ซ่งเจิ้นไห่เข้าใจเพื่อนเก่าคนนี้เป็นอย่างดี นิสัยหยิ่งผยอง ราวกับว่าจะหยิ่งไปถึงเลือด หยิ่งเข้ากระดูกดำไปเลย
ก่อนนี้มีแพทย์แผนจีนฝีมือดีและมีชื่อเสียงหลายต่อหลายคนขอร้องให้ซ่งเจิ้นไห่ช่วยแนะนำให้ ด้วยหวังว่าจะได้แลกเปลี่ยนพูดคุยกับปรมาจารย์แพทย์แผนจีนคนนี้ แต่เขาแม้แต่จะเจอหน้ากันสักครั้งยังคร้านจะเจอ ทั้งหมดถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย
หากว่าครั้งนี้ไม่ใช่ผู้มีพระคุณต่อซ่งเจิ้นไห่ อีกทั้งยังถูกหว่านล้อมทั้งไม้อ่อนไม้แข็ง เขาก็คงไม่มีทางมาพบเซียวชุ่นเป็นแน่
แต่ว่า ในตอนนี้คนที่หยิ่งผยองเข้ากระดูกดำคนนี้ไม่แม้แต่จะแข่งด้วยซ้ำ กลับพูดออกมาด้วยท่าทางสบาย ๆ ว่า “ฉันยอมแพ้”?
ซ่งเจิ้นไห่ถึงกับสงสัยว่า หวางเย๋ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเป็นของลอกเลียนแบบหรือเปล่า นี่มันผิดปกติเกินไป!
“ท่านหวาง ทำไมท่านถึง...” เหยาเจิ้นชูไม่รู้จะทำอย่างไร มันอาจจะเป็นเพราะเขาเกรงใจชายชราคนนี้ จึงแค่พูดกลับกันเท่านั้น
“พวกคุณไม่ได้ฟังผิด ข้ายอมแพ้ ผู้เพื่อนเซียวคนนี้ฝีมือทางการแพทย์สูงกว่าฉันอย่างเห็นได้ชัด” หวางเย๋พูดด้วยสีหน้านิ่งเรียบ
“แต่ว่า... ท่านไม่แม้แต่จะแข่ง...” เหยาเจิ้นชูยังคงพูดด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ
หวางเย๋หัวเราะในลำคอพร้อมกับพูดต่อ “ไม่จำเป็น ฉันหวางเย๋ออยู่ในโลกแพทย์แผนจีนหลายทศวรรษ ไม่มีทางที่จะมองคนผิด”
จากนั้นก็หันไปทาง เซียวชุ่นและโค้งคำนับ “ผู้เพื่อนเซียว ไม่รู้ว่าฉันจะสามารถมีโอกาสได้พูดคุยกับท่านเป็นการส่วนตัวหรือไม่?”
เซียวชุ่นเหลือบตามองเขาเล็กน้อย จากนั้นก็พยักหน้า
“นายท่านตระกูลเหยา ขอยืมห้องอันล้ำค่าสักห้องจะได้หรือไม่ เพื่อให้ข้ากับผู้เพื่อนเซียวได้พูดคุยกัน?” หวางเย๋กดความดีใจในหัวใจเอาไว้
เหยาเจิ้นชูมองไปทางเซียวชุ่นด้วยสีหน้าสับสน จากนั้นก็พยายามปั้นหน้ายิ้ม “แน่นอน เป็นเกียรติยิ่งนัก”
เขารีบสั่งการคนรับใช้ให้พาหวางเย๋กับเซียวชุ่นไปห้องรับรองแขกห้องหนึ่งของบ้านเก่าแก่
มองทั้งสองเดินจากไป คนที่เหลือก็พากันมองหน้ากันไปมา สีหน้างุนงง
ณ ห้องรับรองแขกของบ้านเก่าแก่ตระกูลเหยา
หลังจากที่คนรับใช้ได้ปิดประตูห้องลงด้วยความระมัดระวัง หวางเย๋คุกเข่าลงต่อหน้าเซียวชุ่นดังปุก สีหน้าตื่นเต้นดีใจเหลือประมาณ “คุณเซียวช่วยฉัน ช่วยตระกูลหวาง...”
เซียวชุ่นก็ตกใจจากการกระทำของเขาที่อยู่ ๆ ก็คุกเข่าลงไปกับพื้น รีบพยุงเขาขึ้นมาทันที จากนั้นก็ถอนหายใจและขมวดคิ้วแน่น
“ตอนที่อยู่ที่สืออันถังฉันก็ได้บอกคุณไปแล้ว ตอนนี้ฉันไม่สามารถช่วยคุณได้”
“เช่นนั้น... เช่นนั้นคุณเซียวจะสามารถช่วยฉันได้เมื่อไรกัน?” หวางเย๋พึมพำ
“ข้ายังฝึกตนไม่พอ”
เซียวชุ่นกุมมือพร้อมพูดขึ้นเบา ๆ จากนั้นก็พูดเสริม “แต่ว่าฉันสามารถช่วยคุณบรรเทาอาการเจ็บป่วยบนร่างกายได้ชั่วคราว มันจะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นบ้าง”
หวางเย๋เผยสีหน้าที่มีชีวิตชีวา แก้มทั้งสองข้างแดงระเรื่อ เป็นความจริงที่เขาต้องทนทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวดทุกวัน โดยเฉพาะเมื่อถึงตอนกลางคืน ราวกับมีแมลงนับหมื่นตัวกำลังกัดกินกระดูกของเขาอยู่แทบจะทำให้เขาตายไปด้วยความเจ็บปวด
มีหลายครั้งที่สาหัสจนเขาคิดว่าจะผสมยาพิษจบชีวิตตัวเองเสีย
แต่ใช้ชีวิตแย่ ๆ ก็ยังดีกว่าตายดี ถึงอย่างไรเขาก็รู้ตัวดีว่ามีชีวิตได้อีกไม่ถึงหนึ่งปี เช่นนั้นจึงยังคงไม่กล้าที่จะลงมือ
ได้ยินคำพูดของเซียวชุ่น สีหน้าก็พลันเปลี่ยนเป็นความดีใจทันที “ได้จริง ๆ หรือ?”
“ลองดูก่อนก็ได้” เซียวชุ่นพูดพร้อมกับหยิบกล่องเข็มขึ้นมา
“ที่นี่เลยหรือ?” หวางเย๋รู้สึกลังเลเล็กน้อย
“ที่นี่แหละ” เซียวชุ่นชี้ไปที่เก้าอี้อีกตัวข้าง ๆ พร้อมเอ่ย “คุณไปนั่งตรงนั้นเถอะ”
หวางเย๋รีบเดินไปนั่งตามที่บอก เซียวชุ่นยืนอยู่ด้านข้าง จิ้มเข็มเงินเล่มหนึ่งลงไปที่จุดหยินอย่างระมัดระวัง ตามด้วยจุดฝังเข็มอื่น ๆ ทุกเข็มที่จิ้มลงไปก็ได้เอาพลังชี่ทิพย์ที่อยู่ในร่างกายของตนพันรอบรอบเข็มและค่อย ๆ ปล่อยเข้าไปด้วย
หลังจากผ่านไป 13 เข็ม เขาก็พ่นลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่
หวางเย๋เผยสีหน้าประหลาดใจ รู้สึกแค่ว่าที่ข้างหูมีเสียงคำรามของมังกรสะท้อนกลับมา ภาพหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้า
ราวกับว่าทุกสิ่งอยู่ในฤดูใบไม้ผลิ ดอกไม้ตูมที่เพิ่งงอกเงย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊
ไม่อัพต่อแล้วเหรอครับ...