอนที่กลับไป รถตู้สีดำที่โม่ยี่ไป๋พาเขาเที่ยวเล่นเมืองเจียงไห่อยู่นานก็หายไปแล้ว คาดว่ายาน่าจะหมดฤทธิ์แล้ว พอเธอหายดีจึงขับรถออกไปเอง
ก็ดี แบบนี้ก็จะไม่ได้เผชิญหน้ากับเธออีก
จากนั้นเขาก็รีบกลับไปที่ตระกูลซือคง เตรียมเก็บของแล้วกลับไปที่เขา
ในห้องรับแขกลานหน้าบ้านตระกูลซือคง
“อาจารย์ พวกคุณจะกลับไปตอนนี้หรือ?”นักพรตน้อยเห็นเขาเก็บของจึงพูดอย่างสงสัย
“ใช่ พวกเรากลับข้ามคืน”ยู่ซูจื่อพูด
“แต่ท่านไม่ได้บอกว่าพวกเราลงจากเขามาเพื่อช่วยตระกูลซือคงหรอกหรือ?ดูเหมือนจะยังไม่ได้ทำอะไรเลย วันนี้ผมอยู่ที่นี่ทั้งวัน ไม่ได้ออกไปจากประตูเลย”
ยู่ซูจื่อตะลึงเล็กน้อย ใช่ รับเงินแล้ว ก็ต้องจงรักภักดี รับเงินจากเขาเป็นพันล้าน แล้วไปแบบนี้ ตระกูลซือคงจะยอมปล่อยได้ไง
“คุณรออยู่ที่นี่สักพัก ผมจะไปหาเจ้าบ้านตระกูลซือคงแล้วไปเลย”ยู่ซูจื่อพูดกำชับ
พูดจบก็รีบออกไปจากประตูแล้วไปในลานบ้าน
คฤหาสน์ของตระกูลซือคงใหญ่มาก มีจุดพักผ่อนหย่อนใจ มีบ่อน้ำหินปลอมอยู่ ถ้าไม่มีใครนำทางก็อาจหลงได้หากไม่ระวัง
ใต้การนำทางของคนใช้ แป๊บเดียวยู่ซูจื่อก็มาถึงหน้าประตูห้องนอนของซือคงซินหรง
ตอนนี้ซือคงซินหรงหลับไปแล้ว แต่เขาก็กำชับไว้ว่า ตอนนี้เรื่องของนักพรตยู่ซูเป็นเรื่องสำคัญของตระกูลซือคง คนใช้จึงไม่กล้าที่จะละเลย ได้แต่ไปรายงาน
ไม่นานนัก ซือคงซินหรงสวมชุดนอนผ้าไหม สวมเสื้อคลุมเปิดประตูห้องอย่างสั่นๆ พูดด้วยรอยยิ้มอ่อนล้า:“นักพรต ดึกขนาดนี้แล้วมีอะไรด่วนหรือเปล่า?รีบเข้ามาคุยในห้องเถอะ”
ยู่ซูจื่อเป็นคนโลภ ไม่กังวลว่าคนอื่นจะคิดยังไงกับเขา อย่างไรก็ตามคำพูดของเซียวชุ่นกลับเหมือนปลุกคนที่กำลังฝันอยู่ เวลานี้เขาอึดอัดเล็กน้อย พยักหน้าด้วยสายตาซับซ้อน แล้วรีบเดินเข้าไป
พอทั้งสองคนนั่งแล้ว ไม่รอให้คนใช้ยกชามา ยู่ซูจื่อจึงพูด:“พี่ซือคง ที่ผมมานี่เพื่อมาลาคุณ ตอนนี้ผมจะคืนเงินเหล่านี้เต็มจำนวน”
พูดไปก็หยิบบัตรเอทีเอ็มในอ้อมแขนแล้ววางลงบนโต๊ะ ค่อยๆ ดันไว้ตรงหน้าซือคงซินหรง
“ขอโทษจริงๆ ”เขาพูดอย่างรู้สึกผิด
ซือคงซินหรงได้ยิน สีหน้าเปลี่ยนไปทันที พูดอย่างงุนงง:“นักพรต ตระกูลซือคงของผมปฏิบัติกับท่านไม่ดีตรงไหนหรือเปล่า……”
ยู่ซูจื่อส่ายมือแล้วพูดตัดบท:“ไม่ๆ ตระกูลซือคงปฏิบัติต่อผมเหมือนเป็นแขก ก็แค่ตอนนี้ผมฝึกฝนได้พื้นๆ เกรงว่าจะไม่มีอำนาจทำเรื่องใหญ่ๆ ให้ลูกหลานของเจ้าบ้านได้ น่าละอายใจเสียจริงที่คุณมอบหมายหน้าที่ให้”
นักบู๊มักจะมีทักษะสูงไม่ยอมอ่อนให้ใคร คนที่ฝึกบู๊นั้นกล้าหาญโหดเหี้ยมมาตลอด จะไม่ยอมรับว่าตัวเองแย่กว่าคนอื่น
การสู้กันคืนนี้ ถึงแม้ยู่ซูจื่อไม่รู้ว่าเซียวชุ่นคือศัตรูของตระกูลซือคง แต่ก็ทำให้เขาเข้าใจว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน ทำให้เขากลัวมากขึ้น จึงพูดเช่นนี้
“นักพรตถ่อมตัวไปแล้ว ท่านคือปรมาจารย์บู๊รุ่นแรก ถ้าท่านยังทำไม่ได้ แล้วใครจะทำได้”ซือคงซินหรงจงใจพูดเยินยอเขา
ยู่ซูจื่อเป็นคนที่ฉลาด จะถูกหลอกแค่ประโยคนี้ได้ไง
เชาพูดด้วยรอยยิ้ม:“ทำไมพี่ซือคงต้องทำแบบนี้?โลกนี้กว้างใหญ่ คนที่อยู่เหนือกว่าผมมีมากมาย หลานชายคุณเป็นสมาชิกของสมาคมบู๊โบราณ ในนั้นมีปรมาจารย์หลายคนที่อยู่เหนือกว่าผม ถึงแม้ไม่แน่ใจว่าทำไมพี่ซือคงต้องทำตัวใกล้เกลือกินด่างเช่นนี้ แต่ถ้าพี่ซือคงดึงดันที่จะแก้แค้นผมว่าไปหาพวกเขาจะง่ายกว่า”
“และจากที่ผมรู้อาจารย์ของหลานชายคุณเป็นถึง ความแข็งแกร่งของเขาเทียบเท่ากับผมเลย เขาน่าจะล้างแค้นให้ศิษย์ที่รักของตัวเองนะ”ยู่ซูจื่อพูดต่อ
ซือคงซินหรงหัวเราะอย่างขมขื่น:“นักพรตไม่รู้หรอกว่า เพราะว่าสมาคมบู๊โบราณไม่เคลื่อนไหวสักที ผมหมดหนทางจริงๆ ถึงได้ไปเชิญนักพรตแห่งคงหมิงซานมาช่วยเองกับตัว”
เขายืนขึ้นอย่างตัวสั่น แล้วคำนับลึกๆ:“นักพรตได้โปรดช่วยข้าด้วย”
ยู่ซูจื่อครุ่นคิดอยู่นาน แล้วถอนหายใจยาวๆ:“ช่างเถอะ งั้นผมก็จะไปเจอคุณเซียวที่พูดถึงกันเกือบทั่วมณฑลหนิงโจวแล้วค่อยกลับไปละกัน”
ที่เขาลงเขามาครั้งนี้ ส่วนหนึ่งอยากเจอคนนั้นที่เอาชนะนักบู๊ขั้นแปดแห่งสมาคมบู๊โบราณอย่างง่ายดาย แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือเงิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊
ไม่อัพต่อแล้วเหรอครับ...