หิมะด้านนอกยิ่งตกยิ่งหนัก
หิมะตกทั้วท้องฟ้าบดบังทัศนวิสัย ตอนที่เซียวชุ่นเดินเข้ามาที่โถงจัดงานศพ ตระกูลซือคงก็สั่งให้คนคนค่อยๆปิดประตูใหญ่ให้แน่นหนา อย่าปล่อยให้ใครหน้าไหนออกไปได้
อากาศหนาวเย็นยะเยือก คนที่รอการแห่ศพของซือคงซินหรงเห็นว่าช้ากว่ากำหนดแล้วยังไม่เห็นการเคลื่อนไหวใดๆเลย และมีข่าวลือว่างานศพวันนี้ถูกยกเลิก คนส่วนใหญ่ก็แยกย้ายกันกลับไป
“เลื่อนงานศพออกไปได้อย่างไรกัน? อย่างนี้ไม่เป็นมงคลเลยนะ นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะ”
“นั่นน่ะสิ ก็ไม่รู้ว่าข้างในเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
ด้านนอกถกกันเป็นวงกว้าง
“วันนี้ตระกูลซือคงถูกฉันทำลายสิ้นแล้ว!”
เซียวชุ่นมองไปรอบๆ ดวงตาคมราวกับมีด ประกาศก้อง “ฆ่าทุกคนที่เข้ามาขัดขวาง!”
ทุกคนในตระกูลซือคงถูกความหนาวเหน็บเกาะกินในใจ อดไม่ได้ที่จะสั่นด้วยความหวาดกลัว ส่งสายตาอ้อนวอนไปยังโจ๋วจือหยวน
“งั้นก็ผ่านด่านข้าไปให้ได้ก่อนเถิด เจ้ามีการฝึกตนเช่นนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย หากเจ้าเดินถูกทาง เจ้าจะมีอนาคตที่สดใสอย่างแน่นอน แต่เจ้ากลับเป็นทรราช หยาบช้าโหดเหี้ยม เป็นภัยฝ่ายเดียว วันนี้ข้าจะเป็นตัวแทนของสมาคมบู๊โบราณกำจัดภัยเพื่อประชาชน”
โจ๋วจือหยวนกล่าวเสียงก้องกังวาน
ตอนนี้เขายังไม่ลงมือ ปรมาจารย์คนนี้มีสีหน้าอับอายขายหน้าอย่างเห็นได้ชัด เขายืนขึ้นพูดเหตุผลแสร้งทำเป็นผู้มีคุณธรรมสูงส่ง
เซียวชุ่นกวาดสายตาไปที่สมาชิกสมาคมบู๊โบราณหลายสิบคนที่ปิดกั้นประตูอยู่แล้วเหยียดยิ้มอ่อน
“หยุดปากว่าตาขยิบซะเถอะ ให้ลูกศิษย์ลูกหาของท่านขึ้นมาพร้อมกันเลย ฉันรีบ”
“อย่ามาหยิ่งยโส!”
โจ๋วจือหยวนสีหน้าเปลี่ยนทันที เขาในฐานะปรมาจารย์ ทั้งยังเป็นเจ้าสำนักสมาคมบู๊โบราณ ไยจึงถูกดูหมิ่นเช่นนี้!
ขณะนี้ ทุกคนในที่นี้ไม่มีใครดูแคลนพ่อหนุ่มคนนี้อีกต่อไป เพียงแค่เกิดความสงสัยในใจ
เจียงไห่มีบุคคลที่โดดเด่นขนาดนี้ จนทำให้โจ๋วจือหยวนลงมือได้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?
แม้เป็นเช่นนี้ แต่ก็ไม่มีใครคาดหวังว่าเขาจะเอาชนะโจ๋วจือหยวนได้ ในใจแสนเสียดาย นักบู๊ชั้นยอดเช่นนี้ เมืองเล็กๆอย่างเจียงไห่ สิบปีหรือกี่สิบปีจะได้เห็นสักคน
“น่าเสียดาย วันนี้เจอกับปรมาจารย์โจ๋วว ถ้าเก็บตัวฝึกตน ภายหน้าต้องประสบความสำเร็จมากแน่”
หนึ่งในฝูงชนที่เข้าใจเรื่องนักบู๊กล่าว
การประลองของนักบู๊ชั้นยอด กำลังจะเกิดขึ้น ดูจากระดับความตึงเครียดของทั้งสองฝ่ายแล้ว เกรงว่าจะทำให้คนหนุ่มอย่างเซียวชุ่นโชคร้ายมากกว่า
สองปู่หลานตระกูลซ่งก็ปาดเหงื่อเป็นกังวลแทนเซียวชุ่น ใจเต้นแรงเหมือนจะทะลุออกมาจากอก
“คุณปู่ คิดว่าท่านอาจารย์จะเอาชนะโจ๋วจือหยวนได้ไหม?” ซ่งหลิงเอ๋อร์ถามอย่างระมัดระวัง
“การบู๊ที่เซียวชุ่นฝึกฝนมาแทบจะไม่เหมือนคนอื่นเลย บนร่างกายเขาดูไม่ออกสักนิดว่ามีร่องรอยของการฝึกฝน ฉะนั้นปู่เองก็ไม่แน่ใจ”
ซ่งหลิงเอ๋อร์เม้มปากแน่น พูดอ้อมแอ้มๆ : “ถ้าหากว่า...ท่านอาจารย์เอาชนะไม่ได้ หนูอยากไปช่วย...”
ซ่งเจิ้นไห่ท่าทางสง่างาม ตบหลังมือน้อยของเธอเบาๆ : “ปู่เอาอยู่ หลานสบายใจเถอะ แต่ก็ต้องทำตามกำลังของตนไม่ทำเกินตัว”
ซ่งหลิงเอ๋อร์หน้าแดงเรื่อ พยักหน้าน้อยๆ
เคร้ง! เคร้ง! คร้ง!
ทุกก้าวที่โจ๋วจือหยวนก้าวออกไป พื้นกระเบื้องใต้ฝ่าเท้าของเขาแตกเป็นเสี่ยงๆทันที พื้นดินสั่นสะเทือนด้วยเสียงฝีเท้าของเขา และในขณะเดียวกัน ดูเหมือนว่ามีลมแรงพัดวนรอบตัวเขา
นี่คือพลานุภาพของปรมาจารย์!
ผู้คนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น การได้เห็นปรมาจารย์โจ๋วลงมือ วันนี้ถือเป็นบุญตา และมันก็คุ้มค่ากับการเดินทาง
คนในตระกูลซือคงเกือบจะลืมไปแล้วว่าวันนี้เป็นวันแห่ศพของซือคงซินหรง แล้วก็ลืมไปแล้วว่าเมื่อครู่ซือคงอานหมิงเพิ่งถูกยิงตาย
สายตาที่โกรธเกรี้ยวจับจ้องไปที่เซี่ยวชุ่นโดยตรง รอจังหวะที่เขาถูกโจมตีให้ล้มลง พวกเขาก็จะได้ระบายความเกลียดชังที่หลั่งไหลมาที่ตัวเขา
หงส์แดงยกปืนเล็งไปที่โจ๋วจือหยวน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊
ไม่อัพต่อแล้วเหรอครับ...