เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊ นิยาย บท 238

เหยาฮั่นทรุดตัวลงบนเก้าอี้ ในใจราวกับมีไฟสุม เพียงไม่กี่เดือนหลังจากที่ ยู่เหลย อินเตอร์เนชั่นเนลถูกส่งต่อมาอยู่ในมือเขา บริษัทที่มีกำไรมหาศาลก็กำลังจะล้มละลายงั้นหรือ?

หรือฉันมันเป็นคนไร้ค่าจริงๆ?

ณ ธนาคารเจียงไห่ห้องวีไอพี

เหยาเต๋อตะโกนอย่างโกรธจัด : “รองผู้อำนวยการโจวคุณทำอะไรของคุณ? เงินกู้สามสิบล้านหยวนที่สัญญากับทางเราไว้แล้ว อยู่ๆจะกลับคำได้อย่างไร คุณรู้ไหมว่านี่มันจะมีปัญหาตามมามากมายแค่ไหน?”

“ขอโทษครับคุณเหยา ท่านเป็นลูกค้าวีไอพีของธนาคารเรา บวกกับตระกูลเหยาเป็นตระกูลที่มีหน้ามีตาในเจียงไห่ ตามหลักแล้วเงินกู้ก้อนนี้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ผมก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เบื้องบนถึงไม่อนุมัติ ทางนี้ผมทำอะไรไม่ได้แล้ว ขอท่านอภัยให้ด้วย” ชายวัยกลางคนที่ถูกเรียกว่ารองผู้อำนวยการโจวกล่าวขอโทษ

“คุณรู้ไหมว่าตระกูลเหยาของเราปีๆนึงมีเงินฝากในธนาคารของคุณเป็นจำนวนเท่าใร เงินทุนหมุนเวียนประจำปีก็ตั้งหลายร้อยล้าน เหยาเจิ้นชูพ่อฉันมีสนิทกับประธานธนาคารของคุณ การที่คุณทำแบบนี้ ดูท่าว่าคุณไม่อยากจะอยู่ในตำแหน่งรองผู้อำนวยการนี่แล้ว!” หลี่ชุนเหลียนแหกปากอยู่ข้างๆ

รองผู้อำนวยการโจวยังกล่าวยิ้มแย้ม : “ขอโทษทั้งสองท่านจริงครับ ทำไมพวกคุณไม่ให้กงรองของพวกคุณกรุยทางกับประธานธนาคารให้ล่ะครับ? หรือไม่ก็ลองไปที่ธนาคารอื่นดู ยัไงผมก็ไม่มีอำนาจ ช่วยเหลืออะไรพวกท่านไม่ได้จริงๆ”

“ได้ เป็นเสียแบบนี้ จากนี้ตระกูลเหยาของเราจะไม่มีวันมาฝากเงินที่ธนาคารของพวกแกแม้แต่แดงเดียว อย่าว่าคิดจะได้ดอกเบี้ยจากตระกูลเหยาของฉันแม้แต่นิดเดียว!”

“ไปพวกเรา!” หลี่ชุนเหลียนกล่าวด้วยหน้าตาบูดบึ้ง

รองผู้อำนวยการโจวมองตามแผ่นหลังของคนทั้งสองที่จากไป ใบหน้าของเขากลายเป็นเย็นชา ส่งเสียงด่าเบาๆ : “ถุ้ย! มาวางมาดลุกเศรษฐีกับกู อย่าพูดว่าที่นี่ไม่ให้พวกมึงยืม ทั้วทั้งเจียงไห่ถ้ามีธนาคารไหนให้มึงยืม กูจะเขียนนามสกุลตัวเองกลับด้านให้ดู"

“ตระกูลซ่ง ตระกูลเจิ่ง ตระกูลโอหยาง รวมไปถึงสมาคมชิงจุนมีคำสั่งในเวลาเดียวกัน ใครก็ตามที่กล้าให้ตระกูลเหยากู้ยืมเงินทุน จะตัดสัมพันธ์กับธนาคารนั้น เมื่อเทียบกับสามตระกูลนี้ ตระกูลเหยาของแกก็เป็นแค่ขี้ แล้วเงินของแกมันก็เทียบไม่ได้กับขนเส้นหนึ่งด้วยซ้ำ!”

รองผู้อำนวยการโจวเทน้ำแก้วนึง แล้วพ่นคำด่าต่ออย่างโมโห

ทันใดนั้นเขาก็ครุ่นคิดและพึมพำกับตัวเอง : “ตระกูลเหยาเกรงว่าจะไปทำให้ทูตสวรรค์คนไหนไม่พอใจสินะ สามตระกูลใหญ่และสมาคมชิงจุนถึงได้ระดมพลในเวลาเดียวกัน? คงไม่ได้ทำให้ผู้มีอำนาจในเมืองหลวงท่านไหนขุ่นเคืองหรอกนะ?”

ตกกลางคืน ณ บ้านบรรพบุรุษตระกูลเหยา

เหยาเจิ้นชูหน้าดำคร่ำเครียด

เหยาฮั่นยืนก้มหน้าอยู่ด้านข้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความละอายใจ

“ฮั่น แกนี่มันมีความสามรถจริงๆเลยนะ ไม่กี่เดือนทำให้บริษัทดีๆกลายเป็นแบบนี้ไปได้ ถ้าแกไม่ใช่หลานแท้ๆของฉันนะ ฉันคงอยากจะฆ่าแกให้ตาย ทำไมฉันต้องมีหลานอย่างแกวะ เป็นความอัปยศของวงศ์ตระกูลจริงๆ”

ในคำพูดของเหยาเจิ้นชูเต็มไปด้วยความผิดหวังอย่างที่สุด

“คุณปู่ครับ ผมผิดไปแล้ว ผมผิดไปแล้วจริงๆ ให้โอกาสผมอีกสักครั้งเถอะนะครับ ครั้งสุดท้ายแล้ว ผมจะขยันมากกว่าเดิม จะไม่มีทางยุ่งเหยิงอย่างก่อนหน้านี้แน่ครับ” เหยาฮั่นพูดด้วยความกลัว

“ครั้งนี้มีคนสกัดขาผม มันตั้งใจวางกับดักผม”

“เหยาเสิน ใช่ ต้องเป็นเหยาเสินแน่ ผมแย่งตำแหน่งGMของยู่เหลย อินเตอร์เนชั่นเนลมาจากเธอ เธอพูดอยู่ตลอดว่ามันไม่ยุติธรรม ต้องเป็นเหยาเสินแน่ที่ตั้งใจกลั่นแกล้งผม”

“แกยังจะกล้ามาอ้างอีก! มีใครมันบังคับแกให้ไปที่โรงงานนั่นหรือ? มีใครเอามีดจี้คอบังคับให้แกไปไหม?” เหยาเจิ้นชูตำหนิด้วยความที่อยากให้เขาได้ดี

“คุณปู่ ก็ผมอยากเพิ่มกำไรให้บริษัทนี่ครับ โรงงานพวกนั้นพวกนั้นเสนอราคาต่ำกว่าโรงงานอื่นยี่สิบเปอร์เซ็นต์ อีกทั้งตอนนั้นฝั่งนั้นก็ต้องการสินค้าด่วนมาก คำสั่งซื้อล็อตใหญ่ขนาดนั้นถ้าปล่อยไปถึงมือบริษัทอื่นคงไม่ดี” เหยาฮั่นยังสำบัดสำนวนต่อไป

“ไอ้หลานเวร แกยังจะมีหน้ามาพูดอีก!”

เหยาเจิ้นชูโกรธจนตัวสั่น เหยาฮั่นจึงไม่กล้าพูดอะไรอีก

ตอนนี้เหยาเต๋อและหลี่ชุนเหลียนก็รีบกลับมา ความเศร้าเอ่อล้นปรากฏชัดเจน

“เตี่ย แปลกมากจริงๆ ไม่มีธนาคารไหนยอมให้เรากู้เงินเลย จำนองก็ไม่ได้”

เหยาเต๋อเทน้ำใส่แก้วอย่างเหนื่อยหอบ อึก!อึก! เขาดื่มน้ำจนหมดแก้ว แล้วพูดด้วยหน้าเศร้า

“ไอ้พวกตาหมานั่นดูถูกเรา ไม่น่าเชื่อว่าจะมีบางธนาคารอ้างว่าตระกูลเหยาของเราไม่มีความสามารถในการชำระคืน นับว่าเป็นเรื่องตลกใหญ่เลยทีเดียว” หลี่ชุนเหลียนพูดอย่างกระฟัดกระเฟียด

ในไม่ช้าเธอก็จะรู้ว่า ตระกูลเหยาไม่มีความสามารถในการชำระเงินกู้จริงๆ เป็นเรื่องที่ไว้ค่อยพูดในภายหลัง

คิ้วของเหยาเจิ้นชูขมวดเป็นปมแน่น เงียบขรึมไม่พูดอะไร

เหยาเต๋อ : “เตี่ย รีบคิดหาวิธีเถอะ ไม่อย่างนั้นก็โทรหาผู้อำนวยการหลัวอีกทีไหม?”

เหยาเจิ้นชูโคลงศีรษะ : “โทรไปแล้ว เขาไม่ยอมรับสายเลย”

“ไม่นะ นี่มันเรื่องอะไรกัน ปกติคนพวกนี้พะเน้าพะนอเราอย่างกับหมาปั๊ก แล้วตอนนี้ทำไมเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือชั่วข้ามคืนเลยล่ะ?” เหยาเต๋อพูดอย่างุนงงไม่เข้าใจ

เหยาเจิ้นชูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างช้าๆ : “ถ้าไม่ได้ก็ขายอสังหาฯไปซะ ราคาต่ำหน่อก็ไม่เป็นไร ที่สำคัญคือต้องรีบรวบรวมเงินทุน และสร้างบริษัทใหม่ขึ้นมาโดยเร็วที่สุด ความสูญเสียนี้จะชดเชยได้อย่างรวดเร็ว”

“ได้ครับ งั้นพรุ่งนี้ผมจะติดต่อบริษัทนายหน้า แต่ว่าถึงจะขายทรัพย์สินภายใต้ชื่อของเราทั้งหมดที่ไม่ได้ใช้งานไป ก็ยังขาดอีกมากเลยนะครับ” เหยาเต๋อตอบกลับ

เหยาเจิ้นชูลังเลอยู่นาน ก่อนจะกัดฟันพูดว่า : “ถ้ายังไม่พอก็คงต้องขายหุ้น ขอแค่ราคาต่ำพอ โลกนี้ไม่ว่าอะไรก็ขาดแคลน ก็คือไม่ขาดแคลนคนโลภ ฉันไม่เชื่อ ตระกูลเหยาของฉันยังมีความสามารถบีบให้บางธนาคารตายได้อยู่”

“ถ้างั้นผมว่าบริษัทใหม่ไม่ควรอยู่ภายใต้ชื่อของสำนักงานใหญ่” เหยาเต๋อกล่าว

“เอาตามที่แกว่าแล้วกัน”

เช้าวันถัดมา เหยาเต๋อก็เอาอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ภายใต้ชื่อของตระกูลเยาหลายแห่งมาจดทะเบียนกับบริษัทนายหน้า ราคาต่ำกว่าราคาตลาดยี่สิบเปอร์เซ็นต์ เจ็บใจก็เจ็บใจ แต่ก็ไม่มีหนทางอื่นแล้ว

หุ้นสามสิบเปอร์เซ็นต์ก็ถูกนำไปจดทะเบียนที่ศูนย์ซื้อขายหุ้น ราคาก็ไม่สูงเช่นกัน

ผ่านไปสองสามวัน อสังหาริมทรัพย์ก็หลุดออกจากมือไปอย่างรวดเร็ว แต่หุ้นกลับไม่มีใครสนใจ

“เตี่ย นอกจากประธานเวินของบริษัทที่ชื่อว่านฟา อินเวสเม้นท์ที่แสดงความสนใจหุ้นของเราแล้ว นอกนั้น ไม่มีบริษัทลงทุนอื่นใดที่ถามถึงหุ้นของตระกูลเหยาของเราเลย” เหยาเต๋อพูดอย่างยากลำบาก

ตระกูลเหยาไม่ทราบสาเหตุและเรื่องราวของการเปลี่ยนแปลงการถือหุ้นของตระกูลซือคงในขณะนั้น ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ทราบถึงความสัมพันธ์ระหว่างเวินกวงเหลี้ยงและเซียวชุ่น

“แต่...แต่ว่า” เขาพูดแล้วหยุดชะงัก

“แต่อะไร อ้ำอ้ำอึ้งอึ้งเหมือนผู้หญิงไปได้ ตระกูลเหยาของเราไม่ต้องการคนแบบเหยาเจี้ยนกั๋วเพิ่มอีกคนหรอกนะ” เหยาเจิ้นชูพูดอย่างไม่สบอารมณ์

“ฝ่ายนั้นจะให้ราคาแค่ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ของราคาตอนนี้ครับ” เหยาเต๋อกัดฟัน ฝืนพูดออกมา

“ห้าสิบเปอร์เซ็นต์?” เหยาเจิ้นชูยิ้มเย็น

“นั่นก็ไม่ต่างจากการมาแย่งไปเฉยๆน่ะสิ! เหยาซื่อกรุ๊ปของพวกเราไร้ค่าขนาดนั้นหรือ! ไอ้สารเลว! อยากจะมาชุบมือเปิป ไม่มีทางซะหรอก ถึงเราจะลดราคาก็ไม่มีทางลดเยอะขนาดนั้น”

“งั้นเตี่ยคิดว่า...?” เหยาเต๋อถามอย่างระวัง

“ลดราคาลงสามสิบเปอร์เซ็นต์จากราคาตอนนี้” เหยาเจิ้นชูเจ็บใจเป็นอย่างมาก

ถ้าขายไปแล้ว ทรัพย์สมบัติของทั้งตระกูลเหยาลดลงสามสิบเปอร์เซ็นต์ในพริบตา ช่างเป็นการโจมตีที่ใหญ่หลวงนัก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊