เหมือนกันกับเราที่อยู่ในสังคมด้วยกันแต่การแสดงออกมาแตกต่างกัน เมื่อมีผู้คนเป็นมิตรใจดีย่อมมีผู้คนที่ไม่แยแส
“ซวยละ ซวยแล้ว น้ำไหลเร็วเกินไป ตอนนี้อากาศหนาวเย็นมากอีก ถึงแม้คนจะยังมีสติแต่โอกาสรอดนั้นน้อยมาก” ใครบางคนทำท่ายืนมองดูเหมือนตอนอยากรู้เรื่องชาวบ้าน ส่ายหน้าพูดอย่างนึกเสียดาย
แม้แต่ยังมีคนที่เอาแต่ยืนถ่ายรูปส่งเพื่อนในกลุ่มอีก
ผลกระทบจากแรงกระแทกเมื่อกี้นั้น หลังคนกับรถจมลงไปในน้ำพร้อมกัน เซียวชุ่นตกอยู่ในภวังค์ระยะสั้นๆ ในทันใดนั้นระดมชี่แท้ในร่างกายทำจิตใจมั่นคงสงบ คลำหาที่จะปลดเข็มขัดนิรภัย
หน้าต่างรถนั้นได้แตกกระจายทั้งหมด น้ำที่เหน็บหนาวเย็นเฉียบได้ไหลเข้าในรถ บวกกับกระแสน้ำไหลเชี่ยว ในชั่วพริบตาในรถเกือบทั้งคันมีน้ำเต็มไปหมด จากนั้นก็จมลงใต้น้ำช้าๆตามกระแสน้ำไหล
เหยาเสินโดนบางอากาศหนาวเหน็บเย็นเข้ากระดูกกระตุ้นให้เธอมีสติขึ้นมาบ้าง
ซี๊ด!
ปวดหัวมาก แขนขายังจะช้าเกือบทั้งหมดอีก
พยายามลืมตาขึ้นมา มีสีแดงเข้มขุ่นอยู่รอบตัว ตามด้วยความรู้สึกหายใจไม่ออก
โดยจิตใต้สำนึกของเธอให้หายใจเข้าออกทางจมูกและปากแรงๆ น้ำในแม่น้ำที่หนาวเหน็บไหลเข้าทางจมูก ความรู้สึกเจ็บจมูกพุ่งตรงเทียนหลิงไก สมองว่างเปล่า การเอาชีวิตรอดจากสัญชาตญาณทำให้เธอต้องดิ้นรนอย่างไม่หยุดหย่อน
วู้ฮู......
เธออยากจะพูดเสียงดังร้องขอความช่วยเหลือ ทันใดนั้นน้ำในแม่น้ำคำใหญ่ได้ไหลเข้าในอก
เข็มขัดนิรภัย!
โชคดีที่เธอว่ายน้ำเป็นตั้งแต่เด็ก ในช่วงเวลาวิกฤติเลยยังพอมีสติสมาธิอยู่บ้าง เธอเลยรีบร้อนไปแตะเข็มขัดนิรภัย
ปลดเข็มขัดนิรภัย ใช้พละกำลังที่เหลืออยู่น้อยนิดก่ายออกมาจากทางหน้าต่างรถ
แต่ว่าภาพที่อยู่ตรงหน้าที่เธอเห็นนั้นดันคือฉากที่เซียวชุ่นประคองอุ้มถางซือซือว่ายน้ำขึ้นฝั่ง
ริมฝีปากสีม่วงซีดที่สั่นเทาของเธอแรงกระซิบพูดเบาเหมือนใยแมงมุม “สามี ช่วยฉันด้วย......”
แล้วก็ยังคงเป็นน้ำในแม่น้ำที่เย็นเฉียบไหลเข้าทางปาก เจ็บลึกถึงทรวงอก
ทันใดนั้นแรงสุดท้ายที่ร่างกายมีอยู่ก็ไม่มีแล้ว เธอหลับตาลงอย่างช้าๆ เบื้องหน้าเธอยังคงเป็นฉากที่ทำให้ใจเธอแตกสลาย จู่ๆภาพตรงหน้ามืดมิดและได้หมดสติไป
เซียวชุ่นนำถางซือซือประคองอุ้มขึ้นฝั่ง เหนื่อยล้าหมดแรง เสื้อผ้าที่เปียกแฉะและเปียกโฉก ประกอบกับกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว ทำให้เขาใช้พละกำลังร่างกายของตัวเองไปเกือบหมด
เวลานั้นตรงฝั่งก็มีผู้คนอยู่รวมกันสิบกว่าคน วุ่นวายไปหมดรอรับถางซือซือเข้าฝั่ง
ตอนนั้นรถจมลงใต้น้ำเธอนั่งอยู่ตรงเบาะหลัง ไม่ได้รัดเข็มขัดนิรภัย ทำให้เธอโดนสะบัดออกนอกรถโดยตรง เซียวชุ่นตอนหาเธอเจอนั้นระยะไกลห่างจากรถประมาณ 20 กว่ากิโลเมตร
ขณะนี้เซียวชุ่นสามารถรับรู้ได้ว่าเธอใกล้จะไม่ไหว เวลาชีวิตเริ่มลดลงไปอย่างรวดเร็ว รีบถอดเสื้อคลุมออก ดึงเข็มยาวเรียวออกมาแล้วแทงเข็มลงจุดต่างๆฝังเข็มลงสองสามจุดทำอย่างรวดเร็วเหมือนจิ่งหง
“ในรถยังมีคนอยู่ใช่ไหม?”
“มีสิ เมื่อกี้เราเห็นหัวโผล่พ้นน้ำสักพักก็จมดำลงไปอีกครั้ง คิดว่าคนคนนั้นคงไม่น่าไหวแล้วล่ะ!”
เซียวชุ่นภายในใจตึงเครียด เป็นไปได้ไหมว่าเหยาเสินเธอปลดเข็มขัดแล้วก่ายออกมาจากรถเอง?
เหยาเสินบนตัวเธอสวมห้อยเครื่องรางที่เขาเป็นคนให้ไว้อยู่ ที่แกะสลักจากหินไม้ทิพย์
ยิ่งอยู่ในใต้น้ำนั้น สามารถคุ้มครองเธอหลุดพ้นจากภัยร้ายได้ แต่แค่กลัวว่าเธอไม่ทันระวังตัวโดนแม่น้ำซัดหายไป เพราะเหตุผลนี้ในตอนนั้นเซียวชุ่นเลยไม่ได้ช่วยเธอปลดเข็มขัดนิรภัยออก แบบนี้จะตามหาได้ง่ายกว่าเดิม
น้ำลึกไหลเชี่ยว ไม่มีใครกล้าที่จะลงน้ำไปช่วย ในเวลานี้บุคลากรทางการแพทย์หลายคนในชุดขาวก็ได้มาถึงแล้ว
“เข็มบนตัวเธอ 3 นาทีหลังค่อยดึงออก ผมจะไปช่วยคน!” เซียวชุ่นใบหน้าเคร่งขรึมพูดให้บุคลากรทางการแพทย์ทราบ
หลังจากพูดจบ สายตาของเขาก็กวาดส่องไปยังพื้นผิวแม่น้ำอย่างรวดเร็ว เพื่อค้นหาร่างของเหยาเสิน
บุคลากรทางการแพทย์หลายคนฟังคำพูดของเขาแล้ว ก็พากันมองหน้ากันอย่างประหลาดใจ แต่ก็ไม่ได้ทำความเข้าใจอะไรกับมันมากนัก เร่งเริ่มทำการช่วยเหลือแบบฉุกเฉินให้กับถางซือซืออย่างรวดเร็ว
“ไอ้หนุ่ม มันอันตรายเกินไป คุณไม่สามารถลงน้ำได้อีกแล้ว ต่อให้คุณสามารถช่วยภรรยาคุณขึ้นมาได้นั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่โชคดีมากแล้ว”
“ใช่ อย่าเสี่ยงเลย แล้วถ้าเผอิญเสียเพิ่มอีกหนึ่งชีวิตขึ้นมาหละ ตอนนี้เวลาผ่านไปเกือบจะ 10 นาที คิดว่าคนคงไม่น่า......”
ผู้คนมองใบหน้าเขาที่ซีดเผือด ทั้งตัวสั่นไหวไม่หยุด คำพูดโน้มน้าววนซ้ำแล้วซ้ำเล่า
พับ!
เซียวชุ่นหูหนวก เรื่องเลวร้ายเริ่มทิ่มแทงลงมาอีกครั้ง
เมื่อกี้เขาตั้งใจรู้สึกสัมผัส สามารถรับรู้ได้แล้วถึงพลังงานชี่ทิพย์แบบอ่อนๆอยู่สองแบบ หนึ่งคือพลังงานที่กระจายออกมาจากภายในรถ น่าจะเป็นของหินน้ำทิพย์ พลังงานอีกอันคือห่างจากรถใต้น้ำระยะประมาณ 5-6 เมตรได้ คิดว่าน่าจะเป็นเหยาเสินแน่เลย
เขาเร่งรีบว่ายไปทางตำแหน่งที่เหยาเสินอยู่ พอถึงจุดตำแหน่งของเหยาเสินแล้ว ใช้แรงดำน้ำลงไป
ที่นี้ใต้น้ำมีความลึกประมาณ 10 กว่า เป็นเพราะเขามีชี่ทิพย์ค่อยปกป้องร่างกาย น้ำในแม่น้ำที่หนาวเหน็บเย็นเข้ากระดูกยังคงซึมสู่ร่างกายของเขาผ่านรูขุมขน แทบจะแช่แข็งเขาได้
หลักจากดำน้ำลงไปหลายครั้งก็ยังไม่พบตำแหน่งที่แน่นอนของเหยาเสิน ทันใดนั้นในใจก็กระสับกระส่ายขึ้นมาบ้าง
ส่วนคนที่ยืนอยู่บนชายฝั่งพร้อมใจกันทั้งลำคอตา ต่างจดจ่อในการจ้องมองไปที่พื้นผิวแม่น้ำอย่างเงียบๆ
ทุกครั้งที่เห็นเขาโผล่หัวออกมาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก มองเขาดำน้ำลงไปอีกครั้งในใจก็อดไม่ได้ที่จะตึงเครียดแทน
“โครตเก่ง ถ้าเป็นฉันคงไม่ไหวตั้งแต่แรกละ”
“เห้อ ประมาณการแล้วคนที่จมในน้ำคงเป็นญาติของเขาไม่ก็เพื่อนแหละ คิดว่าคงไม่น่าไหวแล้ว ผ่านไป10 นาทีกว่าแล้ว ถึงแม้จะช่วยขึ้นมาได้แต่เกรงว่าชีวิตไม่น่าอยู่รอดไหว ทำไปทำไมกัน ปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป เขาเองก็อาจจะตายได้เหมือนกัน”
“ไอ้หนุ่ม รีบขึ้นมาเถอะ!” มีคนรอจังหวะที่เขาโผล่หัวขึ้นมาแล้วพูดตะโกนเสียงดังออกไป
เวลานั้นถางซือซือก็สำลักน้ำออกมาหลายคำจากนั้นก็ฟื้นตัวขึ้นมาแล้ว แต่ว่ายังคงอ่อนแออยู่ สีหน้าซีดขาว ริมฝีปากสีม่วงซีด
“เร็ว! ยกขึ้นรถพยาบาลก่อนเถอะ ข้างนอกมันหนาวเกินไป” หมอคนหนึ่งพูดขึ้นมา
“คุณคนสวย ในใต้น้ำยังมีคนอยู่ไหม ไม่สนแล้วว่ามีคนอยู่ในใต้น้ำไหม ซึ่งตอนนี้คุณควรรีบเรียกสามีของคุณขึ้นมาบนฝั่งได้แล้ว เขาอยู่ใต้น้ำดำน้ำช่วยเหลือในการค้นหาคนเป็นเวลา 10 กว่านาทีแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเขาจะทนไม่ไหวได้” พยาบาลผู้หญิงคนหนึ่งได้พูดขึ้นซึ่งอยู่ข้างๆเธอ
เธอมองเห็นเซียวชุ่นดำลงไปในใต้น้ำหลายครั้งไม่หยุดหย่อนเป็นเวลานานมาก ตอนนี้เพิ่งสิ้นเดือนมีนาคม พอนึกถึงอุณหภูมิในน้ำก็ทนไม่ไหวที่จะรู้สึกหนาวเหน็บเข็ดฟัน แม้แต่คนที่เห็นความเป็นความตายจนชิน ก็อดไม่ได้ที่จะสั่นไหวเล็กน้อย
“สามี?” สมองของถางซือซือในเวลานั้นเพิ่งตื่นจากภาวะขาดออกซิเจน เธอเลยพึมพำเบาๆ
เธอมองไปทางพื้นผิวน้ำ ไม่ช้านักก็มองเห็นเซียวชุ่นโผล่หัวออกจากแม่น้ำ มองจากระยะไกลๆก็สามารถรับรู้ได้ว่าในใจเขาวิตกกังวล รวมทั้งร่างกายของเขาที่ต้องทนทุกข์ทรมาน
“เป็นเขาที่ช่วยฉันขึ้นมาก่อนงั้นหรอ?” ถางซือซือถามขึ้นมาแบบไม่รู้ตัว
“ใช่สิ ตอนที่เขาช่วยคุณขึ้นมาตอนนั้นก็รู้สึกได้ว่าเขาไม่มีเรี่ยวแรงแล้ว นี้ก็ผ่านไป 10 กว่านาทีอีกแล้ว คนในน้ำคงไม่น่าไหวตั้งนานหละ เขาทำแบบนี้มันอันตรายมากเลย”
ในชั่วพริบตา ถางซือซือน้ำตาไหลอาบหน้า นึกอยากลองพยายามลุกขึ้นดูแต่ดันออกแรงไม่ได้สักนิด
“พาเธอขึ้นในรถพยาบาลก่อน เร็ว!” หมอคนเมื่อกี้พูดขึ้นมาอีกครั้ง
“อย่ามัวยืนนิ่ง คนไข้ร่างกายอ่อนแอ อย่าให้หลงเหลือต้นเหตุของการป่วยอะไรไว้เลย”
จากนั้นพยาบาลสองคนช่วยพยุงเธอเดินไปทางรถพยายาล
ถางซือซือหันหลังมองไปยังพื้นผิวแม่น้ำที่ไหลเชี่ยว กล่าวอย่างอ่อนแรงว่า: “ปล่อยฉัน ฉันจะอยู่รอเขาตรงนี้”
ถางซือซือไม่สามารถเรียกร้องให้เซียวชุ่นกลับขึ้นมา เพราะว่าคนที่อยู่ใต้น้ำนั้นต่างหากที่เป็นภรรยาของเขา ถึงแม้เธอจะไม่รู้สาเหตุว่าทำไมเซียวชุ่นถึงเลือกช่วยตัวเองก่อน อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นเขาช่วยเหยาเสินโดยไม่คำนึงถึงชีวิตตัวเองว่าจะตายร้ายดียังไง ก็รู้ได้เลยว่าเขารักภรรยาของเขาอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊
ไม่อัพต่อแล้วเหรอครับ...