ซือคงซินหรงดึงขาของเขาออกจากอ้อมแขนของหลิวชิงเหม่ย และตำหนิด้วยใบหน้าเคร่งขรึมว่า: "ลูกที่พวกคุณคุณอบรมเลี้ยงดูมาอย่างดีได้ทำสิ่งที่น่าอับอายมาสู่ตระกูลซือคง ในฐานะที่พวกคุณเป็นพ่อแม่ยากที่จะหลีกเลี่ยงความผิด!"
“นายท่าน เป็นความผิดฉันเองที่ไม่ได้อบรมสั่งสอนลูกซิงให้ดี ท่านตีฉันเถอะ ลูกซิงอ่อนแอมาตั้งแต่เด็ก เขาคงจะทนการลงโทษแบบนี้ไม่ได้แน่”
หลิวชิงเหม่ยพูดอย่างร้องไห้
เพี๊ยะ!
ซือคงซินหรงไม่สนใจหล่อน และฟาดแส้ไปที่ลำตัวของซือคงซิง แล้วพูดด้วยใบหน้าที่นิ่งเฉยว่า: “ใครทำผิดก็ต้องรับโทษด้วยตัวเอง จัไม่มีใครรับโทษแทนเขา”
ซือคงซิงคร่ำครวญ ใบหน้าบิดเบี้ยว ดวงตาของเขาเหมือนจะหลุดออกมา ทันใดนั้นก็ความรู้สึกว่าวิญญาณออกจากร่างและภาพตรงหน้าก็มืดมัวแล้วเขาก็สลบไป
ซือคงเจี๋ยและหลิวชิงเหม่ยรีบเข้าไปกอดเขา: ลูกซิง!”
“ป๊า ซือคงซิงสลบไปแล้ว” ดวงตาของซือคงซิงก็แดงก่ำและพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน
ซือคงซินหรงถึงหยุดวีธีการตามตระกูล ใบหน้าที่เหี่ยวย่นของเขาก็สั่นเล็กน้อย
ทำไมขาจะไม่รู้สึกเจ็บปวด ซือคงชินเป็นคนที่เขาเฝ้าดูจนเติบใหญ่ ซือคงชินเป็นหนึ่งในเด็กที่เชื่อฟังและพูดรู้เรื่องที่สุดมาตั้งแต่เด็กในบรรดาหลานๆ พอโตขึ้นก็เป็นคนที่เก่งยอดเยี่ยม ในฐานะที่เป๋นผู้นำของตระกูลซือคงซินจึงพยายามทำตัวให้ยุติธรรม เขาไม่เคยเอ่ยปากพูดสำหรับตำแหน่งผู้นำตระกูลในอนาคต แต่ในใจเขาได้เล็งซือคงชินให้เป็นผู้นำตระกูลในอนาคตไว้แล้ว
ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องอื้อฉาวในเวลานี้ จะไม่ให้เขารู้สึกห่อเหี่ยวใจได้อย่างไร
ซือคงชินหรงโบกมือ แล้วพูดว่า:: "พาเขาลงไป”
“เร็วเข้า รีบอุ้มนายน้อยลงไปเร็ว!” พ่อบ้านไช่หรูรีบสั่งคนใช้ที่อยู่ข้างๆเขา
คนรับใช้สองสามคนรีบเข้าไปอุ้มซือคงซิงอย่างอลหม่านลงไปที่ห้องข้างล่าง หลิวชิงเหม่ยก็ติดตามไปอย่างใกล้ชิด
หลังจากที่ทุกคนจากไป ซือคงซินหรงมองไปที่ ซือคงเจี๋ยด้วยสายตาที่ชรา: “ตรวจสอบความจริงเรื่องนั้นได้แล้วยัง?"
“ตรวจสอบชัดเจนแล้ว” ซือคงเจี๋ยพยักหน้า
จากนั้นเขาก็บอกเรื่องระหว่างซือคงซิงกับเหยาเสินที่เกิดขึ้นในงานการประมูล รวมถึงซือคงซิงกับเจิ้งหย่งจางได้สมรู้ร่วมคิดฆ่าเซียวชุ่น และเรื่องลักพาตัวเหยาเสิน เขาแจกแจกเรื่องราวให้ซือคงซินหรงฟังอย่าละเอียด
“เด็กคนนี้ถูกสะกดจิตด้วยคำว่ารักที่ไร้ค่า ” ซือคงซินหรงถอนหายใจอย่างเย็นชา
“ตระกูลเหยาก็ใหญ่โต ตระกูลซือคงของฉันเทียบไม่ได้กับคนไร้ประโยน์คนนั้นเลยเหรอ?” คนที่ยืนอยู่ด้านข้างพูดขึ้น
“หุบปาก ถ้าตอนนี้แกยังคิดว่าเขาเป็นแค่คนไร้ประโยชน์ งั้นแกก็โง่เขลามาก!” ซือคงซินหรงตำหนิ
คนนั้นรู้สึกตะลึงในทันใด กล้าโจมตีคนในสองตระกูลใหญ่อย่างโจ่งแจ้ง และไม่บอกถึงวิธี แต่คนที่ไร้ประโยชน์ไม่น่ามีความกล้าอย่างนี้
“ป๊า เราจะปล่อยเรื่องนี้ไปไม่ได้!” ซือคงเจี๋ยพูดขึ้น
“ในเมื่อเซียวชุนไม่ใช่คนไร้ประโยชน์ แล้วแก่รู้เบื้องลึกของเขารึยัง?” ซือคงซินหรงถาม
ในปีนั้นเขาถูกเหยาฉางเหอพาตัวกลับไปที่ตระกูลเหยา คนที่โตขนาดนี้แล้ว แต่มีข้อมูลเพียงสามปีที่ผ่านมานี้ เนื่องจากเวลาสั้น จึงไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับที่มาของเขา "ซือคงเจี๋ยตอบ
“สืบต่อไป ถ้าทุกอย่างชัดเจนแล้วค่อยว่ากันอีกที” ซือคงซินหรงพูดอย่างสุขุม
“ครับ ผมจะไปสืบต่อตอนนี้เลย ต่อให้ต้องมุดน้ำดำดินก็ต้องสืบให้รู้ว่าเขาเป็นใครกันแน่ซือคงเจี๋ย.” พูดอย่างกัดฟัน
ในเวลานี้ พ่อบ้านไช่หรูมารายงานว่า: "คุณท่าน เจิ้งหยุนเห้อผู้นำตระกูลเจิ้งขอพบ"
ซือคงชินหรงรู้จุดประสงค์ของเขาที่มาในครั้ง เขาจึงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า: “พาเขาไปที่ห้องโถงใหญ่ก่อน ดูแลเขาให้ดี แล้วฉันจะตามไปทีหลัง”
ไช่หรูตอบรับแล้วรีบออกไป
……
จริงๆแล้วเซียวชุ่นไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างตระกูลเจิ้งกับตระกูลซือคง และสองสามวันมานี้ก็เงียบกริบ แต่ในเงียบเกินไปนั้นทำให้เขารู้สึกแปลกๆเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊
ไม่อัพต่อแล้วเหรอครับ...