เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊ นิยาย บท 27

“แกเห็นว่าพวกเราตาบอดกันใช่ไหม? ลูกอย่าไปเชื่อคำพูดบ้าๆนี่ของเขานะ วันนี้พวกแกจะต้องหย่ากัน!”หลิวหยุนเซียงเอ่ยขึ้น

หลังจากที่เงียบไปอยู่นาน

เหยาเสินสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมามองเซียวชุ่น : “ฉันเชื่อ”

หลิวหยุนเซียงมองเหยาเสินด้วยความประหลาดใจ แล้วเอ่ยพูดขึ้นมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ : “แกว่าอะไรนะ? แกเชื่อคำพูดบ้าๆนี่ของเขาอย่างนั้นเหรอ?”

“แม่คะ หนูเชื่อเขาค่ะ”

เวลาสามปี เพียงพอที่เธอเข้าใจชัดเจนในคุณสมบัติของคนๆหนึ่งได้ ถึงแม้ว่าเซียวชุ่นจะเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ไม่มีอะไรดีซักอย่างก็จริง แต่คุณสมบัติของเขาเธอชัดเจนดีมาก เขาไม่เคยโกหก อย่างน้อยๆเขาก็ไม่โกหกตัวเอง

“โอ้ว พระเจ้า นี่ฉันไปทำบาปทำกรรมอะไรไว้ ให้ฉันตายไปเสียเลยดีกว่า ทำไมถึงต้องมาเจอกับเด็กโง่ๆอย่างแกด้วยนะ ไอ้คนไร้ประโยชน์นี่มันกรอกอะไรให้แกเชื่อคำพูดเขากันแน่ แม้แต่คำพูดของเขาแกก็เชื่อ แกทำให้ฉันโมโห ช่างมันแล้วกัน” หลิวหยุนเซียงเริ่มดุด่าออกมาด้วยความเดือดดาลอีกครั้ง

“เรื่องนี้ก็เอาไว้แค่ตรงนี้แล้วกันนะคะ หนูไปทำงานแล้ว” เหยาเสินลุกขึ้นเอ่ยขึ้นกับเหยาเจี้ยนกั๋ว : “พ่อคะ พ่อจะกลับไปที่โรงเรียนไหมคะ? ติดไปด้วยกันกับหนูไหม?”

เหยาเจี้ยนกั๋วมองไปยังหลิวหยุนเซียงแวบหนึ่ง เขาเองก็ไม่ยอมที่จะอยู่บ้านฟังเธองี่เง่าแบบนี้ จึงรีบเอ่ยขึ้นมา : “ตอนบ่ายพ่อมีสอน ไปกับลูกนี่แหล่ะ”

ทั้งสองคนเดินตามกันไปที่ประตู

เหยาเสินเข้าไปเปิดประตูก็เห็นคนสูงวัยผมขาวแปลกหน้าคนหนึ่ง ข้างๆคนสูงวัยมีชายวัยกลางคนที่สวมใส่แว่นตาอย่างมีความเป็นผู้ดียืนอยู่ด้วย

“มาหาใครคะ?”

“ผู้อำนวยการหวาง? ท่านมาได้อย่างไรครับ?”เหยาเจี้ยนกั๋วเอ่ยขึ้นอย่างประหลาดใจ

คนที่มานั้นเป็นหวางโป๋ซงและหวางเหวินเหย้าลูกชายของเขา ถึงแม้ว่าเหยาเจี้ยนกั๋วกับหวางโป๋ซงจะไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์อะไรกันนัก แต่งานสำคัญๆของโรงเรียนก็เคยเจอกันอยู่สองสามครั้ง รู้ว่าเขาเป็นบุคคลที่เหมือนเป็นนามของมหาวิทยาลัยตงหลิน และเป็นอธิการบดีที่มีเกียรติและมีชื่อเสียงของตงหลินด้วยเช่นกัน

หวางโป๋ซงยิ้มพลางเอ่ยขึ้น : “ทำไมหรือ? ไม่คิดที่จะเชิญคนแก่ๆอย่างฉันเข้าไปในบ้านหน่อยหรือไงกัน?”

เหยาเจี้ยนกั๋วมัวแต่สนใจเรื่องที่กำลังรู้สึกประหลาดใจอยู่ ลืมให้พ่อลูกตระกูลหวางเข้าไปด้านใน

หวางโป๋ซงเป็นใครกัน?

เขาดำรงตำแหน่งอยู่ที่ตงหลินเป็นสิบปี จากวิทยากรธรรมดาๆคนหนึ่งจนได้กลายมาเป็นอธิการบดี ต่อมาหลังจากที่เกษียณอายุไปแล้วก็ดำรงตำแหน่งเป็นอธิการบดีกิตติมาศักดิ์ มีคุณธรรมและบารมีสูงส่ง อีกทั้งมีอำนาจที่ยิ่งใหญ่ มีลูกศิษย์มากมายอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง คณะกรรมการวิชาการมีสมาชิกไม่น้อยที่เป็นสายที่ได้รับการถ่ายทอดความรู้จากเขาโดยตรง

แม้แต่คณบดีสถาบันเคมีคนปัจจุบันก็เป็นนักเรียนของเขาด้วยเช่นกัน และเป็นสมาชิกของคณะกรรมการวิชาการด้วยเช่นกัน ถ้าหากเขายอมพูดถึง ครั้งนี้ตำแหน่งศาสตราจารย์ของตัวเองก็จะยิ่งมีความมั่นใจขึ้นมากแล้ว

นอกจากนี้ คนที่สามารถควบคุมอำนาจระดับสูงในเมืองเจียงไห่ปัจจุบันนี้ก็เป็นนักเรียนที่เขาเคยสอนอีกด้วยเช่นกัน

บุคคลในตำแหน่งแบบนี้มาหาเขาถึงที่บ้านจะให้เขาไม่ตื่นตกใจได้อย่างไรกัน

เพียงแต่ปกติแล้วตัวเองไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับนักวิชาการท่านนี้ จึงรู้สึกมึนงงอยู่เล็กน้อยจริงๆว่าทำไมวันนี้เขาถึงได้มาหาถึงที่ด้วยตัวเองแบบนี้

เขามีสติขึ้น แล้วเอ่ยพูด : “นายท่านหวาง เชิญเข้ามาได้เลยครับ”

พลางออกคำสั่งกับเหยาเสิน : “รีบไปเอาชาต้าหงเผามาเร็วเข้าคุณ”

หลิวหยุนเซียงที่กำลังเดือดดาลอยู่ตลอดนั้นเวลานี้ก็หยุดลงแล้ว ในบ้านมีแขกมา เห็นว่าเหยาเจี้ยนกั๋วดูให้ความเคารพขนาดนั้นแล้วก็รู้ว่าสถานะของคนที่มานั้นสำคัญ เธอหยาบคายอีกก็รู้ว่าเอะอะในเวลานี้ก็จะกลายเป็นเรื่องตลกแล้ว

หลังจากที่หวางเหวินเหย้าประคองหวางโป๋ซงเข้ามาแล้ว ก็เห็นเซียวชุ่นในทันที

“ผู้เพื่อนเซียว พวกเราพบกันอีกแล้วนะ”หวางโป๋ซงยิ้ม พลางก้าวเข้าไปข้างหน้าแล้วโค้งตัวลงและเอ่ยขึ้นอย่างนอบน้อม

เซียวชุ่นพยักหน้าลงเป็นการทักทาย

ตระกูลเหยาทั้งสามคนนั้นมีใบหน้าที่ประหลาดใจ ในใจรู้สึกสงสัยขึ้นมาอย่างไม่ได้นัดกันไว้ ว่าทำไมคนที่มาถึงได้รู้จักกับบุคคลไร้ประโยชน์คนนี้ได้?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊