เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊ นิยาย บท 258

บุคลากรทางการแพทย์หลายคนลำบากใจมาก หนึ่งในพยาบาลทางการแพทย์ผู้หญิงในวัยกลางคนได้พูดโน้มน้าวขึ้นมาว่า “สามีของคุณเป็นคนที่น่าทึ่งมาก คุณเป็นห่วงเขา พวกเรานั้นเข้าใจอยู่ แต่ว่าคุณยืนรอดูอยู่ตรงนี้ก็ไปช่วยอะไรไม่ได้ กลับไปอยู่ในรถก่อนเถอะ เวลานี้สภาพร่างกายของคุณนั้นแย่มาก......”

เหยาเสินรู้สึกเหมือนได้ฝันร้าย ฝันถึงตัวเองได้ค่อยๆจมลงไปในใต้น้ำ ราวกับว่าได้ตกลงไปในเก้าโลกใต้พิภพ อากาศที่หนาวเย็นก็แทรกซึมเข้าไปตามรอยแยกของกระดูก

จากนั้นเธอมึนงงเล็กน้อย ไม่รู้ว่าคือภาพลวงตาหรือเปล่า ราวกับมีฟองอากาศมากมายห่อหุ้มเธออยู่ จากนั้นดูเหมือนมีมือใหญ่คู่หนึ่งลากเธอพาเธอขึ้นไปบนผิวน้ำ

ฉันคงตายแล้วจริงๆใช่ไหม?

คนที่โดนจมน้ำตายต่างหากจึงจะลอยขึ้นสู่ผิวน้ำ

เธอลืมตาขึ้นมาช้าๆ ใบหน้าที่คุ้นเคยและไม่คุ้นเคยของเซียวชุ่นปรากฏขึ้นอยู่ตรงหน้า

พอนึกถึงฉากตรงหน้าที่เธอเห็นก่อนตายนั้น หัวใจดวงนี้ก็เหมือนถูกฉีกเป็นชิ้นๆ และตอนนี้ยังคงเปื้อนเลือด

เจ็บปวดบาดลึกตรงหัวใจ

เขาก็ตายแล้วหรอ?

สมน้ำหน้า!

“ไปให้พ้น!” เหยาเสินเย็นชาพูดด่าคำนี้ออกมา ส่วนที่ลึกสุดในดวงตาคือความขยะแขยงที่เข้มข้น ความผิดหวังและความเกลียดชัง จากนั้นเธอมองเห็นแสงแดดที่สอดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง หัวใจกระตุก

ฉันไม่ตายเหรอ?

ฉันรอดแล้ว?

ทันใดนั้นในใจรู้สึกวุ่นวายสับสนไปหมด ไม่รู้ว่าควรรู้สึกดีใจไหม

เซียวชุ่นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง มองเห็นเหยาเสินในหน้าที่สวยงามขาวเหมือนกระดาษ เป็นห่วงมากเลย พอเห็นเธอฟื้นขึ้นมานำมือไปจับมือของเธอมากุมไว้ พูดพร้อมใบหน้าที่โล่งใจว่า “ในที่สุดคุณก็ฟื้นขึ้นมา”

“ฉันรอดมาได้คุณผิดหวังมากล่ะสิ?” เหยาเสินใช้แรงนำมือหลุดจากการจับกุม มองเขาที่แสดงแบบนั้นออกมาด้วยความขยะแขยงและพูดเยาะเย้ย

เซียวชุ่นงุนงงสับสน คงเป็นเพราะไข้ยังไม่ลดงั้นเหรอ ไม่น่าใช่นี้ หมอเพิ่งวัดอุณหภูมิร่างกายของเธอไปเมื่อกี้นี่เอง ปกติดีนี่

“ยังมีไข้?” เขาเอื้อมมือไปทางหน้าผากของเหยาเสิน

เพี๊ยะ!

เหยาเสินปัดมือของเขาออกด้วยการตบหนึ่งครั้ง พูดด้วยสีหน้าท่าทางเศร้าโศกที่มีไม่มากเกินไปกว่าหัวใจที่ตายลง “อย่ามาแตะต้องตัวฉัน ต่อไปก็อย่าแตะต้องตัวฉัน คุณออกไปเถอะ ฉันในตอนนี้ไม่อยากเห็นหน้าคุณ”

“เกิดอะไรขึ้นกับคุณเนี่ย?” เซียวชุ่นมือข้างหนึ่งของเขาชะงักกลางอากาศ สับสนงุนงงไม่เข้าใจเอ่ยพูด

เซียวชุ่นเงียบไปครู่หนึ่ง ในดวงตาที่จ้องมองไปยังเขานั้นไม่มีความรู้สึกเลยแม้แต่น้อย พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ในเมื่อคุณมีคนในใจแล้ว งั้นเราหย่ากันเถอะ แบบนี้ต่อไปคุณก็ไม่ต้องหลบๆซ้อนๆอีก”

“คุณพูดเรื่องไร้สาระอะไร?” เซียวชุ่นยังคงมีสีหน้าที่สับสนงุนงง คนคือฟื้นขึ้นมาแล้ว แต่ทำไมจู่ๆก็ดูเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคนกันล่ะ

เขาไม่รู้ว่าเหยาเสินบังเอิญไปเห็นฉากที่เขาประคองอุ้มถางซือซือขึ้นบนฝั่ง

ในเวลานั้นสถานการณ์ของถางซือซือวิกฤตมาก หากยังคงชักช้าสัก10วิ หรือ1นาทีต่อให้ช่วยชีวิตขนาดไหนก็คงช่วยไม่รอดอยู่ดี

แต่เหยาเสินมีเครื่องรางอยู่ติดตัว ชีวิตปลอดภัย ดังนั้นเขาเลยไปช่วยถางซือซือก่อนเป็นอันดับแรก โดยไม่ได้คิดวิเคราะห์อะไรมากมายเลย

ถึงแม้จะไม่ใช่ถางซือซือเปลี่ยนเป็นคนอื่นที่ไม่เคยรู้จัก เขาก็คงอาจจะยังเลือกทำแบบนี้

ต่อให้เขาไม่เคยคิดอยากจะเป็นผู้กอบกู้ที่กล้าหาญ ช่วยชีวิตผู้คน แต่ท้ายที่สุดนั้นคือชีวิตของคนคนหนึ่ง เลยทำได้แค่เลือกหนึ่งอย่างจากสองตัวเลือกที่ลดความเสียหายมากที่สุด

แน่นอนว่าเหยาเสินอาจจะต้องประสบความยากลำบากบ้าง ถ้าเทียบกับชีวิตของคนคนหนึ่งมาพูดนั้น โดยธรรมดาแล้วเขาสามารถแยกแยะออกว่าอันไหนสำคัญกว่ากัน

อีกอย่างถางซือซือก็ไม่ถือว่าเป็นคนไม่รู้จัก

เหยาเสินพ่นลมหายใจหนึ่งครั้ง หันหัวไป น้ำตาไหลตามปลายตาหยดลงบนใบหมอน ถ้าคุณกล้าที่จะยอมรับว่ามีความสัมพันธ์อะไรกับถางซือซือบ้าง อย่างน้อยจะไม่ทำให้ฉันรู้สึกดูถูกคุณหรอก

ตอนนี้อารมณ์ของเธอนั้นจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้ง รู้สึกผิดหวังมากกับผู้ชายคนนี้

เซียวชุ่นใบหน้าหมดหนทาง ในใจคิดว่าอาจจะเป็นเพราะตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้า อารมณ์เลยไม่ดี พูดอย่างอ่อนหวานว่า: “งั้นก็ได้ พ่อกับแม่เดี๋ยวก็มาถึง คุณใจเย็นลงก่อนสักพัก ผมจะไปดูถางซือซือ เธอ......”

“ออกไป!” เซียวชุ่นพูดยังไม่ทันจบประโยคก็โดนเหยาเสินตัดบท

เซียวชุ่นถอยหายใจเงียบๆอยู่ภายในใจ ลุกขึ้นเดินออกทางประตูแล้วมุ่งตรงไปที่ห้องพักผู้ป่วยของถางซือซือทันทีที่เขาเดินออกจากห้องพักผู้ป่วยก็รู้สึกว่ามีกระแสน้ำหนาวเย็นไหลผ่านเส้นลมปราณพิเศษทั้งแปด เขาจึงรีบปิดผนึกจุดฝังเข็มอย่างรวดเร็ว

ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร อากาศหนาวเย็นเข้าสู่ร่างกาย ตั้งแต่เขาที่มาอยู่โรงพยาบาลส่วนใหญ่เขามักจะนั่งเฝ้าอยู่เคียงข้างเหยาเสิน เลยไม่มีเวลาที่จะปัดเป่าความหนาวเย็นออกให้กับตัวเอง

ที่เกิดเหตุระยะทางอยู่ใกล้กับเมืองเหว้ยฮุยมากที่สุด เป็นอาณาเขตของซ่งชิงซู หลังเขาได้รับข่าวสารก็ทำการจัดเตรียมให้เซียวชุ่นเข้าพักโรงพยาบาลที่ดีที่สุดของตัวเมืองโดนทันที ห้องพักผู้ป่วยที่ดีที่สุด

เซียวชุ่นเดินเข้าห้องพักผู้ป่วยของถางซือซือในตอนนั้นเธอก็ได้ตื่นขึ้นมาแล้ว บนใบหน้าเริ่มมีสีเลือดขึ้นมาบ้าง ดีกว่าตอนที่ถูกส่งเข้าโรงพยาบาลครั้งแรกมาก

ไม่เหมือนกับเหยาเสิน ถางซือซือมองตรงมาทางเขาด้วยสายตาที่ร้อนแรง เมื่อเขาช่วยเหยาเสินขึ้นมาจากน้ำได้ ถางซือซืออยู่ในรถได้ยินเสียงเชียร์ดังมาจากทางด้านนอก ราวกับต้อนรับการกลับมาของฮีโร่

ใช่ เขาก็คือฮีโร่ แทบไม่มีใครที่จะสามารถอยู่ในใต้น้ำที่หนาวเหน็บแบบนั้นได้นาน แล้วยังพยายามช่วยชีวิตคนขึ้นมาได้อีกถึงสองคน

“ดีขึ้นมาบ้างหรือยัง?” เซียวชุ่นไปนั่งอยู่ข้างเตียงผู้ป่วย ถามอย่างไม่ได้ใส่ใจ

“ไม่เป็นอะไรแล้ว” ถางซือซือใช้ดวงตาใสดั่งน้ำอันบริสุทธิ์มองมาที่เขาอย่างคิดพินิจ ถึงแม้สีหน้าจะดูซีดเล็กน้อย จิตใจมองไปยังดูดีอยู่ แต่ว่ารอยแผลเป็นสองสามที่บนใบหน้าดูน่ากลัวไปหน่อย เธอยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า: “ตัวคุณทำด้วยเหล็กหรือไง? ทำไมมองไม่ออกเลยว่าคุณมีท่าทางเพลียเหนื่อยอยู่บ้าง”

“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ถ้าคุณเป็นอะไรขึ้นมา มีหวังเหล่าถังคงจะมาคิดบัญชีกับผมแน่” เซียวชุ่นหัวเราะเบาๆตอบ

“ตรวจสอบผลออกมาหรือยังว่ารถบรรทุกของคันใหญ่คันนั้นเกิดอะไรขึ้น”

“ฝ่ายตำรวจได้รับแจ้ง คนขับรถเมาแล้วขับ” เซียวชุ่นเลิกคิ้วขึ้นแบบไม่รู้ตัวแล้วพูด

ถางซือซือได้หลับตาลง ครุ่นคิดครู่หนึ่ง ถาม: “คุณเชื่อไหม?”

“ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ” เซียวชุ่นยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้แล้วพูดว่า: “พอแล้ว นี่ไม่ใช่เรื่องที่คุณต้องมากังวล คุณรักษาตัวดูแลตัวเองดีๆ ส่วนเรื่องอื่นมีผมอยู่”

กระแสความอบอุ่นได้พุ่งออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ ถางซือซือจู่ๆก็รู้สึกขึ้นมาว่าการมีเขาอยู่เคียงข้าง พูดยังไงดี มันสบายใจมาก

“เมื่อกี้เสี่ยวติงได้นำข้าวต้มมาให้ มือฉันในตอนนี้ไม่มีเรี่ยวแรง คุณป้อนฉันสักสองสามคำ?” ถางซือซือนัยน์ตาที่นุ่มละมุนดุจสายน้ำ เหลือบมองข้าวต้มสีขาวที่อยู่ข้างๆเธอครู่หนึ่งเพื่อเป็นสัญญาณบอก

“เสี่ยวติง ไปไหนแล้วหละ?”

“น่าจะไปกินข้าวแล้ว คุณป้อนข้าวต้มฉันกินสักสองคำมันจะตายหรือไง? ตอนนี้ฉันเป็นผู้ป่วยไม่สบาย ” ถางซือซือพูดอย่างโกรธเคือง

“ก็ได้” เซียวชุ่นลังเลอยู่ครู่หนึ่ง หยิบชามขึ้นมา ตักข้าวต้มขึ้นมาหนึ่งช้อนคำเล็กส่งไปที่ข้างปากเธอ

ในเวลาเหมาะเจาะ หลิวหยุนเซียงกับเหยาเจี้ยนกั๋วรีบร้อนได้มาถึงหน้าประตูห้องพักผู้ป่วยแล้ว เห็นฉากนั้นแบบพอดิบพอดี

“เซียวชุ่น เหยาเสินล่ะ? แล้วเธอคือใคร?” หลิวหยุนเซียงเหลือบมองถางซือซือด้วยสีหน้าเย็นชา จากนั้นมองไปที่เซียวชุ่นด้วยสายตาที่เหมือนมีดสองเล่มเอ่ยถาม

เหยาเจี้ยนกั๋วที่อยู่ด้านข้างสีหน้าก็ดูแปลกๆเล็กน้อย แต่แค่ไม่ได้เอ่ยปากพูด

“เหยาเสินอยู่ห้องพักผู้ป่วยหมายเลข 9 ห้องข้างๆ ผมพาพวกคุณไปเอง”

เซียวชุ่นไม่มีทางเลือกนอกสักจากวางชามลงก่อนแล้วพูดกับถางซือซือด้วยความทำตัวไม่ถูกเล็กน้อยว่า: “เดี่ยวรอเสี่ยวติงกลับมาก็ให้เธอช่วยป้อนข้าวต้มคุณแทนล่ะกัน”

พอพูดจบ ลุกขึ้นพาหลิวหยุนเซียงกับเหยาเจี้ยนกั๋วทั้งสองออกจากห้องพักผู้ป่วยของถางซือซือ

“ผู้หญิงคนนั้นคือใคร? ทำไมคุณถึงไม่ตอบคำถามนี้?” หลังเดินออกจากห้องพักผู้ป่วย หลิวหยุนเซียงพยายามถามแบบไม่หยุดยั้ง

“เผอิญเป็นเพื่อนที่แวะกลับเจี่ยงไห่พร้อมกันกับพวกเรา” เซียวชุ่นตอบกลับแบบลวกๆ

“เป็นแค่เพื่อนเหรอ?” หลิวหยุนเซียงยังคงใช้สีหน้าเย็นชาถามกลับ

“เป็นแค่เพื่อน” เซียวชุ่นพูดตอบกลับอย่างหนักแน่นเด็ดขาด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊