หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว เหยาเจี้ยนกั๋วไปทำงาน ส่วนหลิวหยุนเซียงไปตลาดดอกไม้ เตรียมปลูกไว้ในคฤหาสน์ หลังจากเหลือเพียงเหยาเสินกับเซียวชุ่น
เซียวชุ่นยิ้มอย่างไม่พูดไม่จา จ้องนิ่งมองดูนาง
“มองฉันแบบนี้ทำไม?” เหยาเสินถามขึ้นอย่างแปลกประหลาดใจ
“วันนี้คุณสวยมาก”
เหยาเสินพูดอะไรไม่ออกในทันใด
คนเลว ฉันกำลังคุยเรื่องจริงจังนะ อย่ามาหยอกล้อฉัน
ซือคงซิงกระทำอนาจารกับเสาของโรงแรม ภาพเจิ้งหย่งจางเต้นรำต่อหน้าผู้คน โด่งดังระเบิดไปทั่วฟอรัมท้องถิ่นและแวดวงเพื่อนในชั่วข้ามคืน
ทั้งคนนี้ล้วนเป็นเพลย์บอยอันดับหนึ่งของเมืองเจียงไห่ ทำให้ทุกคนตกใจจนคางแทบหลุด
แต่ความร้อนแรงก็ถูกยับยั้งไว้ภายในครึ่งวัน แสดงให้เห็นถึงอำนาจของทั้งสองตระกูลใหญ่ที่มีอยู่ในเมืองเจียงไห่
“อับอายขายขี้หน้า เจ้าลูกอกตัญญู ขายหน้าตระกูลเจิ้งจนหมดสิ้น”
วิลล่าชิวซาน นายท่านตระกูลเจิ้งเจิ้งหยุนเห้อ ชี้หน้าตะคอกก่นด่าเจิ้งหย่งจาง
“พ่อ ผมก็แค่เต้นรำ จะต้องโกรธโมโหขนาดนี้เลยหรือ”
เจิ้งหย่งจางนั่งลงบนโซฟาอย่างไม่แยแส กัดกินแอปเปิ้ลในมือพร้อมพึมพำพูดขึ้นอย่างไม่เดือดร้อน
“เจิ้งหย่งจาง ปกติสร้างความเดือดร้อนยังไงก็แล้วแต่ ตอนนี้ก่อเรื่องแบบนี้อีก ไม่ได้ทำให้ตนเองขายหน้า แต่เป็นการทำให้ตระกูลเจิ้งต้องอับอายขายหน้า” เจิ้งหยุนเห้อโกรธจัดจนสั่นไปทั้งตัว
เจิ้งหย่งจางลุกขึ้นยืน นิ่งจ้องมองเจิ้งหยุนเห้อ
“ตอนนี้รังเกียจที่ผมทำให้ตระกูลเจิ้งอับอายขายหน้าหรือ? งั้นผมขอถามพ่อ ปีนี้ผมอายุเท่าไหร่แล้ว? เกิดวันเดือนที่เท่าไหร่?”
เจิ้งหยุนเห้ออึ้ง ในฐานะที่เขาเป็นนายท่านตระกูลเจิ้ง ปกครองดูแลตระกูลใหญ่ขนาดนี้ หลายปีมานี้รับผิดชอบดูแลจัดการงานทุกอย่างของตระกูล แต่กลับถามเรื่องภายในบ้านน้อยครั้งมาก
แม่ของเจิ้งหย่งจาง เป็นภรรยาคนที่หนึ่งของเขา เสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่ตอนที่เจิ้งหย่งจางยังเด็ก
ตอนที่แม่ของเขาเสียชีวิต เจิ้งหยุนเห้อกำลังเจรจาธุรกิจอยู่ที่ต่างประเทศพอดี ดังนั้นจึงไม่ได้เห็นหน้าเป็นครั้งสุดท้าย
ดังนั้นเจิ้งหย่งจางจึงขาดวินัยมาตั้งแต่เด็ก และทำให้เขากลายเป็นคนที่มีนิสัยเย่อหยิ่งอันธพาล เจิ้งหยุนเห้อรู้สึกผิดต่อเขา ทั้งที่รู้ว่าเขากระทำอะไรไปบ้าง ก็ล้วนทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
“พูดไม่ออกใช่ไหม? งั้นต่อไปก็ไม่ต้องมายุ่งเรื่องของผม ไม่ยังงั้นก็ไล่ผมออกจากตระกูลเจิ้งไปเลย”
เจิ้งหย่งจางพูดประโยคนี้เสร็จก็เดินออกจากประตูบ้านไปเลย
เจิ้งหยุนเห้อมองดูเงาหลังของเขาอย่างโกรธจัด จนพูดไม่ออก
และในเวลานี้ พ่อบ้านติงหู้เข้ามารายงานว่า “นายท่าน ซ่งเจิ้นไห่ท่านซ่งมาหา”
เจิ้งหยุนเห้อขมวดคิ้ว พร้อมพูดขึ้นอย่างสงสัยว่า “ปกติตระกูลเจิ้งกับตระกูลซ่งไม่ไปมาหาสู่กัน เขามาทำไม?”
แต่ยังไงตระกูลซ่งก็เป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ เขาไม่สามารถละเลยได้
“ผมไปรับด้วยตัวเอง” เจิ้งหยุนเห้อลุกขึ้นยืน แล้วเดินออกไป
……
ภาพซือคงซิงกับเจิ้งหย่งจางเป็นที่ร่ำลือไปทั่วเจียงไห่อย่างมืดฟ้ามัวดินในชั่วข้ามคืน นี่คือผู้สืบตระกูลของสองตระกูลใหญ่ที่มีชื่อเสียง
เจิ้งหย่งจางถึงแม้ถึงแม้จะเป็นคนอันธพาล แต่ธุรกิจกิจการภายใต้การดูแลของเขาถือว่ายอดเยี่ยม Momo Barสำหรับเขาเป็นเพียงสถานที่เพื่อความสนุกสนานเท่านั้น
ซือคงซิงเองไม่ต้องพูดถูก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊
ไม่อัพต่อแล้วเหรอครับ...