“เราสงสัยว่ามีผู้ชำนาญศิลปะการต่อสู้ในหมู่สมาชิกคนสำคัญของลัทธิเทียนเซิ่ง เพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก และเพื่อให้มั่นใจว่าภารกิจนี้จะไม่มีอะไรผิดพลาด เราอยากจะขอความช่วยเหลือจากนาย เมื่อถึงเวลาให้นายช่วยฉันจัดการพวกมัน"
“แม้ว่าเราจะไม่แน่ใจว่าบุคคลนั้นไปถึงระดับใดแล้ว แต่ว่าฝีมือระดับน้องชายแล้วคงรับมือได้ไม่ยาก”
“ลุงซ่ง ไปฆ่าฟันกันในช่วงตรุษจีนมันคงไม่ดีนัก? ฉันต้องไปฉลองปีใหม่กับภรรยาและแม่ยาย” เซียวชุ่นกล่าวอย่างไม่มีทางเลือก
"เพื่อความมั่นคงของสังคม และความสงบสุขของประชาชน จงเสียสละตัวเอง..."
“เฮ้ๆๆๆ อย่าพูดถึงเรื่องนี้กับผม มันไม่ใช่เรื่องของผม” เซียวชุ่นรีบพูดขัดจังหวะเขาทันที
“ทำไมนายไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคมบ้างล่ะ” ซ่งชิงโจวพูดด้วยความโกรธ
“งั้นเอาอย่างนี้ ครั้งหน้าถ้านายอยากเจอลูกสาวของฉัน ฉันจะไม่ห้ามนาย นายว่าไง ?”
เซียวชุ่นพูดไม่ออก คุณห้ามไม่ให้ผมเจอลูกสาวของคุณได้?นอกจากนี้ผมก็ไม่ได้คิดถึงลูกสาวของคุณมากนัก!
อย่างไรก็ตาม เขาขี้เกียจจะเถียงกับซ่งชิงโจวแล้ว ในเมื่ออยู่แต่ในโรงแรมก็น่าเบื่ออยู่แล้ว ไปร่วใสนุกด้วยดีกว่า
เขาพูดเบาๆ : "ตกลง ถ้าอย่างนั้นเมื่อถึงวันปฏิบัติการของพวกคุณก็บอกผมด้วย"
ไอ่เด็กคนนี้ยังสนใจลูกสาวของฉัน ซ่งชิงโจวคิด
แต่ตอนนี้เขาทำได้เพียงเสียสละตัวเอง ใครเล่า ใครให้เขาไม่มีลูกน้องเองล่ะ ภายใต้คำสั่งของเขา มีเพียงไม่กี่คนที่ฝึกศิลปะการต่อสู้ แต่ก็ไม่ได้เก่งมากนัก
“งั้นก็ตามนี้ รอการแจ้งจากฉัน ถึงเวลาฉันจะไปรับนายที่โรงแรม”
"ตกลง"
“ฉันคงไม่กลับเข้าไปบ้านตระกูลหลิว ในเมื่อเป็นงานเลี้ยงของตระกูล ฉันเข้าไปนั่งก็รู้สึกประหม่า” ซ่งชิงโจวกล่าว
คุณไปนั่งที่นั่นจะทำให้พวกเขาประหม่ามากกว่า เซียวชุ่นพูดในใจ
...
หลังจากแยกทางกับซ่งชิงโจวแล้ว เซียวชุ่นกลับไปที่บ้านตระกูลหลิวเดินเข้าไปในห้องโถงและเหลือบมองภาพของนักบุญหญิงที่แขวนอยู่บนผนังตรงหน้าโดยไม่รู้ตัว
ในเวลาเดียวกันเขายังสังเกตเห็นสายตาของทุกคนในตระกูลหลิว บางคนแปลกใจ บางคนดูไม่คุ้นเคย และบางคนก็ดูถูกเหยียดหยาม
“อ้างบารมีผู้มีอำนาจข่มเหงผู้อื่น ยังไงๆ สุดท้ายทุกคนก็ต้องพึ่งพาตัวเอง แม้ว่าเขาจะสนิทสนมกับตระกูลซ่งแล้วจะมีประโยชน์อะไร ยังคงเป็นได้แค่เศษสวะ เซียวโจของเราพึ่งแต่ความสามารถของตัวเองล้วนๆ ไม่มีที่พึ่งแม้กระทั่งคนในบ้าน...”
หลิวเมี่ยวเจินพึมพำด้วยท่าทางที่ไม่พอใจ
แม้ว่าเสียงไม่ดังมาก แต่ก็ทำให้คนรอบข้างได้ยินชัดเจน
เซียวโจแทบทนไม่ไหวที่จะบีบคอผู้หญิงที่อยู่ข้างๆให้ตาย
จากคำพูดของเซียวชุ่นและซ่งชิงโจวเมื่อกี้นี้ก็ฟังออกว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองไม่ได้เรียบง่ายเหมือนอย่างที่เข้าใจ
หากมองย้อนไป คนที่มีสิทธิ์คบกับคนใหญ่คนโตอย่างซ่งชิงโจว จะเป็นแค่คนธรรมดาทั่วไปได้อย่างไร?
หากเป็นปค่ธรรมดาๆอย่างตู่ซิ่งก็ช่าง ในเมื่อเขาเป็นเศรษฐียุคใหม่ที่เริ่มต้นจากรากหญ้า แม้ว่าเขาจะอึดอัดบ้าง แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจ
ซ่งชิงโจวเป็นใคร? คือคนใหญ่ที่สามารถบดขยี้ตระกูลเซียวให้ตายได้เพียงแค่กระดิกนิ้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตระกูลหลิวของพวกเขา แยกแยะความสำคัญไม่ได้เลย
เซียวชุ่นไม่ได้สนใจ ก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้น เจอหน้าแค่เพียงปีละครั้ง ไม่มีความจำเป็นต้องที่ต้องไปเถียงกับเธอ ความจริงแล้วเขาไม่ได้สนใจว่าตระกูลหลิวจะคิดอย่างไรกับเขา .
หลังจบงานเลี้ยงคนส่วนใหญ่ออกจากบ้านตระกูลหลิวด้วยความสงสัย พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าลูกเขยเศษสวะที่พวกเขาเคยเยาะเย้ยในอดีตจะเปลี่ยนไปมากในเวลาเพียงปีเดียว
หลิวหมิงต๋ายังมีทัศนคติที่ดีต่อตระกูลเหยามากขึ้นอีกด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊
ไม่อัพต่อแล้วเหรอครับ...