กลิ่นหอมจางๆของสาวสวย รวมถึงรูปร่างที่สุดยอดในหมู่สุดยอดของถางชือชือ เป็นผู้ชายก็ล้วนต้องใจเต้นเร็วและรู้สึกปากแห้งอย่างเลี่ยงได้ยาก
เซียวชุ่นก็ไม่มีข้อยกเว้น ที่ให้ถางชือชือหลับตาก็เพียงเพราะไม่ต้องการให้เธอเห็นว่าตัวเองบังเอิญกลืนน้ำลายลงคอ มันจะรู้สึกเขินอายอยู่บ้าง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบรรยากาศที่คลุมเครือแบบนี้ หากรู้แต่แรกก็จะให้ติงเยว่มาดูไว้แล้ว
เขาบังคับจิตใจให้ยึดมั่น ทำตามวิธีการในครั้งที่แล้ว สอดเข็มบางเข้าไปในจุดฝังเข็มที่เกี่ยวข้องด้วยความชำนาญไร้ที่เทียบ
หลังจากนั้นประมาณสิบนาทีก็นำเข็มออก
“เสร็จแล้ว รอสักประเดี๋ยวเดียวคุณให้พ่อของคุณเอาใบสั่งยาที่ผมออกให้เขามอบให้คุณหนึ่งชุด ทำตามใบในสั่งยาอย่างเคร่งครัดครู่หนึ่งก็จะไม่เป็นไรโดยสมบูรณ์แล้ว”
“เหล่าถัง โอนเงินค่ารักษาให้คุณแล้วหรือยัง?” ถางชือชือลุกขึ้นหยิบเสื้อคลุมผ้าไหมบางเบาตัวหนึ่บนไหล่งามแล้วเอ่ยถาม
“ยังเลย คุณเร่งเขาให้หน่อย หนึ่งร้อยล้านเชียวนะ อย่าลืมซะล่ะ” เซียวชุ่นกล่าว
“อย่าเอาเลย บุญคุณที่ช่วยชีวิต ฉันมอบทั้งหัวใจให้เป็นยังไง?” ถางชือชือยักคิ้วอันมีเสน่ห์ขึ้นซึ่งช่างสวยงามมากมายนัก
เซียวชุ่นเหลือบมองเธออย่างช่วยไม่ได้ แล้วลุกขึ้นเดินไปทางด้านนอกประตู
ถางชือชือก็เดินตามไปส่งเขาถึงตรงหน้าประตูเช่นกัน
“พอแล้ว คุณไม่ต้องส่งแล้ว คุณสวมใส่น้อยชิ้น ด้านนอกมันหนาว……”
ครึ่งประโยคหลัง "เพิ่งได้รับฝังเข็มอย่าให้ถูกลม" ยังไม่ทันจะเอ่ย หางตาก็เห็นที่หน้าลิฟต์โถงทางเดินมีร่างที่คุ้ยเคยร่างหนึ่งยืนอยู่
ตอนนี้ในสมองของเหยาเสินว่างเปล่าไปชั่วขณะ หัวใจดวงหนึ่งติดอยู่ที่คอ นี่ถือว่าจับชู้สำเร็จแล้วใช่ไหม?
สำเร็จที่เป็นคำชมเชยทำไมพอใช้ที่นี่ กลับรู้สึกเจ็บปวดใจอยู่บ้างนะ
ชั่วขณะหนึ่งเธอไม่รู้จะทำอย่างไรดี เป็นเหมือนกับผู้หญิงพวกนั้นในข่าว ร้องไห้โวยวายตรงนั้น? หรือว่าเดินเข้าไปตบหน้าเขาสักฉาดดีนะ?
เหยาเสินสติหลุดไปครู่หนึ่ง แล้วหันหลังเดินจากไป
เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่ควรมาในครานี้
ไม่เห็น ไม่รู้ หรือแสร้งทำเป็นไม่รู้ ดูเหมือนว่าจะดีกว่าสถานการณ์ในตอนนี้อยู่บ้าง ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะยังเหมือนแต่ก่อนอย่างนั้นไม่ใช่เหรอ?
ขณะที่เซียวชุ่นกับถางชือชือเห็นเธอก็ตกตะลึง ขณะที่ภายหลังได้ตรวจสอบข้อมูลของสตาร์ไลท์บีโอ ได้เคยเห็นรูปถ่ายของเหยาเสิน
เซียวชุ่นก็งุนงงเล็กน้อย แต่ไม่นานก็ตระหนักถึงความร้ายแรงของสถานการณ์
โดยเฉพาะถางชือชือนังแพศยาคนนี้สวมใส่บางเบาขนาดนี้ ดูสายตาของเหยาเสินเธอจะคิดอย่างไร ยังจะต้องคาดเดาอีกเหรอ? !
“ยืนนิ่งอยู่ทำไม? รีบตามไปสิ” ถางชือชือเอ่ยเตือนขึ้น เธอแค่ชอบแกล้งเซียวชุ่น แต่เธอไม่เคยคิดที่จะเป็นชู้ อย่างน้อยก็ไม่มีความคิดนี้ในตอนนี้
เซียวชุ่นไม่พูดอะไรสักคำ รีบวิ่งไปอย่างรวดเร็วเลย
พอถึงตรงหน้าประตูลิฟต์ เหยาเสินได้ลงลิฟต์ไปชั้นล่างแล้ว
เขารีบวิ่งอย่างบ้าคลั่งไปตามบันไดตลอดทาง ด้วยทักษะของเขากระโดดลงไปจากชั้นบนโดยตรงนั้นไม่ใช่ปัญหา ปัญหาคือมันน่าตกใจเกินไป กระโดดตึกเพื่อไปหาภรรยา อืม……ออกจะเกินไปหน่อยจริงๆ
ทั้งรีบทั้งเร่ง ในที่สุดเขาก็เร่งทันทีตรงทางเข้าห้องโถงใหญ่ของโรงแรม
“เมียจ๋า ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดแบบนั้น คุณเข้าใจผิดแล้ว”
“เซียวชุ่น คุณใช้ได้เลยนะ นี่พึ่งเปลี่ยนตัวตนนานแค่ไหนเอง ก็เริ่มวาดลาดลายแบบนี้เลย คุณไม่รู้สึกผิดต่อเหยาเสินเลยเหรอ?”
เหยาเสินเดินไปที่ลานจอดรถด้วยใบหน้าที่เย็นชาโดยไม่ได้สนใจเขา เวินหว่านยู่เอ่ยปากพูดขึ้น
“ผมกำลังฝังเข็มให้เธอ ไม่ใช่อย่างที่พวกคุณคิดจริงๆ คราวที่แล้วเคยบอกคุณแล้วไม่ใช่หรือ ว่าไปรักษาอาการป่วยให้คนในเมืองหลวง ทั้งเธอกับพ่อถูกวางยา ผมรักษาแค่พ่อของเขาให้หายแล้ว ได้ยินเรื่องที่พวกคุณอยู่ตระกูลเหยาจากในบ้าน ผมก็รีบร้อนกลับมา ยังเหลือฝังเข็มอีกเข็มหนึ่งยังไม่ได้ฝัง ดังนั้นก็……” เซียวชุ่นพูดอธิบายาสะเปะสะปะ
“ดังนั้นจึงแบกคนมาฝังเข็มที่โรงแรมใช่ไหม?” เหยาเสินหยุดก้าว และพูดขัดจังหวะด้วยใบหน้าที่เย็นชา
“คุณลืมว่ามาที่เหลยหยางนั้นเป็นคุณที่ให้ผมมา พูดไปแล้วเรื่องนี้มันยาว กลับห้องแล้วผมจะค่อยๆอธิบายให้คุณฟังได้ไหม?” เซียวชุ่นกล่าว
“ดังนั้นเป็นฉันที่ให้ความสะดวกคุณถึงทำให้คุณนอกใจเหรอ?”
“ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น ไม่ใช่ ผมไม่ได้นอกใจ……ผมให้เธอมาอธิบายด้วยตัวเองก็คงจะได้แล้วสินะ?” เซียวชุ่นทนกับคำถามกลับไปกลับมาซ้ำๆไม่ไหว เขาจึงพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว
“จะมีคนยอมรับว่าตัวเองเป็น ชู้ไหม ?” เหยาเสินจ้องมองด้วยความเกรี้ยวกราดโดยที่หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงไม่นิ่ง เธอไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะมีวันที่ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาแบบนี้
“ไม่มีใครเป็นชู้” เซียวชุ่นพูดด้วยหน้าตาที่ขมขื่น
ผู้หญิงไม่มีเหตุผลขึ้นมานั้นไม่มีเหตุผลเลยจริงๆ เซียวชุ่นเสียแรงไปมากมาย พูดจนปากแห้งถึงได้เกลี้ยกล่อมให้เหยาเสินเข้าไปในห้องพักของโรงแรมได้
ต้วนเจียและติงเยว่ก็เข้ามากันหมดด้วย ขณะที่ติงเยว่มาด้วยกันเหยาเสินนั้นรู้อยู่แล้ว
มีคนสองคนเป็นพยาน ในที่สุดความสงสัยของเหยาเสินถึงได้คลายลงไปบ้าง
ในเวลานี้ถางชือชือนังแพศยานั้นก็ได้เปลี่ยนชุดๆหนึ่งแล้วเคาะประตูเดินเข้ามา
ทันทีที่เธอเข้าประตูมาก็มีท่าทีที่ดูคุ้นเคย แล้วก้าวเข้ามาทักทายว่า "คนนี้คือประธานเหยาสินะ ฉันคือถางชือชือของคุนหลุนกรุ๊ป มีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องเป็นตัวแทนเจรจาต่อรองกับสตาร์ไลท์บีโอของพวกคุณโดยเฉพาะ เมื่อครู่ประธานเซียวกำลังฝังเข็มให้ฉัน คิดว่าเขาคงอธิบายให้คุณฟังแล้ว พวกเราสองคนเป็นแค่เพื่อนที่บริสุทธิ์ใจต่อกัน ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดแบบนี้แน่นอน”
สีหน้าของเหยาเสินดูแปลกเอยู่บ้าง
อย่างไรก็ตามเมื่อดูสีหน้าท่าทีของถางชือชือกลับมองท่าทางขลาดกลัวไม่ออกเลยสีชักนิด โดยพื้นฐานแล้วสามารถเชื่อได้ว่าทั้งสองคนไม่มีอะไรกันจริงๆ
อาจเป็นเพราะตัวเองอ่อนไหวเกินไป หรือว่าฝืนบังคับตัวเองให้เชื่อโดยไม่รู้ตัว
ไม่ว่าอย่างไรเธอในเวลานี้รู้สึกโล่งใจขึ้นมากแล้ว
เหยาเสินพยักหน้าอย่างใจกว้างแล้วยิ้มพูดว่า “สวัสดีค่ะคุณถัง”
เซียวชุ่นเห็นว่าในที่สุดวิกฤตก็ได้รับการคลี่คลายลง ในที่สุดก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
หลังจากที่ทุกคนจากไปหมด หลังจากที่เหยาเสินค่อยๆสงบลง ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าท่าทางที่โมโหโทโสก่อนหน้าของตัวเองดูเหมือนภรรยาที่โกรธเพราะถูกสามีทอดทิ้งพวกนั้นมากมายนัก
เธอรู้สึกเขินอายเล็กน้อยในทันใด จนแทบอยากจะให้มีให้รอยแยกของแผ่นดินให้ตัวเองได้มุดเข้าไป
ตอนนี้เธอเสียใจภายหลังจริงๆที่ไม่ควรมาในครั้งนี้เลย
“เมื่อครู่ท่าทางของฉันดูน่าเกลียดมากเลยใช่ไหม?” เหยาเสินเอ่ยถาม
เซียวชุ่นขบคิดมองดูเธอแล้วหัวเราะเบาๆพูดว่า “ไม่นะ มันหมายความว่าคุณใส่ใจผมไง”
“อย่าหลงตัวเองเลย” เหยาเสินกลอกตาใส่เขาแล้วถามต่อว่า “หากว่าคุณเป็นฉัน คุณจะทำอย่างไร?”
"หมายความว่าอะไร?"
“หมายความว่าหากว่าฉันนอกใจแล้วคุณจะทำอย่างไร?”
“ผมไม่ได้นอกใจ” เซียวชุ่นกล่าว
“ก็แค่เปรียบเทียบ”
"ผมไม่เคยคิดมาก่อน"
"งั้นคิดตอนนี้"
“ทำไมต้องทำร้ายความรู้สึกกันในเรื่องที่ไม่มีอยู่จริงแบบนี้ด้วยนะ?” เซียวชุ่นกล่าว
เหยาเสินขมวดคิ้วสงสัย "คุณหมายความว่าอย่างไร?"
“ผมหมายความว่า ผมจะไม่ให้โอกาสคุณนอกใจ เพราะว่าไม่มีใครดีกับคุณมากไปกว่าผมแล้ว คุณจะมีเหตุผลอะไรที่จะต้องนอกใจ?”
“นี่คุณอ้อมเพื่อให้ฉันทำดีกับคุณให้มากขึ้นสักหน่อยหน่ะสินะ?” เหยาเสินครุ่นคิดหัวข้อที่เขาพูดครู่หนึ่ง
“ก็หมายความว่าคุณรังเกียจที่ตอนนี้ฉันไม่ดีต่อคุณไง?”
เซียวชุ่นรู้สึกปวดสมองขึ้นกะทันหัน
เอาเถอะ ก็ต้องยอมรับว่าเมื่อผู้หญิงเข้าสู่ปัญหาเรื่องของความรู้สึก ก็จะเข้าไปพัวพันไม่ชัดเจนในทันที เห็นได้ชัดว่าเป็นเธอที่คิดฟุ้งซ่านถึงได้ทำให้เกิดความวุ่นวายไปทั่วแบบนี้ ในชั่วพริบตาก็ทิ้งปัญหาที่น่าปวดหัวเรื่องหนึ่งเอาไว้กับตัวเอง
เซียวชุ่นรู้สึกอยู่ตลอดว่าถ้าเขายังคงพูดคุยเกี่ยวกับหัวข้อนี้ต่อไปเกรงว่าจะพูดคุยจนเกิดปัญหาขึ้นได้ จึงทำได้เพียงแค่ยกมือขึ้นยอมแพ้ “พวกเราอย่าหารือถึงปัญหานี้ดีไหม? คุณหิวไหม? อาหารเช้าก็ไม่ได้ทานเลยสินะ? จะถึงมื้อเที่ยงแล้ว พวกเราไปทานข้าวกันก่อนเถอะนะ?”
“ตอนนี้คุณเริ่มรังเกียจที่ฉันจู้จี้จุกจิกเสียแล้ว……”
เซียวชุ่น “……”
มีดหนึ่งแทงผมให้ตายไปเลยเถอะ
ไม่ แทงถางชือชือตัวปัญหาคนนั้น เรื่องทั้งหมดล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นจากเธอทั้งสิ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊
ไม่อัพต่อแล้วเหรอครับ...