“น้องเฉิน?”ซือคงซินหรงพูดอย่างประหลาดใจ
“ปู่ครับ ผมเลื่อนขั้นอีกแล้ว หลังจากกลับจากภารกิจนี้ผมก็จะเป็นนักบู๊ขั้นเก้าของสมาคม ตำแหน่งอาวุโสอยู่ใกล้เพียงเอื้อม”ซือคงเฉินหัวเราะเบาๆ
ตระกูลซือคงทุกคนมองหน้ากันอย่างมีความสุข
ครั้งนี้บ้านซือคงซิงไม่ได้มา ถ้าอยู่ล่ะก็คาดว่าได้ยินข่าวนี้ต้องไม่ดีใจแน่ ชัดเจนว่าสถานะในตระกูลซือคงของซือคงเฉินตอนนี้สูงกว่าซือคงซิงแล้ว
“พี่เฉินเก่งมาก อิจฉาจัง ผู้อาวุโสของสมาคมบู๊โบราณฟังดูแล้วมีสิทธิมากนะ”
“มณฑลหนิงโจวมีผู้อาวุโสได้แค่สามคน นายว่าสิทธิใหญ่ไหมล่ะ?”
ผู้อาวุโสของสมาคมบู๊โบราณไม่ใช่แค่รับผิดชอบงานต่างๆ ของสาขา ที่สำคัญกว่านั้นคือมีบริษัทภายใต้สมาคมที่ทั้งเปิดเผยและแอบแฝงนับไม่ถ้วน ยังไงสมาคมก็ต้องการทรัพยากรทางการเงินเพื่อความอยู่รอด ถ้าได้เลื่อนขั้นเป็นผู้อาวุโสก็จะมีสิทธิ์ในการพูดคุยกับองค์กรต่างๆ ในพื้นที่ และก็จะมีน้ำหนักมากด้วย
น้องเฉินมีอนาคตก้าวไกลมาก ซือคงซินหรงพูดในใจ
ซือคงเฉินเพลินไปกับคำชมของคนในครอบครัวที่มีต่อเขาด้วยใบหน้าพึงพอใจ
วันนี้จะเป็นวันที่ผมซือคงเฉินโด่งดังไปทั่วทั้งหนิงโจว!
ตอนนี้สายตาในงานแทบจะจดจ้องไปที่ต้วนเจียกับซือคงเฉิน แน่นอนว่ายังมีสายตาที่ยังให้ความสนใจกับซ่งหลิงเอ๋อร์อย่างอยากรู้อยากเห็น
ตอนนี้ซ่งหลิงเอ๋อร์กำลังถือขนมหนึ่งห่อ ในปากกำลังยัดจนโป่งออกมา มองไปแล้วก็แค่สาวสวยตัวเล็กที่แสนจะน่ารัก ตรงไหนกันที่เหมือนผู้หญิงแปลกๆ ที่เอาชนะสมาคมบู๊โบราณนักบู๊ขั้นหกคนนั้นได้?
วันนี้เซียวชุ่นบอกเธอไม่ให้เธอขึ้นประลอง ดังนั้นหน้าที่ของเธอวันนี้ก็คือมาดูฉากมันส์ๆ และเงินจากการชนะ
ไม่นานนัก การแข่งขันประลองบู๊ก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
ที่อยู่ลานประลองตอนนี้คือชายหนุ่มอายุประมาณยี่สิบสี่ยี่สิบห้า ร่างผอมเล็ก หน้าทรงยาว คิ้วทรงสามเหลี่ยม มีชื่อว่าเถียนปิน สวมชุดประจำชาติหลากสี ดวงตามีความเจ้าเล่ห์อยู่เสมอ
เถียนปินคือผู้ประลองที่ผ่านการประลองยกหนึ่งแล้ว และแน่นอนว่าไม่ควรมองข้ามความแข็งแกร่ง
อย่างที่โฮ๋เฉิงเหอพูด ด้านบนลานประลองบู๊ระดับสูงคือกลุ่มที่ไม่ใช่มนุษย์ ดังนั้นน้อยคนนักที่จะกล้าขึ้นเวทีมาเผชิญหน้ากับความท้าทายในเวลานี้ ทุกคนต่างมองไปที่ซือคงเฉินกับต้วนเจีย
เป้าหมายที่ต้วนเจียมาครั้งนี้ก็เพื่อมาช่วยซ่งชิงโจ และเป้าหมายของซ่งชิงโจก็คือแชมป์แค่ไม่ใช่สมาคมบู๊โบราณก็ถือว่าภารกิจสำเร็จ ดังนั้นเขาจึงไม่รีบ
ตอนนี้กลับเป็นชายวัยกลางคนที่สวมเสื้อคลุมลัทธิเต๋าสีน้ำเงินอมเขียวลอยขึ้นไป หล่นไปที่ลานประลองบู๊
“เขามังกรพยัคฆ์ เสวียนฉี”ชายวัยกลางคนพูดคำนับ
เขามังกรพยัคฆ์เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิเต๋าจีน วัดเทียนซือสถานที่ที่มีแต่คนเก่งแต่ไม่แสดงตัว เสวียนฉีเป็นอีกหนึ่งคนที่มีชื่อเสียง ด้านล่างส่งเสียงเชียร์ดังขึ้นมาทันที
“อาจารย์ อาจารย์ว่าพวกเขาใครเจ๋ง?”ซ่งหลิงเอ๋อร์กลืนขนมในปาก เช็ดมุมปากแล้วถาม
พวกโฮ๋เฉิงเหอสามคนที่อยู่ด้านหน้าก็เงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ
“หากพูดถึงฝีมือ คนจริงคนนั้นฝีมือไม่เบา แต่เถียนปินสามารถสู้มาได้แน่นอนว่าต้องมีทางอื่นที่เจ๋ง นัดนี้ตัดสินยาก”เซียวชุ่นตอบ
“อ้อ งั้นฉันยังไม่แทงดีกว่า”ซ่งหลิงเอ๋อร์พูด
“ประธานโฮ๋ ทำไมผมรู้สึกว่าวัยรุ่นคนนี้ไม่เทพอย่างที่คุณพูดล่ะ”เวินกวงเหลี้ยงหัวเราะเบาๆ
โฮ๋เฉิงเหอหัวเราะแห้ง
“จะรีบไปไหน ไม่ต้องรีบ”
ทั้งสามคนแทงว่าเถียนปินชนะจากการตัดสินของตัวเอง แต่ก็ไม่ได้ลงเงินมากนัก เพียงสามล้าน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เขยเลือดร้อน ตะลุยอาณาจักรบู๊
ไม่อัพต่อแล้วเหรอครับ...