เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊ นิยาย บท 259

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของหลิวหยุนเซียงก็อ่อนลงเล็กน้อย

แต่ว่าไม่นานเซียวชุ่นก็โดนเหยาเสินไล่ออกไปอีกครั้ง ทำให้เขาหดหู่มาก

ถ้ารวมถึงฉากเหตุการณ์ที่เห็นเมื่อกี้กับวันนี้ที่เหยาเสินเป็นกังวลร้อนรน เพิ่งรุ่งเช้าก็ขับรถออกไปที่เหลยหยางในทันที ต่อให้หลิวหยุนเซียงจะโง่แค่ไหนก็สามารถดูออกได้ว่ามีช่องโหว่บางอย่างอยู่ ซึ่งก็เริ่มไม่พอใจกับทัศนคติของเซียวชุ่นมากขึ้นเรื่อยๆ

พอนึกย้อนกลับไปดีๆถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลานั้น หัวใจของเหยาเสินเหมือนตกลงในหลุมน้ำแข็ง

ตอนรถจมลงไปในน้ำในเสิ้ยววิเธอยังพอมีสติรู้สึกตัวอยู่เล็กน้อย เซียวชุ่นเวลานั้นอยู่ข้างๆเธอแท้ๆ อีกอย่างตัวเขายังคาดเข็มขัดนิรภัยอยู่ แทบจะไม่มีโอกาสโดนเหวี่ยงออกจากรถเลย

กล่าวคือ เซียวชุ่นขณะนั้นอยู่ข้างๆเธอแต่ไม่ได้ช่วยเธอ แต่เลือกที่จะไปช่วยถางซือซือก่อนเป็นอันดับแรก

ไม่มีใครสามารถเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของเธอในตอนที่เห็นเซียวชุ่นประคองอุ้มถางซือซือว่ายน้ำไปทางฝั่ง ยิ่งไม่มีใครสามารถเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกที่แสนสิ้นหวังของเธอในตอนที่เหลืออากาศหายใจเฮือกสุดท้ายตะโกนคำนั้นออกมา”สามีช่วยฉันด้วย”

ยิ่งคิดใจก็ยิ่งชา เธอไม่สามารถเข้าใจได้เลย และไม่สามารถให้อภัยเซียวชุ่นที่เพิกเฉยต่อเธอในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการรอดชีวิตและตาย ไปช่วยผู้หญิงคนอื่นๆ แม้แต่จะมีคนพูดคำที่ไร้สาระนี้ขึ้นมาว่าชีวิตเท่าเทียมกันก็ไม่สามารถโน้มน้าวเธอได้

เหตุการณ์ ณ ตอนนั้น ทั้งหมดไม่ใช่แบบนี้เลย เธอที่เป็นภรรยายังดีไม่เท่าคนนอกคนหนึ่งที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นานมานี้เลย ไหนล่ะความเท่าเทียมกัน

เซียวชุ่นจากในอีกสองวันข้างหน้าที่จะถึงนั้นมันเป็นเหมือนน้ำแข็งและไฟที่ต่างกันแต่เกิดในช่วงเวลาเดียวกันเพียงระยะสั้นๆ

ด้านหนึ่งคือความเฉยเมยเย็นชาของเหยาเสิน อีกด้านหนึ่งคือความกระตือรือร้นที่เหมือนไฟของถางซือซือและส่วนตัวเขาเองนั้นก็เอาแต่สับสนไม่เข้าใจ

ยังโชคดีที่ร่างกายของทั้งสามคนไม่รับบาดเจ็บมากนัก แผลเป็นบนใบหน้าของเซียวชุ่นหายอย่างรวดเร็วหลังจากใช้โคลนยาทาที่เขาเป็นคนคิดผสมขึ้นมาเอง ในอีกสองวันต่อมาก็ได้ออกจากโรงพยาบาลกลับมายังเจียงไห่

ในคืนนั้น

บรรยากาศบนโต๊ะอาหารนั้นอึดอัดถึงขั้นสุด

คนในครอบครัวทั้ง 4 คนต่างเงียบตกอยู่ในห่วงความคิดของตัวเอง เพื่อฉลองที่เหยาเสินออกจากโรงพยาบาล หลิวหยุนเซียงได้ทำอาหารจานใหญ่เต็มโต๊ะ ซึ่งดูเหมือนจะไม่มีรสชาติแล้ว

ในชั่วขณะหนึ่งดวงตาของเธอได้จ้องมองระหว่างเหยาเสินกับเซียวชุ่น แล้วเอ่ยปากถามว่า: “เกิดอะไรขึ้นกับพวกเธอทั้งสองกัน? มีเรื่องอะไรก็พูดออกมา เก็บไว้ในใจไม่ใช่วิธีที่แก้ไขปัญหาได้”

เหยาเสินไม่ได้เล่าเรื่องให้กับหลิวหยุนเซียงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากอุบัติเหตุทางรถ แต่ว่าในวันนั้นเหยาเสินรีบร้อนเพิ่งจะรุ่งสางก็ขับรถออกไปที่เหลยหยาง เธอก็คงรู้อยู่ภายในใจบ้างว่าเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นแน่ๆ แน่นอนว่าสิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดนั้นคือเซียวชุ่นอยู่ข้างนอกอาจจะมีคนอื่น ไม่งั้นคงไม่มีเหตุผลอะไรที่ทำให้เหยาเสินโกรธมากถึงเพียงนี้

“เซียวชุ่น นายพูดก่อน เกิดอะไรขึ้น?” เห็นว่าทั้งสองคนเอาแต่เงียบไม่ตอบ หลิวหยุนเซียงเลยมองไปทางเซียวชุ่นแล้วเอ่ยถาม

เซียวชุ่นเงยหน้าขึ้นสีหน้าที่งุนงงสับสนหันมองแล้วมองเหยาเสิน แล้วหันไปมองทางหลิวหยุนเซียง: “แม่ ผมก็ไม่รู้ ในตอนที่อยู่เหลยหยางแค่เห็นมีการเข้าใจผิดบางอย่างระหว่างกับเพื่อนคนหนึ่ง แต่ว่าก็แก้ไขเรียบร้อยแล้ว......”

เหยาเสินเมื่อเห็นว่าเขายังแกล้งโง่อยู่ก็เกิดโกรธขึ้นมา

เธอตบตะเกียบวางลงบนโต๊ะอย่างแรง พูดอย่างสีหน้าเย็นชาว่า: “ใช่เหรอ? งั้นฉันถามคุณ หลังจากที่เราตกลงในน้ำทำไมคุณถึงไม่ช่วยฉัน ฉันก็อยู่ข้างๆคุณ แต่คุณกลับว่ายไปช่วยคนนอกคนหนึ่ง ยังจะพูดว่าคุณกับเธอไม่เคยอะไรกัน? ฉันนี้มันโง่มากเลยจริงๆ โดนคุณเล่นจนไม่รู้จะต้องทำยังไงแล้ว แบบนี้คุณคงรู้สึกว่ามันสนุกมากเลยใช่ไหม? มันน่าสนุกตรงไหน?”

“ฉันยอมรับว่าเมื่อก่อนฉันเคยค่อนข้างเข้มงวดกับคุณ คุณถ้าภายในใจมีความแค้นก็พูดออกมา ต่อให้เป็นการหย่าร้างฉันก็ไม่มีปัญหา แต่คุณไม่จำเป็นที่จะต้องทำกับฉันแบบนี้!”

เหยาเสินพูดอยู่เบ้าตาก็เกิดแดงก่ำขึ้นเล็กน้อย น้ำตาไหลลงเหมือนจะร้องไห้ ผมเห็นแล้วรู้สึกเป็นห่วงสงสาร

“ที่แท้คือเรื่องนี้นี่เอง คุณเข้าใจผิดแล้วจริงๆ” เซียวชุ่นตระหนักถึงเอ่ยพูด

“คุณมีเครื่องรางชิ้นนั้นที่ผมให้ไว้อยู่กับตัว ผมเคยบอกว่ามันในยามวิกฤตสามารถช่วยชีวิตคุณไว้ได้ ในเวลานั้นผมสังเกตเห็นว่าคุณได้สวมห้อยมันไว้บนตัว ดังนั้นเลย......”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊