ไม่กี่วันต่อมา นอกจากจะหาเวลาว่างสองชั่วโมงต่อวันเพื่อให้คำแนะนำซ่งหลิงเอ๋อร์ในการฝึกฝนหมัดเจ็ดประการแล้ว เเขาไม่รอช้าในการกลั่นเม็ดยา
เขากลั่นเป็นหลายร้อยครั้งถึงจะสำเร็จเป็นเม็ด การทำงานหนักไม่เคยทรยศคนที่ตั้งใจจริงๆ
ผลการกลั่นรอบแรกของเม็ดเพลเลตออกมาได้ดี ในที่สุดก็สามารถปล่อยออกจนได้ แต่ต้องปรับปรุงอีกเล็กน้อย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และเพิ่มอัตราการใช้สมุนไพรให้มากที่สุด ยังไงก็เป็นต้นทุนอยู่แล้ว
ทางด้านเหยาเสิน ภายใต้ความช่วยเหลือจากผู้ช่วยที่เซวซื่อไห่ส่งมาให้และร่วมถึงเครือข่ายของเซวซื่อไห่ ทำให้ขั้นตอนส่วนใหญ่เสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว
ช่างเทคนิคจากโรงงานเก่า เหยาเสินพยายามดึกพวกเขากลับมาได้บ้างคนแล้ว
รอซ่อมแซมอุปกรณ์ในโรงงานให้เสร็จทั้งหมดแล้วคนงานครบก็สามารถเริ่มงานได้ทันที
โรงงานใหญ่ขนาดนี้ แน่นอนว่าเหยาเสินต้องการคนที่ไว้ใจได้สักสองสามคน หล่อนจึงรับผู้ช่วยม่ายเวย์ฉินและเพื่อนร่วมงานบางคนที่เคยมีความสัมพันธ์ที่ไม่เลวตอนที่อยู่บริษัทยู่เหลย อินเตอร์เนชั่นเนลมาทำงานด้วยกัน แม้ว่างานที่พวกเขาทำจะไม่เกี่ยวข้องกับการแพทย์เลยก็ต่าม แต่งานด้านธุรการก็มากพอแล้ว
ส่วนเรื่องทีมการขายคงต้องรับสมัครใหม่จากช่องทางอื่นๆ
ในตอนนนั้นบริษัทเดิมค้างจ่ายเงินเดือนให้กับทีมการขายมากกว่าครึ่งปี ตอนนี้ก็ผ่านมากว่าครึ่งปีแล้วที่บริษัทประกาศล้มละลาย คนส่วนใหญ่ก็ได้งานใหม่ทำกันหมดแล้ว
นอกจากนี้ โดยทั่วไปแล้วแบรนด์ยาในปัจจุบันมักถูกผูกขาดโดยบริษัทขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงบางแห่งในประเทศ อัตราการยอมรับผลิตภัณฑ์ใหม่นั้นไม่สูง ทำให้ไปหนักต้องทำงานหนัก พวกเขาจึงไม่อยากกลับมา
ชั่วพริบตาเดียวก็ผ่านไปอีกครึ่งเดือนแล้ว อากาศเริ่มหนาวเย็น และเซียวชุ่นไม่ได้สวมแค่เสื้อเชิ้ตสีขาวอีกไปตลอด เขาสวมเสื้อแจ็กเก็ตสีดำเพิ่ม
เซียวชุ่นผลักประตูเข้าไปในออฟฟิศของผู้จัดการสตาร์ไลท์บีโอ เขาเข้าไปพร้อมกับถือปิ่นโตเก็บความร้อนไปด้วย แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า
“ประธานเหยายุ่งอะไรอยู่เหรอ?”
เหยาเสินเหลือกตาแล้วพูดด้วยอารมณ์ว่า: “ประธานเซียวมากำกับฉันทำงานเหรอ?”
“แม่คุณต้มซุปฝากผมให้เอามาให้คุณ มากินสักหน่อยสิ”
เซียวชุ่นวางปิ่นโตเก็บความร้อนไว้บนโต๊ะชาบริเวณแผนกต้อนรับด้านข้างๆในออฟฟิศ เขาหยิบชามใบเล็กๆออกมาเทซุปใส่ชามแล้วเรียกหล่อน
เหยาเสินตะลึงเล็กน้อย เมื่อก่อนเซียวชุ่นพูดว่าแม่ของหล่อนอย่างโน้นอย่างนี้ แต่หล่อนก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่พอได้ตอนนี้กลับรู้สึกอึดอัดนิดหน่อย
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างหลิวหยุนเซียงกับเซียวชุ่นจะคลี่คลายลงไปบ้างแล้ว แต่จะให้เปลี่ยนคำพูดในระยะเวลาอันสั้นคงยากที่หลีกเลี่ยง
หล่อนรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อยจริงๆ ลุกขึ้นบิดขี้เกียจแล้วเดินไปดื่มไม่กี่อึก
เซียวชุ่นมองสีหน้าหล่อนที่อมทุกข์ จึงถามว่า: “เป็นอะไรเหรอ มีเรื่องอะไรที่ไม่ราบรื่นหรือเปล่า?”
“ตอนนี้โรงงานรับสมัครคนงานชุดใหม่ บริหารไม่ง่ายเลย วุ่นวายกันไปหมด และยิ่งไปกว่านั้นข้าวของชอบหายบ่อยๆ เธอก็รู้ว่าฉันเคยบริหารแต่บริษัทเล็กๆอย่างยู่เหลย อินเตอร์เนชั่นเนล แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้บริหารคนเยอะขนาดนี้ ฉันรู้สึกเหนือบ่ากว่าแรง”
เหยาเสินถอนหายใจ
“ทุกสิ่งเริ่มต้นด้วยความยากเสมอ ค่อยๆเป็นค่อยๆไป อย่ากดดันตัวเองมากนัก
เซียวชุ่นให้กำลังใจคนไม่เก่ง และไม่รู้จะพูดอะไร
แต่เมื่อพูดถึงของที่ทำหาย เขาก็นึกถึงมังกรสามทันที ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ติดต่อหาเขาเลยไม่รู้ว่าตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง ตอนนั้นเคยตกลงกันว่าจะให้เขามาช่วยงาน
เหยาเสินยิ้มออกมาอย่างเหนื่อยล้า แล้วพูดว่า: “ไม่ต้องห่วง ฉันจะไม่ทำให้ประธานเซียวผิดหวัง”
เซียวชุ่นโทรหามังกรสามหลังจากที่ออกจากออฟฟิศของเหยาเสิน แต่ไม่มีคนรับสาย ความรู้สึกบ่งบอกว่าอาจจะเกิดเรื่องกับเขา
ตอนนั้นเขาเคยทิ้งที่อยู่ไว้ เซียวชุ่นจึงนั่งแท็กซี่ตรงไปยังเขตที่มังกรสามอาศัยอยู่
คอนโดฟู๋หวาชวงซิงเป็นชุมชนโบราณในยุค90แห่งหนึ่ง มีโครงสร้างแบบทรงกระบอก เนื่องจากเวลาผ่านเนินนาน ผนังด้านนอกของอาคารจึงมีแต่เชื้อราดำ รั้วและกรงเหล็กหน้าต่างก็ขึ้นสนิมหมดแล้ว
บันไดที่แคบและเก่านั้นถูกเขียนเต็มไปด้วยความผันผวนตามอายุ
เซียวชุ่นมาทันเวลามีคนจัดงานแต่งพอดี รถหรูจอดเรียงกันยาวเหยียดอยู่หน้าชุมชนที่เก่าแก่และทรุดโทรม ซึ่งค่อนข้างกะทันหัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊
ไม่อัพต่อแล้วเหรอครับ...