“คุณก็คือคุณเซียวคนนั้นที่ช่วยพ่อของผม ?” ถึงแม้ว่าซ่งชิงโจไม่ได้อยู่ที่เจียงไห่ แต่เรื่องราวในครอบครัวเขากลับรู้เป็นอย่างดี
“พอดีเจอน่ะ แค่เรื่องเล็กน้อยก็เท่านั้น” เซียวชุ่นกล่าวราบเรียบ
“พ่อ ตกลงพ่อจะทำอะไรกันแน่ ?” ซ่งหลิงเอ๋อร์ขมวดคิ้วเอ่ย
“เมื่อกี้ฉันก็พูดไปแล้วไม่ใช่เหรอไง สถานที่แห่งนี้ไม่ใช่ที่ที่แกควรมา รีบกลับไปเรียนเดี๋ยวนี้”
“หนูก็พูดไปแล้วเหมือนกัน เรื่องของหนูไม่ต้องให้พ่อมายุ่งหรอก ยังไงซะหลายปีมานี้พ่อก็ไม่เคยสนใจหนูอยู่แล้ว” ซ่งหลิงเอ๋อร์พูดด้วยอารมณ์ที่เดือดพล่าน
หลังจากซ่งชิงโจออกจากเจียงไห่ไป สิบกว่าปีแล้วก็ไม่เคยกลับไปอีกเลย แม้กระทั่งจดหมายสักฉบับก็ไม่มี ซ่งหลิงเอ๋อร์คับแค้นใจต่อพ่อคนนี้ของเธอเป็นอย่างมาก
“พ่อมีความลำบากใจของตัวเอง บางทีสักวันหนึ่งในอนาคตแกจะรู้เอง” ซ่งชิงโจพูดด้วยสีหน้าที่เศร้าใจอยู่เล็กน้อย
“อย่างนั้นในอนาคตพ่อค่อยมาสนใจหนูแล้วกัน”
ซ่งหลิงเอ๋อร์ลุกขึ้นยืนทันที พลางหิ้วกระเป๋าขึ้น แล้วเอ่ยกับเซียวซุ่น : “อาจารย์ พี่สาม พวกเราไปกันเถอะ” พูดจบก็เดินตรงออกนอกประตูไป
เซียวชุ่นมองซ่งชิงโจที่นั่งอยู่ตรงนั้นด้วยใบหน้าที่ท้อใจ แต่นี่เป็นเรื่องครอบครัวของเขา เขาก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร
ตอนที่เดินไปถึงปากประตู จู่ ๆ ซ่งชิงโจก็เรียกให้เขาหยุด พลันเอ่ยด้วยสายตาที่จริงจังว่า : “รบกวนคุณเซียวดูแลลูกสาวผมให้ดี ๆ ด้วยนะครับ”
เซียวชุ่นพยักหน้าถือเป็นการตอบรับ
. . . . . .
อาทิตย์ยามเย็นค่อย ๆ ลับภูเขาที่ทอดยาวเหยียดจากที่ไกล ๆ ความมืดยามค่ำคืนก็ปืนตามขึ้นมาท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว
การแข่งขันประลองบู๊ระดับกลางได้เริ่มตามกำหนดเวลา
บนพื้นที่กว้างขวางแห่งหนึ่งทางตะวันตกของเมืองได้ก่อสร้างลานประลองบู๊เป็นทรงวงกลมขึ้น บนลานประลองบู๊ห้อยธงทิวหลากสีสันไว้อยู่ แสงไฟสว่างไสวอยู่ทั่วโดยรอบ
บริเวณรอบ ๆ ใช้สายริบบิ้นสีสันที่มีหลากหลายสีล้อมขึ้นเป็นราวกั้นอย่างเรียบง่าย
ชายชาตรีชุดดำร่างใหญ่ที่หน้าตาน่ากลัวสิบกว่าคนได้ลาดตระเวนอย่างต่อเนื่อง ไม่มีใครกล้าทำตัวอยู่เหนืออย่างไม่รู้จักกฎ
ยานพาหนะทุกแบบเบียดเสียดด้านนอกจนแทบจะแน่นขนัด ทว่าเหลือเพียงหนึ่งทางสัญจรที่กว้างประมาณสามเมตรกันเองเพื่อเปิดให้คนใหญ่คนโตแล่นผ่านได้
วงกลมด้านในที่ใกล้กับลานประลองบู๊วางเก้าอี้นับร้อยตัว ตอนที่พวกเซียวชุ่นสามคนมาถึงมีคนจำนวนไม่น้อยนั่งกันจนหนาแน่นแล้ว
ตรงทางเข้ามีคนขายตั๋วโดยเฉพาะ สามพันเป็นแถวหลังที่ราคาถูกที่สุด ส่วนใกล้ด้านหน้ามีตั้งแต่สองหมื่นถึงห้าหมื่นซึ่งราคาไม่เท่ากัน
เงินของเซียวชุ่นให้กับเหยาเสินไปหมดแล้ว มังกรสามยิ่งไม่ต้องพูดถึง ไม่มีเงินมาแต่ไหนแต่ไร
ดังนั้น เงินนี้มีเพียงแค่ซ่งหลิงเอ๋อร์ที่จ่ายให้ได้ เธอซื้อตั๋วราคาห้าหมื่นสามใบไปเลย
ในใจมังกรสามคิดว่า พี่เซียวเจ๋งมาก ถึงกับไม่บอกว่าจีบคุณหนูผู้ร่ำรวยของตระกูลซ่ง ซ้ำยังใช้เงินของเขาจ่าย !
นับวันเขาก็เริ่มเลื่อมใสเซียวชุ่นแล้ว
แม้ว่าจะเป็นแค่การแข่งขันประลองบู๊ระดับกลาง ยังคงมีผู้คนใหญ่คนโตจำนวนไม่น้อยลงแข่ง
โฮ๋เฉิงเหอไม่ต้องพูดถึงเลย รู้ว่าเซียวชุ่นก็มาด้วย หลังจากพาเหลียงฮั่นมาทักทายกับเขา ก็นั่งลงอยู่ที่ด้านหลังพวกเขา
คำพูดคุยโวที่เซียวชุ่นพูดออกมาเมื่อวานยังก้องอยู่ที่หู โฮ๋เฉิงเหอก็อยากลองดูว่าเขาเตรียมตัวคว้าตำแหน่งผู้ชนะเลิศนี้ยังไง
นอกจากโฮ๋เฉิงเหอแล้วยังมีรวมไปถึงพวกตระกูลที่มีชื่อเสียงโด่งดังสามเมืองที่อยู่รอบ ๆ หลังจากแต่ละตระกูลเข้าสนามก็จะเกิดความวุ่นวายและคำวิพากษ์วิจารณ์เป็นพัก ๆ
“ซ่งชิงโจก็มาแล้ว !”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊
ไม่อัพต่อแล้วเหรอครับ...