“แกสู้กับกับผู้อาวุโสท่านนั้นเป็นไง ?” ซ่งชิงโจกระซิบถามวัยรุ่นที่อายุสามสิบที่อยู่ข้างกายคนนั้น เป็นยอดฝีมือที่เขาจ่ายเงินจำนวนมากโขจากต่างถิ่นเพื่อเชิญมาช่วยสู้โดยเฉพาะ
“ผมสู้เขาไม่ได้” ชายหนุ่มมีสีหน้าละอาย พูดตามความจริง
“ไอ้สวะ !” ซ่งชิงโจตะคอกเบาๆ
ซือคงเฉินกระตุกยิ้มที่มุมปากด้วยความเหยียดหยาม จ้องมองการประลองที่อยู่บนลานเงียบ ๆ
เป็นเพียงการแข่งขันที่ไม่เข้าทำเนียบระดับชั้นอย่างที่คิดไว้ น่าผิดหวังที่พวกผู้อาวุโสในสมาคมให้ความสำคัญเช่นนี้ ถึงกับส่งฉันมาเข้าร่วมด้วยตนเอง ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่จริงๆ
ครืน !
ในที่สุดซู่ยิ่นยังลงมือตอบโต้ !
หลวงจีนบู๊คนนั้นกระโดดขึ้น แผดเสียงพุ่งหมัดมายังเบื้องหน้าของเขา ซู่ยิ่นสีหน้าไม่แยแส กำหมัดต้อนรับ สองหมัดดุจสองรถไฟชนกัน
หลวงจีนบู๊รู้สึกได้ถึงลมหายใจยิ่งใหญ่มหาศาลปะทะหน้าทันที แขนทั้งท่อนเหมือนถูกบดจนกระดูกแหลกละเอียดในฉับพลัน ความเจ็บปวดที่แสนสาหัสแผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่างกายอย่างรวดเร็ว
ร่างกายถูกดีดออกไปไกลหลายเมตรตามลมหายใจยิ่งใหญ่มหาศาลนั่น ร่วงลงบนลานประลองบู๊ดังสนั่น อวัยวะภายในทั้งหมดรู้สึกปวดบิดเหมือนใส่ผิดที่อย่างไรอย่างนั้น
จากนั้นกลิ่นเหม็นคาวเอ่อมาจากลำคอ
อั๊ก !
เลือดสดพ่นออกมาจากปาก แล้วสลบไป
ซู่ยิ่น ชนะแล้ว
ในวันปกติมวลชนที่อยู่ล่างลานรู้ข้อมูลของสมาคมบู๊โบราณเพียงเล็กน้อยจากข่าวลือเท่านั้น วันนี้ได้เห็น ไม่มีใครเลยที่จะไม่รู้สึกทึ่ง
ซู่ยิ่นมีสีหน้ายโสโอหัง พลันเดินขึ้นไปบนขอบลานประลองบู๊
“การมาของสมาคมบู๊โบราณของพวกเราในครั้งนี้ไม่ได้มาเพื่อชื่อเสียงอันจอมปลอมอย่างผู้ชนะเลิศเล็กน้อยแค่นี้ เพียงต้องการจะบอกทุกคน และบอกคนทั่วหล้า นักบู๊ถือสมาคมบู๊โบราณของฉันเป็นที่เคารพ และสมาคมของพวกเราก็เปิดประตูต้อนรับนักบู๊ทั่วหล้ามาเข้าร่วม แน่นอนว่ามีเงี่อนไข อย่างคนไร้ความสามารถประเภทนี้ก็อย่ามาเลย”
เขาเหลือบมองหลวงจีนบู๊ที่ยังสลบอยู่ตรงนี้แวบหนึ่ง สายตาเปี่ยมไปด้วยความเหยียดหยาม และความหมายของคำพูดพวกนี้ที่เขาพูดในตอนนี้ก็ชัดเจนมากเช่นกัน มีความมั่นใจว่าผู้ชนะเลิศนั้นก็คือตัวเองแล้ว
ผู้ชมการแข่งขันที่อยู่ล่างลานเห็นเหตุการณ์เมื่อครู่ ในใจก็ยอมรับว่าผู้ชนะเลิศในคืนนี้ได้เกิดขึ้นแล้วไปโดยปริยาย
ผู้คนอดไม่ได้ที่จะคิด ซือคงเฉินยังไม่ได้ลงมือ ลูกน้องข้างกายของเขาก็มีกำลังรบที่น่าตกใจเช่นนี้ ตัวเขาเองจะมีความน่าหวาดกลัวมากแค่ไหนกัน ?
การประลองของลานประลองบู๊ระดับสูงในคืนพรุ่งนี้ ไม่เหนือความคาดหมายก็ตกเป็นของสมาคมบู๊โบราณแล้วล่ะ
“เอ๊ะ? ไม่แข่งแล้วเหรอ ?”
คราวนี้มีเสียงไพเราะดุจนกขมิ้นดังมาจากข้างลานประลองบู๊
ทุกคนเห็นเพียงแม่หนูที่แต่งตัวสวยงามเป็นหญิงสาวคนหนึ่ง กระโดดดิ๋ง ๆ ๆ วิ่งขึ้นมาลานประลองบู๊ มองซู่ยิ่นด้วยใบหน้าที่เซ่อ ๆ แต่ก็ดูน่ารักดี และมองผู้ชมล่างลานอีกครั้ง จึงเอ่ยปากถามอีกรอบ : “ฉันยังไม่ได้แข่งเลยนะ สู้เสร็จแล้วเหรอ ?”
ล่างลานเงียบเป็นเป่าสาก สายตาที่เปี่ยมไปด้วยความตกใจหลายร้อยคู่มองไปที่เธอพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
ซ่งชิงโจเห็นหญิงสาวคนนั้นก็เบิกตาโพลงทันที พลันสูดลมหายใจเฮือกหนึ่ง
“ซ่งหลิงเอ๋อร์ แกลงมาเดี๋ยวนี้นะ ! นี่เป็นสถานที่ให้แกมาก่อความวุ่นวายหรือไง ?”
เขาลุกขึ้นตะโกนทันที รีบเหมือนมดที่อยู่ในกระทะร้อน
ซ่งชิงโจรู้ว่าปกตินั้นซ่งหลิงเอ๋อร์เคยฝึกบู๊ แต่ท่าที่งดงามแต่ใช้การไม่ได้จริงพวกนั้นของเธอขึ้นไปบนลานประลองบู๊ก็คือการรนหาที่ตาย ! มิหนำซ้ำที่ยืนอยู่ด้านบนเป็นถึงนักบู๊ขั้นหกของสมาคมบู๊โบราณเชียวนะ !
ซ่งหลิงเอ๋อร์เหลือบมองเขาอย่างไม่สนใจนักแวบหนึ่ง พลันเงยหน้ามองไปยังซู่ยิ่น : “ยังจะสู้หรือเปล่า ?”
หากไม่ใช่ว่าได้เจอแม่หนูคนนี้อีกครั้งในเวลานี้ ซู่ยิ่นน่าจะลืมไปแล้วว่าเคยเจอคนที่ทำให้เขารู้สึกชื่นชมมากคนหนึ่งที่ระหว่างทาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊
ไม่อัพต่อแล้วเหรอครับ...