เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊ นิยาย บท 54

สรุปบท บทที่ 54 นี่ข้าเอง: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊

บทที่ 54 นี่ข้าเอง – ตอนที่ต้องอ่านของ เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊

ตอนนี้ของ เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊ โดย ลุงหมาป่า ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 54 นี่ข้าเอง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

“คุณอยู่ที่ไหน?”เซียวชุ่นถาม

“น่าจะอยู่ที่คลับmomo….”

ยังพูดไม่จบก็ได้ยินเสียงต่อยกัน ทันใดนั้นก็ได้ตัดสายโทรศัพท์ไป

เซียวชุ่น“….”

เขารีบเดินไปที่ถนน ก่อนจะรีบโบกแท็กซี่ไปที่Momoคลับ

ใยยี่เง่านั่นเป็นถึงหลานสาวของซ่งเจิ้นไห่ ถึงจะพูดอย่างไรเธอก็เป็นลูกศิษย์ของเขา ยังไงก็ต้องช่วย

ไม่กี่สิบนาทีรถแท็กซี่ก็จอดลงที่หน้าคลับแห่งหนึ่ง

เนื่องจากเป็นตอนเช้า ทางด้านหน้ามีรถจอดอยู่ไม่กี่คัน มองแล้วไม่มีลูกค้าคนไหนเข้าออก

เซียวชุ่นเดินไปที่หน้าประตู ก่อนจะได้ยินเสียงทุบตีต่างๆจากภายด้านใน

เขาผลักประตูเข้าไป ภายในคลับนั้นมืดกว่าภายด้านนอกมาก เลยทำให้ดวงตาของพวกเขานั้นจำเป็นที่จะต้องเบิกตากว้างเองอัตโนมัติ

แต่ตอนนี้ภายในคลับนั้นวุ่นวายมาก มีผู้ชายสิบกว่าคนที่แต่งตัวเป็นอันธพาล กำลังต้องมองเด็กสาวผู้หญิงคนหนึ่งที่ร่างบอบบาง

ผมของเธอนั้นยุ่งเหยิง เสื้อผ้าที่ยับเยินและร่างกายที่โค้งงอ ที่ราวกับลูกแมวตัวน้อยที่กำลังโกรธจัดและจ้องมองไปที่ศัตรู

เนื่องจากที่เธอหันหลังให้กับประตู และเอาแต่จ้องไปที่ศัตรูด้านหน้า เลยทำให้ไม่รู้ว่าเซียวชุ่นนั้นมาถึงแล้ว

ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกราวกับว่ามีใครเอามือมาวางบนไหล่ ราวกับมีใครเอาไฟฟ้ามาช็อต ส่วนมากแล้วเมื่อเจอดังนี้เธอจึงรีบจับมือคนที่เอามือที่พาดไว้ที่หัวไหล่ของเธอ และพร้อมที่กำลังจะพลิกและโจมตี

ก่อนจะได้ยินเสียงข้างๆหูที่คุ้นเคย “นี่ข้าเอง”

ก่อนที่เธอจะตัวแข็งนิ่งไป และหันหัวกลับไปดู ใบหน้าของเธอนั้นก็แสดงถึงความดีใจ“อาจารย์ ท่านมาทำอะไรที่นี่?”

ก่อนที่รอยยิ้มของความสุขจะหายไป ก่อนที่เธอจะขมวดคิ้ว และพูดว่าเป็นกังวล“ท่านหนีไป ที่นี่ไม่ปลอดภัยนะ ข้าจะคอยคุ้มกันข้างหลังให้เอง”

เซียวชุ่น“……”

ยัยบ้านี่น่าจะอ่านนิยายศิลปะการต่อสู้มากไปแล้วนะ แม้แต่คำพูดในนิยายยังพูดออกมาได้

แต่ว่าเร็วๆนั้นก็คิดตระหนักออกว่า เขาคิดว่าซ่งหลิงเออร์นั้นเก่งแค่วิชาแพทย์ แต่ทว่าไม่รู้ว่าด้านการต่อสู้เธอก็ทำได้ เธอเพียงแค่คิดว่าอยากจะปกป้องเขา แต่ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา และไม่แปลกใจเลยที่เธอจะเป็นจอมยุทธ์หญิงซ่ง

เซียวชุ่นกวาดตามองไปรอบๆ พวกนักเลงสิบกว่าคนนี้ จริงๆแล้วมีไม่กี่คนที่เป็นคนที่เรียนวิชามา

ไม่แปลกใจทำไมซ่งหลิงเออร์ถึงได้ลำบากขนาดนี้ ปกติแล้วเธอสามารถที่จะต่อสู้กับอันธพาลข้างถนนไม่กี่คนได้ แต่ทว่าหากมองจากความสามารถในการต่อสู้และร่างกายเธอในตอนนี้นั้นมันช่างยากเย็นเหลือเกิน อีกทั้งเธอยังตัวคนเดียวอีกด้วย

“เจ้าน่ะ ออกไปจากที่นี่สะ อย่ามายุ่งกับเรื่องไม่เป็นเรื่องสิ”

ก่อนจะมีชาย ที่บริเวณปลายคิ้วมีรอยแผลเป็นที่เป็นรอยบากออกมาพูดขึ้น

“เจ้าไม่ได้ยินหรอว่าเธอเพิ่งจะเรียกฉันว่าอาจารย์น่ะ? ไม่ว่าจะครั้งแรกหรือตลอดไปยังไงก็คืออาจารย์ ลูกสาวข้าถูกทำร้าย ข้าจะไม่สนใจได้ยังไงล่ะ” เซียวชุ่นลากซ่งหลิงเออร์ไปไว้ด้านหลัง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

ซ่งหลิงเออร์นิ่งแข็งไป ก่อนจะเอ่ยเบาๆ “ท่านอาจารย์ ท่านไปก่อนเถอะ อย่ามาสนใจข้าเลย พวกเขาไม่กล้าทำอะไรข้าหรอก”

“ได้สิ ในเมื่อผู้ปกครองเจ้ามาแล้ว ข้าก็ไม่ใช่ว่าเป็นคนไม่มีเหตุผลสะด้วยสิ ข้ามีลูกน้องบางคนถูกยัยบ้านี่ทำร้ายจนต้องเข้าโรงพยาบาล เจ้าจะจัดการยังไงล่ะ?”ชายผู้มีรอยแผลเป็นพูดพร้อมพยักคิ้ว

“งั้นมันก็สมควรแล้วละ!”

ซ่งหลิงเออร์หลบอยู่ด้านหลังของเซียวชุ่น ก่อนจะยื่นตัวออกมาครึ่งหนึ่ง ใบหน้าที่มอมแมมและดวงตาที่เล็กราวกับแมวน้อย ก่อนจะเอ่ยคำราม

“เจ้าอยากตายหรอ!” ชายหน้ารอยบากใช้ท่อนเหล็กชี้และตะโกนไปที่เขาอย่างดุร้าย

“เจ้าจะจัดการอย่างไรล่ะ?”เซียวชุ่นถามกลับ

ชายผู้มีแผลเป็นพูดเบาๆ“ง่ายๆเลยนะ ข้าต้องการเงินสิบล้าน ไม่อย่างงั้นให้นางผู้หญิงคนนั้นอยู่กับพรรคพวกของข้าคืนนึงก็ได้”

“ให้ตายเถอะ ไปฆ่ามันสะ”

เมื่อชายหน้าบากออกคำสั่ง ลูกน้องนับสิบต่างก็วิ่งออก พร้อมทั้งตะโกนไปที่เซียวชุ่นและซ่งหลิงเออร์

เซียวชุ่นหันหลังก้มเก็บกระบอกเหล็กที่พื้น และสะบัดออกไป“ปัง” ทุกคนในตอนนี้รู้สึกราวกับว่าภายในคลับนั้นต่างรู้สึกตกตะลึงกับเสียงที่ดัง

ทุกคนต่างก็ตกใจเอามือกุมหัว ก่อนจะรีบขดตัวลง ส่วนทางด้านเจิ้งหย่งจางก็รีบลงจากเก้าอี้ และขดตัวลงไปใต้โต๊ะบาร์อย่างไม่รู้ตัว

และรีบมองกันที่ที่เพดานที่ฝ้าเพดานและฝุ่นกำลังร่วงลงมา

เมื่อเหลือบมองไปข้างบน ก็พบกับแท่งเหล็กที่เสียบคากับท่อเพดานข้างบน ก่อนที่จะมีรอยแตกร้าวเป็นใยแมงมุม

เมื่อผู้คนได้เห็นเรื่องก็ตกตะลึงเป็นอย่างมาก

ในตอนนี้ เซียวชุ่นก็ได้ลากซ่งหลิงเออร์ออกไปจากคลับแล้ว ไม่มีคนใดที่สามารถจะตามเขาทัน

ไม่ว่าจะทรงพลังขนาดไหน ก็ไม่เคยได้ยิน แล้วใครจะกล้าออกตามไป ออกไปหาที่ตายอย่างงั้นหรอ?

ซ่งหลินเออร์ได้ยินเพียงแค่เสียงที่ดังขึ้น หลังจากนั้นทั้งคลับก็ได้เกิดการสั่นสะเทือน จนตอนนี้ภายในคลับเป็นอย่างไรเกิดอะไรขึ้นเธอก็ไม่รู้ เห็นเพียงแต่ไม่มีใครวิ่งตามออกมา ที่ทำให้เธอเกิดความงุนงง

“อาจารย์ เมื่อสักครู่เกิดอะไรขึ้นนะ?”

“แผ่นดินไหวนะ”เซียวชุ่นพูดด้วยสีหน้านิ่งเรียบ

ซ่งหลินเออร์มองไปที่เขาด้วยตาโตโดยไม่กะพริบ

“ทำไมล่ะ?”เซียวชุ่นยิ้มๆ

ซ่งหลิงเออร์แอบมองไปที่ใบหน้าของเซียวชุ่นที่ราวกับใบมีดอันคมกริบเป็นสัน ที่ใบขอบหน้ามีความเฉียบคมอย่างชัดเจน เมื่อมองไปเซี่ยวชุ่นก็นึกถึงความร้อนมืออุ่นๆที่ได้จับหัวไหล่ของเธอ ก่อนที่จะรู้สึกตื่นเต้นในใจ ใบหน้าร้อนพ่าว และเอ่ยอ้ำๆอึ้งๆ

“ไม่…… ไม่มีอะไรค่ะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊