เซียวโจคิดอยู่พักหนึ่ง
สมาคมชิงจุนโดยทั่วไปแล้วจะดำเนินกิจกรรมภายในขอบเขตในเจียงไห่ ยังไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหว้ยฮุยเป็นการชั่วคราว อีกทั้งที่เขารู้ ตระกูลเซียวก็ติดตามสมาคมชิงจุนด้วยเช่นกัน เขาเองก็ไม่เคยไปมาหาสู่กับรองเจ้าสมาคมท่านนี้มาก่อนเลยอีกด้วย วันนี้ทำไมจู่ๆก็มาหาถึงที่กัน?
หรือว่าสมาคมชิงจุนอยากจะยืมกำลังของตระกูลเซียวมาขยายอำนาจพัฒนามาถึงเหว้ยฮุยกัน?
นี่คงอยากจะใช้ตัวเองมาพัฒนาสร้างความสัมพันธ์กับตระกูลเซียว
เขาหัวเราะเบาๆพลางเอ่ยถาม : “ของขวัญอะไรครับ?”
คนที่มาหยิบบัตรสีทองออกมาจากตรงหน้าอก แล้วยื่นส่งให้อย่างนอบน้อม : “บัตรใบนี้สามารถใช้จ่ายได้ทุกที่ในขอบเขตของอำเภอฉีได้ตามใจชอบเลยครับ ค่าใช้จ่ายในการเดินทางของคุณเซียวครั้งนี้จะรับผิดชอบโดยสมาคมชิงจุนทั้งหมดครับ”
เมื่อคำพูดนี้ออกมาแล้ว ก็เป็นที่ฮือฮาขึ้นมาในทันที
อำเภอฉีถึงแม้ว่าจะเป็นอำเภอเล็กๆ แต่จะพยายามใช้นั้น ก็เป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถดูถูกได้เลยเช่นกัน สมาคมชิงจุนนี่มีการดำเนินแผนการที่ใหญ่โตมากจริงๆ
เซียวชุ่นเดิมทีที่รู้สึกลังเลอยู่บ้าง แต่รับรู้ถึงท่าทางที่ดูศรัทธาเลื่อมใสของคนตระกูลหลิวที่มีต่อเขาแล้วนั้น ก็รับมาด้วยความใจกว้าง : “ฝากขอบคุณเจ้าสมาคมตู้ด้วยนะครับ”
“คุณเซียวเกรงใจกันเกินไปแล้วครับ ต่อไปไม่กล้ารับรองว่าจะต้องได้พึ่งพาอาศัยคุณเซียวอีก แสดงความเคารพด้วยของขวัญเล็กๆน้อยๆครับ” คนที่มาเอ่ยขึ้น
เซียวโจพยักหน้าลง : “ครับ ถ้าหากต้องการตรงไหนก็ออกปากมาได้เลยครับ”
ในใจเขานั้นกลับรู้สึกไม่สบายใจอยู่บ้าง ว่ากันตามหลักการแล้วความสามารถของสมาคมชิงจุนนั้นแข็งแกร่งกว่าตระกูลเซียวของพวกเขามาก แต่ทว่าคิดอยากจะยืมอำนาจของตระกูลเซียวเข้ามายังเหว้ยฮุยก็ไม่จำเป็นต้องมาสรรเสริญเยินยอแบบนี้เลยเสียด้วยซ้ำ
ตอนที่ทั้งสามคนของตระกูลเหยาได้ยินว่าเป็นสมาคมชิงจุนนั้น ก็นึกถึงคืนวันนั้นที่ให้เช็คสองพันล้านกับเซียวชุ่นขึ้นมาในทันที เป็นเจ้าสมาคมชิงจุนจวงจิน จึงมองไปทางเซียวชุ่นอย่างไม่ได้นัดกันเอาไว้
เซียวชุ่นเองก็รับรู้ได้แล้วเช่นกัน จึงยิ้มออกมาอย่างมีความหมายให้กับพวกเขาพลางส่ายหน้า
ตระกูลเหยาทั้งสามคนนั้นไม่รู้ว่าในใจเขานั้นมีความคิดหรือแผนการอะไร แต่ในเมื่อเซียวชุ่นไม่อยากให้พวกเขาเปิดเผยออกมา พวกเขาก็ทำได้เพียงต้องอึดอัดแบบนั้น
หลังจากที่คนที่มาออกไปแล้ว
“ตอนนี้มองเห็นความแตกต่างแล้วใช่ไหม? แม้แต่สมาคมชินจุนยังต้องมาประจบคุณชายเซียวเลย เพราะฉะนั้น พวกเธออย่าเอาเซียวชุ่นมาเทียบกับเขา เป็นการดูถูกคุณชายเซียวมากจริงๆ”
“ไม่ใช่เลย คนไร้ประโยชน์จะมีสิทธิไปเทียบกับคุณชายเซียวได้อย่างไรกัน คอยถือรองเท้าให้เขายังไม่คู่ควรเลยเสียด้วยซ้ำ”
เซียวโจยกข้อมือขึ้นมา ทั้งตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจที่จะเผยให้เห็นนาฬิกาข้อมือของเขาที่มีราคาเป็นแสนของตัวเอง และยังมีบัตรทองที่อยู่ในมืออีก และแสร้งทำเป็นพูดถ่อมตัว : “ทุกคนชมกันเกินไปแล้วครับ ความจริงก็อย่างที่เมี่ยวเจินบอกไป บริษัทของผมเองมีกำไรปีนึงก็ไม่กี่ล้าน ที่เหว้ยฮุยก็นับว่าไม่ได้เป็นกิจการที่ใหญ่โตอะไร สมาคมชิงจุนนี่ก็คงจะเห็นแก่หน้าของพ่อผมอย่างแน่นอนครับ”
“คุณชายเซียวไม่ต้องถ่อมตัวหรอก ปีนึงไม่กี่ล้านนี่ก็เก่งกว่าบางคนไม่รู้ตั้งกี่เท่าแล้ว”หลิวม่านเซียงเหลือบมองเซียวชุ่น
“เอาล่ะ พูดถึงคนไร้ประโยชน์นี่กันตลอดทำไมกันคะ” หลิวเมี่ยวเจินยิ้มพลางเอ่ยขึ้น
“ที่รักคะ สมาคมชิงจุนให้บัตรใบนี้พวกเรามา เงินนี่พวกเราไม่ใช้ก็สูญเปล่า พรุ่งนี้พาพ่อแม่ของพวกเราไปซื้อของเป็นอย่างไรคะ? พอดีจะช่วงตรุษจีนด้วย ซื้อพวกของใหม่ที่ยังไม่ได้ซื้อเติมให้ครบเลย”
“ไม่มีปัญหาอยู่แล้วครับ”
เซียวโจยิ้มออกมาอย่างทะนงตัว มองไปทางเหยาเสินและเซียวชุ่นพลางเอ่ยขึ้น : “พี่กับพี่เขยพรุ่งนี้ก็ไปด้วยกันสิครับ ในเมื่อเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว ถ้าพวกพี่ชอบอะไร ผมจะได้ช่วยจ่าย”
“พวกเราไม่ไปหรอก ในบ้านไม่มีขาดอะไร พรุ่งนี้พวกเราอยากจะพักผ่อนซักวันน่ะ”เหยาเสินเอ่ยขึ้น
รู้ว่าพวกเขาอยากจะโอ้อวด ความจริงแล้วเธอไม่อยากจะมาเล่นละครกับพวกเขา เหนื่อยใจ
“พี่ อย่าเลย พี่กลัวที่จะต้องจ่ายเงินใช่ไหม? สามีของฉันก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าเงินพวกเราจะจ่ายให้ พวกพี่แค่ซื้อก็พอ” หลิวเมี่ยวเจินว่า
เหยาเสินยังอยากจะพูดอะไรอีก ก็ถูกเซียวชุ่นตัดบทขึ้นมา : “พวกเราไป”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊
ไม่อัพต่อแล้วเหรอครับ...