เกิดใหม่ ไปให้สุด นิยาย บท 203

ออเดอร์ใหญ่ 10,000 ล้าน!

เป็นภาพที่หาดูได้ยาก ไม่ว่าตลาดจะอยู่ที่ใดในโลกก็ตาม

บ่ายวันนี้ นักลงทุนจากทั่วทุกมุมโลกจับตาดูหุ้นฮาร์เบอร์ เมื่อมีคำสั่งซื้อจำนวนมากถึง 10,000 ล้าน ซึ่งมันมีนัยสำคัญอย่างแท้จริง

เมื่อมีการอัดฉีดเงินจำนวน 10,000 ล้านเข้าสู่ตลาดหุ้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นเครื่องกระตุ้นหัวใจสำหรับฝั่งผู้ซื้อที่เกือบหมดทรัพยากรทั้งหมดแล้ว

ทุกคนรู้ว่าการกอบกู้ตลาดหุ้นจากรัฐบาลและสี่ครอบครัวเศรษฐีได้เริ่มขึ้นแล้ว

ในที่สุด กองทุนหลายแสนล้านก็มาถึง!

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนไม่สามารถมีความสุขได้นาน คำสั่งซื้อจำนวนมากถึง 10,000 ล้านนี้ ถูกกลืนกินในวินาทีต่อมาราวกับเป็นการยั่วยุ

ในเวลาเดียวกัน คำสั่งขายจำนวนมากก็ปรากฏขึ้นที่ด้านข้างของฝ่ายชอร์ตเซลล์

ดัชนีฮันเซลที่เพิ่งมีสัญญาณการฟื้นตัว ลดลงเหลือประมาณ 7,800 จุด อีกครั้ง และมีความผันผวนรอบตัวเลขนั้น

กองกำลังหลักของฝ่ายขายและฝ่ายซื้อเริ่มทำการจู่โจ่มอย่างรุนแรงไปที่ 7,800 จุด โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า

“ซื้อหุ้นสิบอันดับแรกของธนาคารอินฟาร์สตรัคทรู พลังงานและเทคโนโลยี และกลุ่มธุรกิจหลักสี่กลุ่ม

“มีหุ้นอยู่ 40 ตัว และจะมีทั้งหมด 40,000 ล้าน หากแต่ละหุ้นมี 1,000 ล้าน หลังจากที่คุณทำเสร็จ ฉันจะอนุมัติให้”

แจสเปอร์ยังคงออกคำสั่งในห้องนั่งเล่น ในขณะนี้ บรรยากาศและสถานการณ์ในห้องนั่งเล่นนั้นดุเดือดเป็นอย่างมาก

แจสเปอร์เป็นผู้นำกำลังหลักของฝ่ายซื้อ เขาได้จับกำลังหลักลึกลับของฝ่ายขายที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด ในการต่อสู้ระยะประชิด ธุรกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านเกิดขึ้นทุกนาทีและทุกวินาที

ในตลาดหุ้น นักลงทุนรายย่อยถูกกำจัดออกจากเกมแล้ว ที่เหลือคือองค์กรต่าง ๆ ที่ขับรถหยาบ ๆ ทับผู้คนเป็นเรื่องปกติ แต่ตอนนี้ พวกมันสั่นเหมือนใบไม้ในสายลม และไม่กล้าส่งเสียงใด ๆ ขณะมองดูกปืนใหญ่สองกระบอกที่กำลังสาดกระสุนใส่กัน

ตลาดหุ้นทำงานเหมือนกับนิยายแฟนตาซีที่มีระดับพลังที่แตกต่างกัน

โดยปกติ ผู้ค้าปลีกจะทำตามทิศทางของผู้ที่อยู่ในระดับสูงตามห่วงโซ่อาหาร โดยหวังว่าจะทำเงินหนึ่งหรือสองดอลลาร์จากปัญญาของคนรวย ในขณะเดียวกัน กลุ่มนักลงทุนรายย่อยที่รวมตัวกันก็แข็งแกร่งพอที่จะเอาชนะกองกำลังใด ๆ ก็ตามลงได้ มีนักลงทุนรายย่อยจำนวนมากเกินไป จึงยากที่จะอยู่ร่วมกันได้ด้วยทรัพยากรที่มีมากมายเช่นนี้

ผู้ที่มีทุนสูงมักจะเรียกว่า 'วาฬ' นักลงทุนรายย่อยรายใหญ่เหล่านี้มีเงินทุนจำนวนมาก และมีความสามารถในการโน้มน้าวราคาของบริษัทที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ ตามราคาตลาดขนาดเล็กถึงขนาดกลางได้

การเลื่อนระดับขึ้นอีกระดับจะเป็นองค์กร องค์กรมักจะนำโดยวาณิชธนกิจหรือบริษัทการลงทุนขนาดใหญ่ คนเหล่านี้ควบคุมเมืองหลวงโดยเริ่มต้นจากพันล้านในขั้นต้น และไม่กี่อึดใจก็จะกลายเป็นหมื่นล้าน

โดยรวมแล้ว องค์กรต่าง ๆ ถือเป็นจระเข้ยักษ์ในตลาดหุ้น โดยปกติแล้วพวกเขาจะเป็นคนโทรนัดและทำข้อตกลงในตลาด

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ อำนาจขององค์กรนั้นไม่มีนัยสำคัญเลย

เป็นเพราะกองกำลังหลักที่แท้จริงของทั้งสองฝ่ายมีเงินทุนสูงถึงหลายแสนล้าน และอาจส่งผลกระทบต่อความผันผวนของหุ้นฮาร์เบอร์ได้อย่างง่ายดาย

หลังจากการอนุมัติหุ้น 40 ตัวที่แจสเปอร์เลือก มันเริ่มปรับตัวสูงขึ้น

หุ้นจะกระตุ้นตลาด ในขณะที่ดัชนีฮันเซลเพิ่มขึ้น แรงกดดันต่อฝ่ายชอร์ตเซลล์จะพุ่งสูงขึ้น

เห็นได้ชัดว่าฝ่ายชอร์ตเซลล์ไม่ได้คาดหวังว่าแจสเปอร์จะดำเนินการในขณะนี้

อีกอย่าง หุ้น 40 ตัวที่แจสเปอร์เลือกนั้นเป็นของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ที่มีขนาดมหึมา พวกเขาจะต้องจ่ายราคาสูง หากต้องการขายสิ่งเหล่านี้

กองกำลังหลักของฝ่ายชอร์ตเซลล์ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ในวินาทีถัดมา กองทุนมูลค่า 100,000 ล้านก็เข้าสู่ตลาด

ราวกับว่าพวกเขากำลังเข้าห้ำหั่นกันด้วยความรุนแรงเท่าเทียมกัน กองทุน 100,000 ล้าน เข้าสู่หุ้น 40 ตัว และทำให้ตลาดพังทลายอย่างเมามัน

"เจอพวกนั้นแล้ว!"

ดวงตาของแจสเปอร์สว่างไสวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

แม้ว่าพวกเขาจะต่อสู้ในสงครามครั้งนี้กับคู่ต่อสู้ของพวกเขา และพวกเขาไม่สามารถรับรู้กลิ่นอายหรือควันใด ๆ ก็ตาม แจสเปอร์ก็สามารถสัมผัสได้ถึงแรงกดดันจากอีกฝ่ายในทุกวินาที

พวกเขาเป็นพวกที่เก๋าเกมมาก

นอกจากนี้ พวกเขายังเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้าที่มีทักษะในการซื้อขายหุ้นด้วยเงินทุนจำนวนมาก

เหตุผลที่แจสเปอร์ทำแบบนั้นในตอนแรก คือการบังคับให้อีกฝ่ายนำเงินทุนของกองกำลังหลักออกมา

ในขณะนี้ ด้วยการเพิ่มเงินทุนจำนวน 100,000 ล้าน ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะมองเห็นผ่านการตัดสินใจของแจสเปอร์และกำลังเผชิญกับความท้าทาย

“กลยุทธ์นี้…” เจคอุทาน