เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊ นิยาย บท 249

“นั่งตามสบายเถอะ ผมจะเทน้ำให้คุณ” เซียวชุ่นชี้ไปที่โซฟาในห้องแล้วเอ่ยขึ้น จากนั้นก็ไปเทน้ำหนึ่งแก้วให้เธอแล้วยื่นให้

ติงเยว่รับแก้วน้ำมา จิบคำหนึ่ง แล้วพูดด้วยรอยยิ้มจางๆว่า “ประธานเซียวไม่ต้องเป็นห่วงฉัน ตอนนี้ฉันไม่เป็นไรแล้ว”

"งั้นก็ดีแล้ว"

หลังจากที่เซียวชุ่นพูดจบ ก็เห็นติงเยว่หยิบบัตรธนาคารออกจากกระเป๋าแล้ววางลงบนโต๊ะกาแฟ

“เงินนี้ฉันไม่รับ ประธานเซียวรับคืนกลับไปเถอะ คุณไม่จำเป็นต้องทำให้ตระกูลเหว้ยขุ่นเคืองเพราะฉัน ฉันรู้จักตระกูลเหว้ย ไม่สามารถไปทำให้โกรธเคืองได้”

“ก่อนหน้าคุณนี่ผมก็ทำให้โกรธเคืองแล้ว เดิมทีนี่ก็ไม่ใช่เรื่องของคุณ เป็นผมที่ทำให้คุณลำบากไปด้วย เงินนี่เป็นเงินชดเชยที่จริงใจของตระกูลเหว้ย คุณเก็บเอาไว้สิ” เซียวชุ่นกล่าวอย่างเคร่งขรึม

"แต่ว่า……"

“ไม่มีแต่ว่า คุณรับไว้ก็พอ ถ้าหากคุณต้องการเริ่มต้นธุรกิจล่ะก็สามารถใช้เงินเหล่านี้ได้ ถ้าหากยังต้องการทำงานหนักอยู่ในงานตรงนี้ ผมมีบริษัทคงเก๋อ เทรดดิ้งอยู่ในมือ ผมวางแผนที่จะก่อตั้งขึ้น คุณยินยอมที่จะมาช่วยผมไหม?"

เซียวชุ่นนั่งลงแล้วถาม

ตอนนี้เขามีเงินสดอยู่ในมือมากมาย เป็นไปได้ว่าจะมีมากขึ้นในอนาคตเป็นแน่

เงินเหล่านี้อยู่ในธนาคารเป็นเงินตาย เอาออกมาลงทุนเป็นการดีกว่า

และตั้งแต่ที่เอาจินสีกรุ๊ปมาแล้วเขารู้สึกว่ามีความจำเป็นที่จะต้องก่อตั้งบริษัทการลงทุนแบบนี้แห่งหนึ่ง จะรบกวนเวินกวงเหลี้ยงกับไช่จวิ้นหมิงอยู่ตลอดเวลาก็ไม่ใช่เรื่อง เพียงแต่ว่าภายใต้มือยังหาคนที่มีความสามารถที่น่าเชื่อถือได้ยากเย็นนัก

ซ่งหลิงเอ๋อร์ หงส์แดงและต้วนเจียพวกคนเหล่านี้ ต่อยตีฆ่าฟันกันพอได้ ให้พวกเขาบริหารบริษัท เกรงว่าจะล้มละลายลงในเวลาไม่กี่นาที

แม้ว่าเขากับติงเยว่จะมีความสัมพันธ์เพียงสั้นๆแค่สองวันเท่านั้น แต่ก็สามารถมองออกว่าแม่หนูคนนี้ไว้ใจได้ และมีความสามารถมากกว่าคนอื่น จัดการเรื่องราวได้อย่างรอบคอบ

“บริษัทการลงทุน? วิชาเอกของฉันในมหาวิทยาลัยเกี่ยวข้องกับการเงิน เพียงแต่ว่าหลังจากเรียนจบแล้วก็ทำงานในสาขาอื่นๆมาโดยตลอด จึงไม่มีประสบการณ์ในทางปฏิบัติ” ติงเยว่กล่าวด้วยดวงตาที่สดใส

เธอเป็นหญิงสาวที่มีความเป็นมืออาชีพมากคนหนึ่ง แม้ว่าในบัตรจะมีค่าขดใช้อยู่ห้าร้อยล้าน แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เธอแลกมาด้วยความพยายาม มันเพียงแค่จะเตือนตัวเองว่ามีประสบการณ์ที่ลบล้างได้ยากช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้นเอง

"ประสบการณ์สามารถค่อยๆสะสมได้ คุณเพียงแค่ต้องรับผิดชอบในการจัดตั้งบริษัทขึ้นมา งานมอบให้คนที่รู้เรื่องไปจัดการก็พอ ผมเชื่อในความสามารถของคุณ ต่อไปคุณจะเป็นผู้จัดการใหญ่ของบริษัทการลงทุนแห่งนี้"

“ที่คังหย่งเหนียนนั่นผมจะไปคุยกับเขาเอง คุณไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้ เป็นอย่างไร?” เซียวชุ่นพูดด้วยคำพูดที่รวดเร็ว

“ในเมื่อประธานเซียวเชื่อใจฉัน งั้นฉันจะทำให้ดีที่สุดอย่างแน่นอน” ติงเยว่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ

“งั้นก็ว่ากันตามนี้แหละ ไปกันเถอะ เรียกต้วนเจียให้ไปทานอาหารเช้าด้วยกัน”

หลังจากที่ทั้งสองออกไปแล้ว พวกเขาก็พบถางชือชือที่เดินมาทางนี้เข้าพอดี เธอเห็นติงเยว่แล้วก็ยิ้มอย่างอุ่นใจและทักทายขึ้น

“พวกคุณไปกินอาหารเช้ากันเหรอ? ไปด้วยกันเถอะนะ พอดีว่าหลังจากท่านอาหารเช้าแล้ว ยังต้องขอให้ประธานเซียวช่วยฉันฝังเข็มหน่ะ เรื่องนี้ล่าช้าไปหลายวันแล้ว” ถางชือชือกล่าว

“ได้ หลังอาหารเช้าแล้วผมจะฝังเข็มให้คุณ” เซียวชุ่นตอบกลับ

ติงเยว่สามารถฟื้นตัวได้เร็วขนาดนี้ เป็นความดีของถางชือชือ

เซียวชุ่นตื่นขึ้นมาในตอนเช้าและเห็นข้อความที่เธอส่งมาว่าเสี่ยวติงไม่เป็นไรแล้ว ตอนแรกยังไม่เชื่อ แต่ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีก ข้อเท็จจริงก็อยู่ตรงหน้าแล้ว

สำหรับวิธีที่เธออบรมสั่งสอนติงเยว่นั้น ไม่เป็นที่ประจักษ์

แต่เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ทั้งสองคนดูเหมือนว่าจะพัฒนาไปสู่มิตรภาพกันแล้ว ขณะที่มองดูพวกเธอเดินจูงมือเล็กๆไปที่หน้าลิฟต์ เซียวชุ่นรู้สึกงงเล็กน้อย

ผู้หญิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดชนิดหนึ่งจริงๆ

ภายในจิตใจที่แข็งแกร่งเหมือนติงเยว่ ก็เป็นเรื่องที่วิเศษเรื่องหนึ่ง

……

เหยาเสินนั้นท้องฟ้าเพิ่งสว่างสีเทาๆก็มุ่งตรงไปที่เหลยหยาง ขณะที่เธอมาถึงตรงหน้าประตูโรงแรมก็เริ่มลังเลอยู่บ้าง

เธอสับสนในใจมากมาย และก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองรีบร้อนเร่งรีบมาจะได้ผลลัพธ์ยังไง จับชู้ได้บนเตียง? แต่ว่าช่วงเวลานี้ดูเหมือนว่าจะไม่ถูกต้องนัก

หรือเพื่อยืนยันว่าเซียวชุ่นและผู้หญิงไม่มีอะไรกันจริงๆ แต่ว่าจะตรวจสอบได้อย่างไรหล่ะ?

ใครจะยอมรับ?

ขณะที่เธอกำลังนั่งเหม่อลอยอยู่บนรถ ก็ได้รับโทรศัพท์จากเวินหว่านยู่

“เธออยู่ที่ไหน? ฉันจะไปรับเธอเดี๋ยวนี้ ฉันหาหมายเลขห้องของผู้หญิงคนนั้นเจอแล้ว” เวินหว่านยู่กดเสียงเอาไว้เหมือนกับเป็นสายลับ และพูดอย่างตื่นเต้นๆ

“ฉันอยู่ที่ลานจอดรถ” เหยาเสินกัดริมฝีปากแดงไว้แน่น

มาก็มาแล้ว ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ก็ไม่สามารถถอยกลับในตอนนี้ได้

ไม่นานนักก็เห็นเวินหว่านยู่ทำตัวราวกับเป็นโจร ลับๆล่อๆ เดินมาทางนี้โดยที่มองซ้ายพะวงขวา หลังจากเห็นรถของเหยาเสิน ก็เปิดประตูและเข้าไปในที่นั่งข้างคนขับ

“คิดไม่ถึงเลยว่า เธอจะมาจับชู้จริงๆ” เวินหว่านยู่กล่าว

“ฉันไม่ได้มาจับชู้ ฉันมาเพื่อเข้าร่วมดินเนอร์การกุศลในช่วงบ่าย” เหยาเสินไม่ยอมรับ คำว่าจับชู้ เธอฟังแล้วรู้สึกอึดอัดใจ

“เอาล่ะ นี่จะเป็นอะไรไป ถ้าหากว่าผู้ชายมีโอกาสนอกใจ เก้าในสิบล้วนจะคว้าโอกาสนี้เอาไว้ อีกคนหนึ่งอาจจะคดโค้ง” เวินหว่านยู่ดูเหมือนว่าจะรู้สึกตื่นเต้นมาก

เรื่องราวอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นกับตัวเอง ในฐานะผู้ที่มองดูย่อมไม่สามารถเข้าใจความวิตกกังวลของเหยาเสินได้

เหยาเสินเงียบ

“ไปกันเถอะ อย่าได้อึมครึมเลย ฉันจะไปด้วยกันกับเธอ เธอเป็นเมียหลวง มีอะไรที่ต้องกลัว” เวินหว่านยู่เห็นเธอลังเลอยู่บ้าง จึงพูดให้กำลังใจ

“หากว่าเห็นภาพอะไรที่ทนดูไม่ไหวจริงๆ เธอว่าฉันจะตบเซียวชุ่นสักฉาด หรือว่าแทงผู้หญิงคนนั้นสักแผล?” เหยาเสินถาม

เวินหว่านยู่ตกตะลึงกับคำถามนี้ เธอก็ไม่มีประสบการณ์นี่นา

“คิดมากอย่างนั้นไปทำไม พวกเราขึ้นไปแล้วค่อยว่ากัน ไม่ว่าเธออยากจะทำอะไรฉันก็จะสนับสนุนเธออย่างไม่มีเงื่อนไข ใครให้เธอเป็นเพื่อนรักของฉันล่ะ”

เหยาเสินยิ้มอย่างขมขื่น แล้วหายใจเข้าลึกๆและพูดว่า "ไปกันเถอะ"

และในเวลานี้ ในห้องของถางชือชือ ลมอุ่นเปิดได้เต็มกำลัง ความอบอุ่นในห้องเข้าสู่ช่วงต้นฤดูร้อน

เธอสวมเอี๊ยมตัวเล็กๆตัวหนึ่งนอนราบอยู่บนเตียง ขอบเสื้อชั้นในที่อวบอิ่มปรากฏออกมาบ้าง ท่อนล่างสวมกางเกงขาสั้นรัดรูปตัวหนึ่ง และขาขาวที่ตรงเรียวยาวนั้นเตะตานัก

เซียวชุ่นฆ่าเชื้อเข็มอยู่ฝั่งหนึ่ง คราวนี้ถางชือชือมาโดยที่ไม่ได้พาเล่อเหวินมาด้วย ในห้องมีเพียงแค่พวกเขาสองคน บรรยากาศเลยคลุมเครือเป็นพิเศษ

ดวงตาคู่หนึ่งแห่งฤดูใบไม้ร่วงที่มีเสน่ห์ของถางชือชือจับจ้อง มองดูอย่างเขาอย่างไม่ยำเกรงและเต็มไปด้วยการหยอกล้อ

โชคดีที่เซียวชุ่นเคยฝึกฝน หากเปลี่ยนเป็นผู้ชายทั่วๆไปเกรงว่าวิญญาณก็อาจจะถูกยั่วไปแล้ว แม่หนูคนนี้เป็นตัวปัญหา รอให้เข็มในครั้งนี้ฝังหมดต้องอยู่ให้ห่างเธอสักหน่อย

“คุณมองผมแบบนี้ ผมฟุ้งซ่านได้ง่าย ถ้าบังเอิญว่าเกิดข้อผิดพลาดไปหน่อย ทำคุณให้ตายก็คงจะจบสิ้นไปเลย ถ้าหากว่าครึ่งชีวิตหลังดูแลตัวเองไม่ได้เลยตลอดชีวิต คุณเคยคิดไหมว่าจะเป็นยังไง” เซียวชุ่นเหลือบมองเธอแว๊บหนึ่ง

“คุณก็ฟุ้งซ่านเป็นด้วยเหรอ?” ถางชือชือเลิกคิ้วแล้วยิ้มหวาน ดูเหมือนว่าตาคนนี้ก็เป็นผู้ชายปกตินี่นา

"ผมเป็นผู้ชาย"

“ผู้ชายที่ไร้อารมณ์”

“ไม่สำคัญ หลับตา”

“หลับตาแล้วฉันรู้สึกไม่ปลอดภัย ถ้าคุณแอบจูบฉันจะทำยังไง?”

“คุณคิดมากไปแล้ว เร็วเข้า” เซียวชุ่นพูดอย่างเคร่งขรึม

ถางชือชือถึงได้เบะปาก และหลับตาลงอย่างซื่อๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊